ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
15 มิถุนายน 2555

ที่มาของไฟหมุนหน้าร้านตัดผม 'Barber pole'

ที่มาของไฟหมุนหน้าร้านตัดผม 'Barber pole' 

มารู้จักที่มาของ 'Barber pole' สัญลักษณ์สากลของร้านตัดผม ว่าแท้จริงแล้วมีที่มาอย่างไร ?
สัญลักษณ์ไฟหมุนที่ร้านตัดผม เรียกว่า 'บาร์เบอร์ โพล' (barber pole) ถือกำเนิดขึ้นในทวีปยุโรป ยุคที่ช่างตัดผมรวมอยู่ในอาชีพหมอฟันและศัลยแพทย์ หรือจะว่าผ่าตัด ถ่ายเลือด ทำฟัน เป็นภาระหน้าที่อย่างหนึ่งของช่างตัดผมก็ได้ เป็นเช่นนั้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่ พ.ศ.1639 ที่ประเทศฝรั่งเศส ด้วยฝีมืออาร์คบิชอปแห่งร็วง เมืองหลวงของแคว้นนอร์มังดี ท่านสั่งห้ามบุรุษไว้หนวดเคราโดยเด็ดขาด ทำให้กิจการตัดผมและโกนหนวดเครามีความจำเป็นมากขึ้น แล้วใครจะมีของมีคมเท่าศัลยแพทย์กันนะ

กระทั่งภายหลังเมื่อการแพทย์มีความชัดเจนในสาขาของตนยิ่งขึ้น อาชีพศัลยแพทย์กับช่างตัดผมจึงถึงแก่กาลต้องแยกจากกันโดยสิ้นเชิง เหลือเพียงสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญตกทอดเป็นมรดกจากหมอผ่าตัดถึงช่างผัดผม เรื่องก็เพราะ ครั้งยังทำงานทูอินวัน ระหว่างการผ่าตัดถ่ายเลือดผู้ป่วย คุณหมอจะพาดแถบผ้าพันแผล 2 เส้น รอไว้ เส้นหนึ่งสำหรับพันรอบแขนผู้ป่วยก่อนถ่ายเลือด เส้นหนึ่งไว้พันแผลภายหลังงานเรียบร้อย นานเข้าแถบผ้าพันแผล 2 เส้น ก็เป็นภาพเจนตาจนเป็นที่เข้าใจตรงกันทั่วไปว่าเป็นร้านคุณหมอ (ที่รับตัดผมด้วย) จากแถบผ้าพันแผลวิวัฒน์เป็นเสาทาสีเลียนแบบ ติดตั้งอย่างถาวรภายนอกร้าน มองคล้ายเกลียวริบบิ้น 2 สี เรียก 'เกลียวริบบิ้นสีขาวแดงสองเส้นพันรอบแท่งเสา' ว่า บาร์เบอร์ โพล จากยุโรปไปถึงอเมริกา ช่างตัดผมอเมริกันรักชาติเติมสีน้ำเงินเข้าไปในบาร์เบอร์ โพล ด้วย เป็นสีแดง ขาว น้ำเงิน ตามสีธงชาติสหรัฐอเมริกา

บาร์เบอร์ โพล กลายเป็นสื่อสัญลักษณ์สากลของร้านตัดผมในที่สุด เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าเป็นร้านตัดผม โดยไม่ต้องคอยมองหาป้ายชื่อร้าน ทั้งยังบอกให้ทราบด้วยว่าร้านเปิดทำการหรือไม่ หากไฟหมุนเปิดอยู่แสดงว่าร้านเปิด เข้าไปใช้บริการได้ หากไฟปิดคือร้านปิด ตรงไปร้านอื่นได้เลย

ต้นทางของวัฒนธรรมไฟหมุนหน้าร้านตัดผมจึงคือเมืองร็วง แคว้นนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส โดดเด่นด้วยมหาวิหารนอเตรอดาม สร้างเสริมต่อเติมด้วยสถาปัตยกรรมหลายยุคหลายสมัยจากศตวรรษที่ 12 ถึงศตวรรษที่ 19 และเป็นเมืองที่ฝังศพวีรบุรุษชาวฝรั่งเศสในยุคกลาง เฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่ฝังพระหทัยของพระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ (Richard the Lion Heart) กษัตริย์อังกฤษผู้ประทับอยู่ในฝรั่งเศสมากกว่าอังกฤษ

ที่มา

//archive.voicetv.co.th/content/22528




Create Date : 15 มิถุนายน 2555
Last Update : 15 มิถุนายน 2555 22:04:13 น. 0 comments
Counter : 3864 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]