ข่าวฟุตบอล ระเบิดฟาดแข้งกันไปแล้ว สำหรับศึกยูโร 2012 และวันนี้ฟุตบอลกระปุก ก็ขอนำเสนอ สกู๊ปพิเศษเด็ดๆ อีกหนึ่งสกู๊ปนั้นคือ 7 กุนซือสมองเพชร ใน ยูโร

ภาพประกอบจาก: AFP picture

ออกสตาร์ทกันไปแล้วกับ ฟุตบอลยูโร 2012 ฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกรอคอย วันนี้ ทีมงานกระปุกฟุตบอลเลยขอนำเสนอเรื่องราว ของ โค้ช กุนซือ ระดับหัวกระทิของชาติต่างๆที่ร่วมสู้ศึกยูโรในครั้งนี้ จะมีใครบ้างนั้น เราไปชมพร้อมๆกันครับ

เริ่มด้วยคนแรกที่ทาง ฟุตบอลกระปุก ขอนำเสนอ นั้นคือ 1. สลาเวน บีลิช (slaven bilic) เกิดเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 1968 ปัจจุบัน อายุ 44 ปี บีลิช ถือเป็นกุนซือทีมชาติที่อายุน้อยที่สุดของโครเอเชียที่เคยมีมา สมัยเป็นนักเตะเขาเล่นตำแหน่งกองหลัง เคยค้าแข้ง อยู่กับ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิท ทีมดังในบ้านเกิด คาร์ลสรูห์ล ,เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน จนประกาศแขวนสตั๊ด และจากนั้นเขาก็ผันตัวเองมาเป็นโค้ชคุมทีมระดับเยาวชน และได้เก็บประสบการณ์การทำทีมมาเรื่อยๆจนได้เลื่อนขั้นมาคุม ทีมชาติโครเอเชีย ชุดใหญ่เต็มตัวจนถึงปัจจุบัน สลาเวน บีลิช มีผลงานโดดเด่นมาตลอดนับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมในปี 2008 จากผลงานอันสุดยอดที่สามารถเขี่ย อังกฤษ ตกรอบคัดเลือก ตามด้วยกวาดชัย 3 นัดรวดในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นแมตช์ที่เอาชนะเยอรมัน 2ประตูต่อ1  ผลงานที่ถือว่าดีที่สุดของเฮดโค้ชคนนี้คือ เขาสามารถพาโครเอเชีย เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้นั้นเอง

 2. โยอาคิม เลิฟ (joachim low) เกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1960 ปัจจุบัน อายุ 52 ปี โยอาคิม เลิฟ เคยเป็นนักเตะมาก่อน ก่อนจะปิดฉากชีวิตค้าแข้งไปในปี 1995 และหันมาเอาดีทางด้านการเป็นเทรนเนอร์กุนซืออย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นจากการเป็นนายใหญ่ให้กับ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ในปี 1996 จากนั้นก็สั่งสมประสบการณ์กับการคุมทีมกับอีกหลายสโมสรทั้งในและนอก ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นนายใหญ่ทีมชาติเยอรมันอย่างเต็มตัวเมื่อปี 2006 ด้วยเกมรุกที่สวยงามของเยอรมันที่เคยทำได้ในฟุตบอลโลก 2006 ก็ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมมาถึงตอนนี้เยอรมันกลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และเมื่อถึงเวลาฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ๆสำคัญๆ เยอรมันภายใต้การคุมทีมของ โยอัคคิม เลิฟ จะถูกจับวางเป็นทีมเต็งตลอดมา

 3. ดิ๊ก อัตโวคาท (Dick Advocaat) กุนซือชาวดัตช์วัย 64 ปี เข้ามากุมบังเหงียนทีมชาติรัสเซีย เมื่อ ปี 2010 ผลงานการคุมทัพ หมีขาว ของ อัตโวคาท นั้น พาทีมลงเล่นไปแล้ว 18 นัด คว้าชัยชนะ 10 เกม เสมอ 5 เกม และแพ้ 3 เกม ถือว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียวถ้าเทียบกับชื่อชั้นของทีมและนักเตะที่เขาเรียกมารับใช้ชาติ รัสเซียผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายยูโร 2012 ด้วยความเชื่อมั่นที่เต็มเปี่ยมว่าพวกเขาสามารถทำผลงานได้ดีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเมื่อ 4 ปีก่อนที่ทะลุเข้าถึงรอบตัดเชือกก่อนพ่ายให้กับทีมแชมป์อย่างสเปน หมีขาว ภายใต้การคุมทีมของ อัตโวคาท เริ่มต้นการเล่นในรอบคัดเลือกได้อย่างกระท่อนกระแท่นด้วยการชนะอันดอร์ร่า 2-0 ก่อนแพ้คาบ้านต่อสโลวาเกีย 1-0 แต่ อัตโวคาท ก็ยังสามารถพาเข้ามาเล่นยูโร2012 รอบสุดท้ายด้วยการเป็นแชมป์ของกลุ่มบี

 4. เชซาเร่ ปรันเดลลี่ (Cesare Prandelli) เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1957 ปัจจุบัน อายุ 55 ปี ปรันเดลลี่ เข้ามารับหน้าที่นายใหญ่ของ อิตาลี ต่อจาก มาร์เชลโล่ ลิปปี้ หลังศึกฟุตบอลโลก 2010 สำหรับ อิตาลี ในยุคของ ปรันเดลลี่ มีเพียงแค่ บุฟฟ่อน ยอดนายทวาร กัปตันทีม และ อันเดรีย ปีร์โล่ เพลย์เมกเกอร์แม่ทัพขุนพลอัซซูรี่ ที่เป็นแกนหลักจากชุดรุ่งเรือง ซึ่งถ้าวิจารณ์ตามศักยภาพแล้ว อิตาลีชุดนี้อาจจะยังเป็นรอง แต่ อิตาลี สายเลือดใหม่ ภายใต้การนำของ ปรันเดลลี่ ก็ไม่สามารถประมาทได้เช่นกัน ส่วนด้านผลงานการทำทีมของนายใหญ่คนนี้คือ สมัยเป็นเทรนเนอร์ให้ ม่วงมหากาฬ ฟิออเรนติน่า ทีมดังในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ด้วยการพาม่วงมหากาฬ คว้าตั๋วลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มได้ถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน และได้รับเลือกให้เป็นกุนซือยอดเยี่ยมประจำปีของ เซเรีย อา อิตาลี จากผลงานในซีซั่น 2007-08 อีกด้วย

 5. บิเซนเต้ เดล บอสเก้ (Vicente del Bosque) เกิดเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 1950 ปัจจุบัน อายุ 62 ปี เดล บอสเก้ มีผลงานที่โดดเด่นและยอดเยี่ยมในการเป็นเทรนเนอร์สมัยคุมทีม เรอัล มาดริด พาทีมกวาดแชมป์ได้อย่างมากมายด้วย ด้วยการเป็นแชมป์ ลา ลีกา 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย กระทิงดุ สเปน ในยุคของ เดล บอสเก้ เป็นหนึ่งในทีมไร้พ่ายจากรอบคัดเลือก เพรียบพร้อมไปด้วยดาราจากบาร์เซโลน่า และเรอัล มาดริด ในยุครุ่งเรืองของลูกหนังสเปน ด้วยสไตล์การเล่นบอลบนพื้นที่สวยงาม และยังพา สเปน คว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก เมื่อปี 2010 อีกด้วย เดล บอสเก้ กุนซือวัยทองคนนี้ ถือเป็นกุนซือที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนังสเปนอีกด้วย

 6. โลร็องต์ บล็องก์ (Laurent Blanc) เกิด วันที่ 19 พฤศจิกายน 1965 ปัจจุบัน อายุ 47 ปี บล็องก์ อดีตเซนเตอร์แบ็กทีมชาติฝรั่งเศส หนึ่งในขุนพลชุดแชมป์โลก1998 บล็องก์ ผันตัวเองไปเป็นเทรนเนอร์ กุมบังเหงียนบอร์กโดซ์ 3 ฤดูกาล กับผลงานอันยอดเยี่ยมด้วยการคว้ารางวัลเทรนเนอร์ยอดเยี่ยมแห่งปีมาครอง ในปีต่อมา บล็องก์ ประสบความสำเร็จสูงสุดกับ บอร์กโดซ์ ต้นสังกัด หลังจากคว้าดับเบิ้ลแชมป์ทั้ง ลีก เอิง และ เฟร้นช์ ลีก คัพ รวมทั้งทำสถิติในเกมลีกด้วยเก็บชัย 11 นัดติดต่อกันอีกด้วย ก่อนจะตัดสินใจอำลาตำแหน่ง พร้อมทั้งเสนอตัวเข้ารับหน้าที่เทรนเนอร์ทีมชาติฝรั่งเศสแทนที่ เรย์มงด์ โดเมอเน็ค ที่โดนปลดหลังจากพา ตราไก่ ทำผลงานน่าผิดหวังในฟุตบอลโลกเมื่อ 2010 โดย กุนซือวัย 47 ปี รายนี้ สามารถปลุกพลพรรคขุนพลตราไก่กลับมาคืนฟอร์มเก่งได้อย่างน่าประทับใจ ฝรั่งเศส ในยุคของ โลร็องต์ บล็องก์ นั้น เป็นนักเตะสายเลือดใหม่เกือบทั้งสิ้น ชื่อชั้น ฝีเท้า อาจจะสู้ทีมอื่นที่เป็นทีมที่น่าจับตาไม่ได้ แต่ด้วยกึ๋นของ บล็องก์ ก็น่าจะทำให้ฝรั่งเศส เป็นอีก1 ทีมที่ไม่สามารถประมาทได้

 และคนสุดท้ายที่ทางฟุตบอลกระปุกขอเลือกนั้นคือ 7. รอย ฮอดจ์สัน (Roy Hodgson) เกิดเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1947 ปัจจุบัน อายุ 65 ปี ผลงานการทำทีมที่ถือว่าดีที่สุดคือช่วงที่ รอย ฮอดจ์สัน คุมทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ และสามารถพาเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ในฟุตบอลโลก 1994 และเข้ารอบคัดเลือกในฟุตบอลยูโร 1996 ได้ โดยก่อนหน้านี้สวิตเซอร์แลนด์ไม่เคยเข้ารอบสุดท้ายในรายการใหญ่ได้เลยตั้งแต่ในคริสต์ทศวรรษ 1960 รอย ฮอดจ์สัน เป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรชื่อดังมากมาย อาทิเช่น มัลโม่, แบล็คเบิร์น, กราสฮ็อปเปอร์ ซูริค, เอฟซี โคเปนเฮเก้น, อูดิเนเซ่, ไวกิง และ ลิเวอร์พูล จนกระทั่ง ปัจจุบัน รอย ฮอดจ์สันได้ถูกสมาคมฟุตบอลอังกฤษแต่งตั้งเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติอังกฤษ เพื่อสู้ศึกฟุตบอลยูโร 2012 หลัง คาเปลโล่ประกาศอำลาทีมไปกระทันหัน

 เป็นยังไงกันบ้างครับ กับ สกู๊ปพิเศษ 7 กุนซือสมองเพชรในยูโร ที่ทาง กระปุกฟุตบอล ได้คัดสรรเลือกจากผลงานอันยอดเยี่ยมที่ผ่านมาของกุนซือแต่ละชาติ ไม่รู้ว่าจะถูกใจเพื่อนๆกันมากน้อยขนาดไหน ยังไงก็อย่าลืม ติดตามชมสกู๊ปที่ทางเรานำมาเสนอให้ดูกันนะครับ แล้วพบกันใหม่ สกู๊ปพิเศษยูโรในครั้งหน้า รับรองเด็ดไม่แพ้กันแน่นอน ดูบอลให้สนุก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการพนันนะครับ สวัสดีครับ

//football.kapook.com/news_inside.php?id=15565&key=news