ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
พฤษภาคม 2555
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
1 พฤษภาคม 2555

บัลลังก์สะเทือน! เรือใบเฉือนผี1-0ยึดฝูง

ผลบอล พรีเมียร์ลีก
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0

แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ นัดติดสินแชมป์ พรีเมียร์ลีก นัดนี้ ก่อนเกม “เรือใบสีฟ้า” ที่ได้เล่นในรังมี 80 คะแนนตามหลัง แมนฯยูไนเต็ด 3 คะแนน โดยมีเงื่อนไขต้องชนะสถานเดียวเพื่อขึ้นนำจ่าฝูง ซึ่งเกมนี้คาร์ลอส เตเวซ ได้ลงตัวจริงคู่กับเซร์คิโอ อเกวโร่ ขณะที่ “ปีศาจแดง” อัดกลาง 5 รายใช้ เวย์น รูนี่ย์ ยืนกองหน้าตัวเป้า

เริ่มเกมในช่วงแรก แมนฯยูไนเต็ด ที่เกมนี้มาในระบบ 4-5-1 มีโอกาสลุ้นก่อนตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะวอลเลย์ของไมเคิล คาร์ริค แต่บอลไปติดก็อมปานี ที่ยืนขวางอยู่ ถัดมา 3 นาที เจ้าบ้านมีโอกาสบ้างจากดาบิด ซิลบา แต่จังหวะยิงยังไม่เข้ากรอบเช่นกัน

เกมในช่วงแรกยังดูอึดอัดสำหรับทั้งสองทีม แต่เริ่มเป็น แมนฯซิตี้ ที่เริ่มครองบอลได้มากกว่าเล็กน้อย นาทีที่ 16 คาร์ลอส เตเวซ ได้โอกาสแลบเข้าเขตโทษจากจังหวะจ่ายของ นาสรี่ ก่อนที่กองหน้าอาร์เจนไตน์ จะตวัดเข้ากลาง แต่เป็นฟิล โจนส์ ลงมาช่วยสกัดได้ทัน

นาทีที่ 19 แว็งซ็องต์ ก็อมปานี มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมจากจังหวะปะทะกับเวย์น รูนี่ย์ แต่จากนั้นเกมเป็น “เรือใบสีฟ้า” ได้บุกเข้ากดดันต่อเนื่องและได้เตะมุมสองหนติด นาทีที่ 26 กุน อเกวโร่ มาได้โอกาสดีที่จะยิงให้เจ้าบ้านขึ้นนำ จากจังหวะที่ ก็อมปานี เติมเกมขึ้นมาโหม่งชงให้กองหน้าร่างเล็กได้วอลเลย์ แต่บอลข้ามคานไป

รูปเกมเริ่มเป็นของ แมนฯซิตี้ ที่ได้เดินเกมรุกต่อเนื่องแล้ว นาทีที่ 36 กุน อเกวโร่ ได้จังหวะวอลเลย์อีกครั้งจากบอลเปิดทางขวา แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป จากนั้น “ปีศาจแดง” เริ่มตอบโต้บ้าง และมาได้ลุ้นจบสกอร์ในอีก 6 นาทีต่อมา จากจังหวะเตะมุมสั้นทางซ้ายมาถึงพาร์ค ชี ซอง ได้สอดมายิงในเขตโทษด้วยซ้าย แต่บอลข้ามคานไปแบบมีลุ้น

เกมครึ่งแรกทำท่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ทว่านาทีที่ 45 แมนฯซิตี้ มาได้ลูกเตะมุมทางขวา ดาบิด ซิลบา ได้เปิดเข้ากลางเขตโทษ และเป็นแว็งซ็องต์ ก็อมปานี ได้สะบัดหัวโขกเต็มๆ ส่งบอลเข้ากลางประตูชนิดที่เสียงเชียร์แฟนบอลเจ้าบ้านกระหึ่ม 1-0 ก่อนที่ “เรือใบสีฟ้า” จะรักษาสกอร์นี้ไว้ได้จนหมดครึ่งแรก

มาต่อครึ่งหลัง แมนฯยูไนเต็ด เริ่มเดินเกมบุกมากขึ้น และมาได้ลุ้นจากจังหวเตะมุม แต่ก็ยังทำอันตรายไม่ได้ ขณะที่ “เรือใบสีฟ้า” ก็มีจังหวะทำเกมรุกขึ้นมาตอบโต้เช่นกัน นาทีที่ 52 ยาย่า ตูเร่ มาโดนใบเหลืองจากจังหวะไม่พอใจคำตัดสินและทุ่มบอลลงพื้น

นาทีที่ 57 ซาเมียร์ นาสรี่ ได้จังหวะหมุนตัวยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่บอลหลุดออกหลังไป ถัดมา 1 นาที แมนฯยูไนเต็ด เปลี่ยนตัวส่งแดนนี่ เวลเบ็ค ลงมาแทนพาร์ค ชี ซอง

ผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมงของเกม แมนฯยูไนเต็ด เริ่มครองบอลได้มากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเจะาแนวรับเจ้าบ้านได้ นาทีที่ 68 โรแบร์โต้ มันชินี่ ปรับเกมด้วยการถอด เตเวซ ออกแล้วส่งไนเจล เดอ ยอง กลางรับลงมาช่วยตัดบอล

นาทีที่ 69 ฟิล โจนส์ มาโดนใบเหลืองเป็นคนแรกของทีมเยือนจากจังหวะเข้าบอลช้าใส่แกเร็ธ แบร์รี่ ถัดมา 3 นาที ยาย่า ตูเร่ ได้ลากบอลจากกลางสนามขึ้นมาและสับไกเต็มแรงให้เจ้าบ้านจากระยะ 20 หลาแต่บอลติดไซด์ก้อยออกไป

นาทีที่ 76 เกิดจังหวะเดือดนอกสนามระหว่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กับโรแบร์โต้ มันชินี่ จากจังหวะที่ เวลเบ็ค ที่พยายามวิ่งแซงไนเจล เดอ ยอง โดนกลางรับเจ้าบ้านสไลด์ตัดเกมเดือดถึง “ป๋ากี้” ออกมาโวยใส่กุนซือเจ้าบ้านชนิดผู้ตัดสินที่ 4 ต้องลุกมาห้ามทัพ ขณะที่ เดอ ยอง รับใบเหลืองไป

ถัดมา 2 นาที อันโตนิโอ วาเลนเซีย ถูกส่งมาแทน สโคลส์ จากนั้น เกมเริ่มแรงขึ้นเมื่อ คาร์ริค ไปอัด แบร์รี่ รับใบเหลืองไปอีกคน นาทีที่ 81 “เรือใบสีฟ้า” เกือบได้ประตูที่สองสุดๆ เมื่อยาย่า ตูเร่ ลากบอลจากนอกเขตโทษมาเรื่อยๆจนมาถึงระยะประมาณ 20 หลา แล้วตัดสินใจปั่นด้วยซ้าย แต่บอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว เสียวกันทั้งแมนเชสเตอร์

นาทีที่ 83 ทั้งสองทีมเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเจ้าบ้านถอดดาบิด ซิลบา ออกแล้วส่งไมกาห์ ริชาร์ดส ลงมาช่วยเกมรับอีก ขณะที่ “ปีศาจแดง” เปลี่ยนเอาแอชลี่ย์ ยัง ลงมาแทน นานี่ ที่เกมนี้เล่นไม่ออก

นาทีที่ 87 ซาบาเลต้า ได้เติมขึ้นมาทางขวา ก่อนจะจ่ายหักไปที่เสาสองให้กาแอล กลิชี่ แบ็กอีกฝั่งเติมขึ้นมายิง เดือดร้อนดาบิด เดเกีย ต้องปัดทิ้ง ถัดมา 2 นาที นาสรี่ ได้บอลในเขตโทษจากจังหวะจ่ายให้ของ ตูเร่ แต่โดนพัวพันในจังหวะสุดท้ายอดยิงไปอีก

ช่วงทดเจ็บ มันชินี่ จัดการเผาเวลาด้วยการส่งเจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทน นาสรี่ ที่ค่อยๆเดินออกตามสไตล์ ก่อนที่ช่วงเวลาที่เหลือ “ปีศาจแดง” พยายามจะเดินเกมรุกกดดัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำให้จบเกม แมนฯซิตี้ ชนะไปได้ 1-0 แซงขึ้นนำจ่าฝูงด้วยคะแนนเท่ากัน แต่มีลูกได้-เสีย ดีกว่า แมนฯยูไนเต็ด ถึง 8 ลูก

สำหรับโปรแกรมสองนัดที่เหลือของทั้งสองทีมนั้น “เรือใบสีฟ้า” ต้องบุกไปเยือน นิวคาสเซิล ในเกมถัดไปและเฝ้าบ้านพบ ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส นัดสุดท้าย ขณะที่ “ปีศาจแดง” ได้เฝ้าบ้านเจอ สวอนซี นัดหน้า และบุกไปเยือน ซันเดอร์แลนด์ ในนัดปิดซีซั่น


Manchester City 1-0 Manchester United by goalsarena2012-3


Create Date : 01 พฤษภาคม 2555
Last Update : 1 พฤษภาคม 2555 21:39:29 น. 0 comments
Counter : 1425 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]