ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

เปิดใจน้องสาวเหยื่อคดีเบนซ์ชนฟอร์ด งัดหลักฐานเอาผิด เจนภพ



เปิดใจน้องสาวเหยื่อคดีเบนซ์ชนฟอร์ด งัดหลักฐานเอาผิด เจนภพ


จากกรณีอุบัติเหตุรถเบนซ์ซิ่งชนรถฟอร์ด จนเป็นเหตุให้ 2 นักศึกษาปริญญาโท คือ นายกฤษณะ ถาวร และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย ถูกไฟคลอกเสียชีวิตในรถฟอร์ด โดยมีคู่กรณีคือ นายเจนภพ วีรพร ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา


ล่าสุด นางนงครัตน์ รุ่งแสง น้องสาวของ นายกฤษณะ และนางสาวกมลรัตน์ วงศ์เกียรติขจร แฟนสาวของนายกฤษณะ ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นต่าง ๆ ที่ยังเป็นที่แคลงใจในคดีดังกล่าว สำหรับประเด็นที่ญาติทั้ง 2 ของนายกฤษณะ ได้ออกมาเปิดเผยนั้นมีดังนี้

ขณะนี้ทางครอบครัวมีการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อร้องขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ นายเจนภพ วีรพร ผู้ต้องหา สถานหนัก โดยตั้งข้อสังเกตุว่าพฤติกรรมการขับรถลักษณะนี้ น่าจะมีข้อหาที่มากกว่าข้อหาประมาทหรือไม่ อีกทั้งทางครอบครัวมองว่าต้องการให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคม

"ถ้ามองดูข้อหา จริงๆ มันก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว แต่ทางครอบครัวไม่อยากให้จบอยู่ที่ข้อหาประมาท ตอนนี้ทางครอบครัวกำลังรวบรวมหลักฐาน ยื่นคำร้องต่อพนักงานสอบสวนให้พิจารณาแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาให้สูงกว่านี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เเต่การรวบรวมพยานหลักฐานครั้งนี้ ครอบครัวจำเป็นต้องขอความร่วมมือจาก สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งคาดหวังว่าตำรวจจะมีความเป็นกลาง" นางนงรัตน์ กล่าว

นางนงครัตน์ ยังกล่าวเพิ่มเติ่มว่า หลังจากเกิดเหตุตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 2559 ทางครอบครัวของคู่กรณีได้เดินทางมาร่วมพิธีศพและกล่าวแสดงความเสียใจกับครอบเพียงครั้งเดียว แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการติดต่อมาจนถึงวันนี้ ทางครอบครัวไม่ได้ต้องการเงิน แต่ต้องการเพียงแค่ความรับผิดชอบและความสำนึกในความผิด ซึ่งยืนยันว่าจะ ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

"คู่กรณีมาขอขามาศพ คืนที่ 2 ก็มีการมาแสดงความเสียใจ แต่ตอนนั้นยังไม่มีคลิปรถเบนซ์ชนรถฟอร์ดออกมา คู่กรณีพูดว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่า ใครผิด อาจจะประมาทร่วมก็ได้ ทางครอบครัวยังไม่ได้มีการเจรจาเรื่องค่าเยียวยา เราไม่ได้ต้องการเงิน เราขอเพียงแค่ความรับผิดชอบ ความสำนึก เพราะครอบครัวของเราเป็นผู้สูญเสีย เราเสียความรู้สึกว่า ทำไม วันนั้นจึงมีการกล่าวโทษคนเสียชีวิต ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการแสดงเสียใจ และไม่ได้ติดต่อมาเลย" นางนงครัตน์ กล่าว

นอกจากนั้น นางนงครัตน์ ยังแสดงความเห็นการทำงานของตำรวจ ว่า การทำงานของตำรวจชุดใหม่ซึ่งมีการเปลี่ยน เนื่องจากตำรวจชุดเดิมทำงานล้าช้า ถือว่า ค่อนข้างตรงไปตรงมา มีการรายงานความคืบหน้าของคดีให้ครอบครัวผู้สูญเสีย ทั้ง 2 ครอบครัว ทราบอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานร่วมกับทางครอบครัวเป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ครอบครัวรู้สึกเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง

"ตำรวจชุดเก่าอย่างที่ทราบ อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ตำรวจชุดใหม่ที่เข้ามาทำคดี เป็นชุดที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา มีการรายงานคืบหน้าคดีตลอด ทางครอบครัวเข้าใจว่า ชุดเดิมมีการทำผิดพลาด ทำให้พยานหลายคนไม่กล้าส่งหลักฐานไปให้โดยตรง จึงมีการส่งมาที่ครอบครัวผู้สูญเสีย จึงทำให้ขณะนี้ครอบครัวมีการทำงานร่วมกันกับตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งคดีมีความคืบหน้าไปมาก ทางครอบครัวก็เชื่อใจในระดับหนึ่ง" นางนงครัตน์ กล่าว

นางนงครัตน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้สภาพจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียทั้ง 2 ครอบครัว ดีขึ้น เพราะสังคมทำให้รับรู้ว่า ไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง ทำให้ครอบครัวมีกำลังอย่างมากและมีความหวังว่าจะต่อสู้จนทำให้คดีนี้ป็นบรรทัดฐานของสังคมให้ได้

"ครอบครัวไม่ได้คาดหวังว่าหลังเกิดเหตุจะมีหลายฝ่ายให้กำลังใจถึงขนาดนี้ ทั้งพยานที่เข้ามากว่า 100 คน แม้รู้ว่าเสี่ยงกับคดีที่เกิดขึ้นระหว่างคนรวยกับคนจน แต่ก็ยังเข้ามาช่วยเหลือให้ข้อมูล ไม่เพียงเท่านั้นยังมีกำลังใจจากทุกสื่อ ครอบครัวของเราอยากให้ตำรวจทุ่มเทเพื่อให้คดีนี้เป็นบรรทัดฐานกับสังคมร่วมกัน "

นอกจากนี้ยัง ฝากบอกถึง ตำรวจชุดเดิมที่ทำคดีก่อนหน้านี้ว่า อย่าละเลยการทำทุกๆคดีที่เกิดขึ้น เเละให้ทำอย่างตรงไปตรงมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ส่วนตำรวจชุดใหม่ครอบครัวต้องขอขอบคุณ ที่ทุ่มเทการทำงานมาโดยตลอด ขณะที่คู่กรณีนั้น ครอบครัวขออโหสิให้ และให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

"อยากฝากไปถึง ชุดเดิม ว่า อยากให้พิจารณาสิ่งที่ทำ ตอนนั้นอาจละเลยหรือไม่ เพราะคิดว่าเป็นเพียงคดีจราจรทั่วไปหรือไม่ อยากให้เข้าใจหัวอกครอบครัวผู้สูญเสีย เพราะไม่ใช่แค่ภาคราชการที่จะตรวจสอบการทำงาน แต่โซเซี่ยลมีเดียก็มีการตรวจสอบแล้ว สำหรับชุดใหม่ต้องขอบคุณ ที่ทุ่มเทการทำงาน เรารู้ว่ามีอุปสรรค แต่ถ้าเราร่วมมือกัน มันจะเปลี่ยนบรรทัดฐาน และตำรวจก็จะกู้ภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ส่วนคู่กรณี ทางครอบครัวขออโหสิให้" นางนงครัตน์ กล่าว




 

Create Date : 05 เมษายน 2559   
Last Update : 5 เมษายน 2559 23:18:10 น.   
Counter : 4521 Pageviews.  

ชาวบ้านแฉ!!ก่อนน้องสโนว์ตาย ผู้ใหญ่บ้านเคยติดต่อส่งข้อความหา!!?



ชาวบ้านแฉ!!ก่อนน้องสโนว์ตาย ผู้ใหญ่บ้านเคยติดต่อส่งข้อความหา!!?

กำลังเป็นคดีความที่ได้รับความสนใจอย่างมากที่ล่าสุดเจอตัวคนร้ายที่ฆ่าข่มขืนน้องสโนว์อย่างทารุน ต้องรอถึงสามเดือนกว่าจะเจอตัว นั้นก็คือผู้ใหญ่บ้าน ที่ชาวบ้านทุกคนเชื่อใจ เข้าตำราที่ว่าคนที่ไว้ใจคือร้ายที่สุด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยอมรับสารภาพ แต่ถึงอย่างไรทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังเชื่อมั่นในพยานหลักฐานเอาผิดได้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรอยกัดบนมือหรืออวัยวะเพศที่ปูดบวม ซึ่งทั้งหมดล้วนมาจากก่อนหน้านี้น้องสโนว์เคยบอกไว้ว่าได้ต่อสู้กับคนร้าย

ล่าสุดได้มีการแชร์เรื่องราวที่หลายคนรับไม่ได้นั่นก็คือ เรื่องที่ชาวบ้านในหมู่บ้านใน ได้รู้มาว่าผู้ใหญ่บ้านคนนี้ได้เคยติดต่อใช้เงินซื้อบริการน้องสโนว์มาแล้ว แต่ว่าน้องนั้นเป็นคนรักพ่อแม่ และไฝ่เรียน จึงปฏิเสธแบบไม่ต้องคิด น่าจะเป็นสาเหตุที่ให้ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ ทำอะไรที่ไม่ยั้งคิดก็เป็นได้

อย่างไรก็ตามแต่โปรดใช้วิจารณญาณในการรับข่าวสาร นี่เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกบรรดาชาวเน็ตได้แชร์ต่อกันมา 


ชาวบ้านแฉ!!ก่อนน้องสโนว์ตาย ผู้ใหญ่บ้านเคยติดต่อส่งข้อความหา!!?


ชาวบ้านแฉ!!ก่อนน้องสโนว์ตาย ผู้ใหญ่บ้านเคยติดต่อส่งข้อความหา!!?


ชาวบ้านแฉ!!ก่อนน้องสโนว์ตาย ผู้ใหญ่บ้านเคยติดต่อส่งข้อความหา!!?




 

Create Date : 05 เมษายน 2559   
Last Update : 5 เมษายน 2559 23:16:34 น.   
Counter : 845 Pageviews.  

ดราม่าไม่จบ! หลานสาวแม่ประนอมโอดตกเป็นจำเลยสังคม



ดราม่าไม่จบ! หลานสาวแม่ประนอมโอดตกเป็นจำเลยสังคม

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงถึงกรณีที่ขอเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาครอบครัวน้ำพริกแม่ประนอมของนายประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งบริษัท พิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด กับนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโต ว่า "ผมเป็นข้าราชการมาตลอดชีวิตมหาดไทยด้วยพบปะผู้คนมามากร่วมกันแก้ไขปัญหาหลายอย่างหลายประการแก่คนทุกๆ สาขาอาชีพ และในบทบาทปัจจุบันไม่เคยเลือกปฏิบัติว่ากลุ่มใด พื้นที่ใด เป็นข่าวบ้าง ไม่เป็นข่าวบ้าง

หนนี้ของคุณแม่ประนอมเป็นข่าวเลยมีการมาถามผมขึ้น ต้องเรียนว่าภารกิจบำบัดทุกข์-บำรุงสุขของข้าราชการอยู่ในใจผมเสมอ แต่หนนี้ที่เป็นข่าว เพราะคุณแม่ประนอมผู้คนรู้จักท่านกว้างขวาง และเป็นที่เคารพนับถือ ใจผมอยากให้ทุกๆ ครอบครัวช่วยกันเป็นแบบอย่างแก่กัน แก่ลูกหลานผู้เป็นอนาคตของชาติ มีความรักสมัครสมานความรักระหว่างบุพการีกับลูกหลานไม่ว่าจะครอบครัวใด ฐานะใดศาสนาใด โดยเฉพาะพี่น้องชาวไทยย่อมเป็นเรื่องที่สุดพรรณนาถือเป็นข้อเท็จจริงที่สุด"


ด้านแม่ประนอมระบุว่า ไม่อยากเข้าพูดคุยกับลูกสาวคนโตตามลำพังอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาเคยพูดคุยกัน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ยันไม่เคยคิดขายกิจการให้กับใคร เพราะสร้างมากับมือ และไม่เคยโอนหุ้นให้กับลูกสาวตามที่ข้อมูลออกมากล่าวอ้าง

ขณะที่มีข้อมูลที่ดินของครอบครัวจำนวน 138 แปลง มูลค่าหลายร้อยล้านบาท ซึ่งมีชื่อนายห้างศิริชัย สามีของนางประนอมครอบครองทั้งสิ้น 41 แปลง ขณะที่ครอบครัวลูกสาวคนโตครอบครองไป 97 แปลง ซึ่งหลังนายห้างศิริชัยเสียชีวิต แม่ประนอมในฐานะผู้จัดการมรดก ขอรวมที่ดินเข้าด้วยกัน แต่ครอบครัวลูกสาวปฏิเสธที่จะคืน จึงต้องมีการฟ้องร้องกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว


ดราม่าไม่จบ! หลานสาวแม่ประนอมโอดตกเป็นจำเลยสังคม


ในขณะที่ลูกสาวของนางศิริพร ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานสาวของแม่ประนอมโพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัว ระบุว่า 


ขอทำทุกอย่างอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ โอดตกเป็นจำเลยสังคม แต่จะมาตอบโต้ผู้เป็นยายก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากครอบครัวคดโกงและเลวจริง คงมีญาติพี่น้องมากมายออกมาร่วมประณามมากกว่าคนหนึ่งคนที่มานั่งกำกับบท

ดราม่าไม่จบ! หลานสาวแม่ประนอมโอดตกเป็นจำเลยสังคม
ภาพจากig@japannzo




 

Create Date : 01 เมษายน 2559   
Last Update : 1 เมษายน 2559 8:47:57 น.   
Counter : 641 Pageviews.  

ค้าน! นโยบาย! เบี้ยวหนี้ ‘กยศ.’ ไม่ต่ออายุ ‘บัตรประชาชน’!



ค้าน! นโยบาย! เบี้ยวหนี้ ‘กยศ.’ ไม่ต่ออายุ ‘บัตรประชาชน’!


พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากกรณีนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอให้ไม่ต่ออายุบัตรประชาชนให้ผู้ที่ไม่ชำระหนี้ กยศ. ซึ่ง มท.กำลังไปดูว่าผิดกฎหมาย หรือ ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าวซึ่งตนยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เท่าที่ทราบ เรื่องนี้ยังไม่มีการประกาศใช้อย่างเป็นทางการ อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อดี ข้อเสีย ให้รอบด้าน อย่างไรก็ตามส่วนตัวคิดว่า น่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ ในการติดตามทวงหนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ผ่านมาเมื่อ กยศ.มีมาตรการอะไรออกมา ก็พยายามส่งเสริมสนับสนุนให้ความร่วมมือ อาทิ การให้ทำความร่วมมือกับองค์กรนายจ้าง ในการหักเงินลูกจ้างที่เป็นลูกหนี้ กยศ.เป็นต้น

        น.ส.อาภรณ์ แก่นวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวว่า การไม่ต่ออายุบัตรประชาชน กับ การไม่มาชำระหนี้ ถือเป็นคนละเรื่องไม่น่าจะนำมาเกี่ยวข้องกันได้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากมีการเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมาให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาจริง ๆ ก็ไม่น่าจะมีใครเห็นด้วย เพราะการมีบัตรประชาชน ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทย การไม่ต่ออายุบัตรประชาชนเพราะไม่ใช้หนี้กยศ.เป็นคนละเรื่อง และอาจจะทำให้บุคคลนั้นมีปัญหา ไม่สามารถไปทำธุรกรรม หรือ ทำนิติธรรมอะไรได้ ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งโดยส่วนตัวคิดว่า มีแนวทางอื่นที่ดีกว่านี้แน่นอน อาทิ การที่จะ นำข้อมูลผู้กู้กยศ. บันทึกในฐานข้อมูลเครดิตบูโร เพื่อสร้างวินัยให้คนมาชำระหนี้ หรือร่วมมือกับองค์กรนายจ้างหักเงินเดือน พนักงานที่เป็นลูกหนี้กยศ. เหล่านี้ ถือเป็นแนวทางที่รับได้ แต่ถึงขั้นถ้าไม่ต่อประชาชนคนไม่ใช้หนี้ ตนก็ไม่แน่ใจเช่นกัน 

ด้าน น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกยศ. กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นเพียงแนวคิด และอยู่ระหว่างการศึกษาข้อดี ข้อเสีย รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแนวคิดหลักของกยศ. คือ อยากให้นำข้อมูลต่าง ๆ ของผู้กู้กยศ.ไปใส่ในบัตรประชาชน เพื่อให้ง่ายต่อการชำระหนี้ ติดตามลูกหนี้ หรือตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ

ขอบคุณ >> 
dailynews




 

Create Date : 01 เมษายน 2559   
Last Update : 1 เมษายน 2559 8:45:28 น.   
Counter : 637 Pageviews.  

เลวเกินคน!!ลูกข่มขืน-ขู่ฆ่าแม่แท้ๆ ห้ามบอกใคร!



เลวเกินคน!!ลูกข่มขืน-ขู่ฆ่าแม่แท้ๆ ห้ามบอกใคร!


31 มี.ค. หญิงวัย 62 ปี ได้เข้าแจ้งความหลังถูกลูกชายแท้ๆ วัย 47 ปี ลากเข้าไปข่มขืนภายในบ้านจนสำเร็จความใคร่ พร้อมขู่ฆ่าหากนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปแจ้งตำรวจ หรือบอกใคร

พร้อมกับเล่าว่าลูกชายของตน ได้ออกไปกินเหล้านอกบ้านแล้วกลับเข้ามาที่บ้าน จากนั้นก็ได้ฉุดกระชากตนเองเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะข่มขืน พร้อมกับขู่ฆ่า หากร้องโวยวายเสียงดัง ซึ่งที่บ้านมีอาวุธปืน และมีดพร้า จึงกลัวลูกชายจะฆ่า ได้ส่งเสียงร้องดังลั่น พร้อมยกมือไหว้ลูกชายร้องขอชีวิต แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน เพราะที่บ้านพักอาศัยกัน 2 คน จนต้องจำใจยอมให้ลูกชายขืนใจจนสำเร็จความใคร่ ไป 1 ครั้ง ขอเพียงแต่ไว้ชีวิต จากนั้นก็ได้ทำใจดีสู้เสือ ทำเหตุการณ์ทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด แต่แล้วลูกชายก็ถามแม่ว่า จะให้ได้อีกเมื่อไหร่ ซึ่งก็ตอบกลับไปว่า เมื่อไหร่ก็ได้เพราะไม่มีใครเห็น อยู่กัน 2 คน เพื่อให้ลูกชายใจอ่อนลง และได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ




 

Create Date : 01 เมษายน 2559   
Last Update : 1 เมษายน 2559 8:44:54 น.   
Counter : 876 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]