ฟุตบอล ยูโร เดินทางมาถึงปี ค.ศ.1976 และหนนี้นี่เองที่ ยูฟ่า มีการเปลี่ยนกติกาใหม่ ถ้าหากในเวลา 120 นาทียังหาผู้ชนะไม่ได้ก็จะใช้วิธีการยิงจุดโทษตัดสิน หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว อิตาลี เคยเถลิงบัลลังก์แชมป์นี้ได้เมื่อปี 1968 จากการต้องลงเล่นถึง 2 เกมกับสหภาพโซเวียต
เส้นทางแชมป์ยูโรหนนี้ ถูกแบ่งสายในรอบคัดเลือก 32 ทีม เชโกสโลวาเกีย ที่ภายหลังคือแชมป์ประจำทัวร์นาเมนท์ถูกจับไปอยู่ในกลุ่ม 1 ร่วมกับอังกฤษ และโปรตุเกส แต่ในยุคนั้น เชโกสโลวาเกีย มีนักเตะหลายรายที่เก่งกาจทั้งแอนโตนิน ปาเนนก้า, แอนตัน ออนดรุส และซเดเน็ก เนโฮด้า และทำให้พวกเขาสามารถตบเท้าผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้
ขณะที่ อินทรีเหล็ก เยอรมันตะวันตก ที่เพิ่งคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาได้เมื่อ 2 ปีก่อน รวมถึงการเป็นแชมป์เก่าในรายการนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้วไม่แข็งแกร่งอย่างที่เคยเป็น เพราะแกนหลักอย่างแกร์ด มุลเลอร์, โวล์ฟกัง โอเวอรัธ และเจอร์เก้น กราบอฟสกี้ อำลาทีมชาติหลังพิชิตแชมป์โลก ส่วนพอลไบรท์เนอร์ กับกุนเธอร์ เน็ทเซอร์ ก็ไปค้าแข้งในสเปน เหลือเพียงฟร๊านซ์ เบ๊คเค่นเบาเออร์, เซปป์ ไมเออร์, ชวาร์เซ่นเบ๊ค, อูลี่ เฮอเนส และจุ๊ปป์ ไฮย์เกส ทำให้เยอรมันตะวันตกต้องฟอร์มทีมด้วยนักเตะใหม่พอสมควร แต่ทีมก็ยังดีพอที่จะเอาตัวรอดจนเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศได้
เบลเยี่ยม, เชโกสโลวาเกีย, เยอรมันตะวันตก, เนเธอร์แลนด์, ยูโกสลาเวีย, สเปน, สหภาพโซเวียต และเวลส์ คือ 8 ชาติที่ได้ก้าวมาถึงรอบนี้ แต่เมื่อตัดเหลือ 4 ทีม เชโกสโลวาเกีย, เยอรมันตะวันตก, เนเธอร์แลนด์ และยูโกสลาเวีย คือ 4 อรหันต์ที่ได้ไปเช็กอินที่ยูโกสลาเวีย
รอบรองชนะเลิศ เชโกสโลวาเกีย ลงพบกับ อัศวินสีส้ม ที่มีทัพนักเตะจากชุดรองแชมป์โลกถึง 9 ราย ที่ซาเกร็บ ซึ่ง 90 นาทีแรกแอนตัน ออนดรุส คือนักเตะที่เป็นทั้งนักบุญและคนบาปเมื่อเขาเป็นคนปลุกความหวังให้ทัพเชโกฯ ตั้งแต่ 19 นาทีแรก แต่ 17 นาทีสุดท้ายในช่วงเวลาปกติ เขาทำพลาดเข้าประตูตัวเองและจบที่ 1-1 ต้องมาเริ่มใหม่ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที ก่อนจะเป็น เนโฮด้า และเวเซลี่ ทำสองประตูใน 4 นาทีช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษเข้าไปรอชิงชนะเลิศ
ในวันถัดมาที่เบลเกรด ยูโกสลาเวีย เจ้าบ้านสามารถทำได้ดีและมีหวังที่จะเข้าชิงชัยถ้วยชนะเลิศในถิ่นของตัวเองเมื่อดานิโล่ โปปิโวด้า และดราแกน ซายิค ทำประตูให้ทัพ สลาฟ นำไปก่อนสองลูก แต่เยอรมันตะวันตกคืนบุคลิกน่าเกรงขามกลับมาได้จาก 2 ตัวสำรองเริ่มจากไฮน์ซ โฟลห์ ทำประตูตีตื้น ก่อนจะเป็นดีเตอร์ มุลเลอร์ ทำให้สกอร์บอร์ดกลับมาเท่ากันที่ 2-2 ในเวลา 90 นาที และเหมือนกับราวเขียนสคริปต์ อินทรีเหล็ก ใช้เวลา 4 นาทีเช่นเดียวกับ เชโกฯ ในช่วงท้ายเกมของการต่อเวลาพิเศษ ทำสองประตูเพิ่มได้จากดีเตอร์ มุลเลอร์ ผู้พลิกเกมในเวลาปกติและเป็นแฮตทริกของเขาไปสู่นัดชิงชนะเลิศ
นัดชิงชนะเลิศเต็มไปด้วยความเข้มข้น แยน สเวลิค และคาโรล โดบลาส ทำสองประตูให้ เชโกสโลวาเกีย ตั้งแต่ 25 นาทีแรก แต่ดีเตอร์ มุลเลอร์ ปลุกความหวังให้ผอง อินทรีเหล็ก ได้ในนาที 28 ก่อนจะเป็นแบรนด์ โฮลเซนไบน์ ตีเสมอในนาที 89 ตอกย้ำความตายยากของเยอรตะวันตก แต่เกมจากนั้นในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาทีไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และนั่นทำให้แชมป์ปีนี้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ
เชโกฯ นั้นซ้อมยิงจุดโทษไว้แล้ว พร้อมกำหนด 5 มือสังหารไว้เสร็จสรรพประกอบด้วย มาสนี่, เนโฮด้า, ออนตรุส, เยอร์เควิช และปาเนนก้า ส่วน อินทรีเหล็ก มีแต่ความวุ่นวาย ทั้งสตาฟฟ์โค้ชและนักเตะเถียงกันอยู่นานว่าใครจะเป็นผู้ยิง จนกระทั่งเบ๊คเค่นเบาเออร์ ต้องตัดสินใจตัวยิง บอนโฮฟ, บองการ์ทซ์, โฟลห์, เฮอเนส และเบ๊คเค่นเบาเออร์ ซึ่งหลังจากมาถึงคนที่ 4 ของแต่ละทีม เชโกฯ ที่ได้ยิงก่อนไม่พลาดเลยออกนำ 4-3 โยนความกดดันไปที่ เฮอเนส ที่พลาดยิงบอลข้ามคานไป ก่อนจะเป็นแอนโตนิน ปาเนนก้า ดาวยิงคนสุดท้ายที่โชว์ความแข็งแกร่งและเชื่อมั่นของจิตใจด้วยการชิพบอลผ่านเซปป์ ไมเออร์ เข้าไปอย่างเหนือชั้นให้ เชโกสโลวาเกีย เด็ดปีกอินทรีในการดวลจุดโทษไป 5-3 ขึ้นรับแชมป์ ยูโร 1976 พร้อมกับเป็นลูกยิงที่จะเห็นดาวยิงจอมคลาสสิกมักใช้กันในการยิงจุดโทษในยุคหลังๆ