ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

20 ที่เที่ยวหน้าฝน สุดฮอต ไปค้นหาความสุขในวันฝนพรำ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหา "ที่เที่ยวหน้าฝน" หรือคนที่ยังไม่รู้ว่า "หน้าฝนเที่ยวไหนดี" ตามมาทางนี้เลยจ้า เพราะกระปุกดอทคอมได้รวบรวมเอา ที่เที่ยวหน้าฝน 2557 จากทั่วประเทศมาแนะนำกัน มีทั้งภูเขา น้ำตก รวมถึงสวนผลไม้ที่ออกผลให้ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยกันสด ๆ จากต้น ^__^ งานนี้รับรองว่าสายฝนไม่สามารถทำให้คุณนั่งเหงาหงอยอยู่แต่ในบ้านแน่นอน ว่าแต่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับความชุ่มฉ่ำที่ไหนบ้างนั้น ลองไปชมกันเลย

1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก





"น้ำตกทีลอซู" คำว่า ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ห่างจากที่ทำการเขตฯ 1.5 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับทะเลปานกลาง 900 เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้างกว่า 500 เมตร ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร เสียงดังกึกก้องบ่งบอกถึงความยิ่งใหญ่ นับเป็นน้ำตกที่มีความยิ่งใหญ่และสวยที่สุดในเมืองไทย โดยลักษณะเด่นของที่นี่ คือ น้ำใสสะอาด

          ฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด ซึ่งการเดินเที่ยวชมน้ำตกแต่ละชั้นต้องเดินผ่านสายน้ำขึ้นไป และต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ อีกทั้งในช่วงฤดูฝน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางจะทำการปิดเส้นทางเดินรถยนต์ เนื่องจากการสัญจรลำบาก รวมทั้งเป็นการพักฟื้นผืนป่าให้สัตว์ออกหากินและขยายพันธุ์โดยไม่ถูกรบกวน ซึ่งถ้าหากนักท่องเที่ยวมีความประสงค์จะไปน้ำตกทีลอซู ควรติดต่อบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่ โดยการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางแรกล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลองใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ส่วนเส้นทางที่ 2 คือ เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง โดยนักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เดินทางเข้าในช่วงเวลาดังกล่าวต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง ทั้งนี้ สำหรับการล่องแพ นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ที่จัดล่องแพในอำเภออุ้มผางได้ โดยติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ททท. สำนักงานตาก โทรศัพท์ 0 5551 4341-3 หรือที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง โทรศัพท์ 0 5557 7318


2. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี



เขื่อนรัชชประภา ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร  บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม อีกทั้งภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนยังมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ซึ่งในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักให้เลือกมากมาย โดยจะยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น พายเรือแคนู, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม การเดินเที่ยวถ้ำค่อนข้างลำบากจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8817-9, 0 7728 2828 (ในวัน-เวลาราชการ)

3. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ



ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับนักเดินทางที่ในทุกปีจะต้องเดินทางเที่ยวชมความสวยงามของ “ทุ่งดอกกระเจียว” ในเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ อย่าง เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ปี 2557 ซึ่งภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย อาทิ การจัดนิทรรศการต่าง, ชมทุ่งดอกกระเจียว, การจำหน่ายสินค้า OTOP, ชมทุ่งบัวสวรรค์และลานหินงาม ป่าหินล้านปีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติปั้นแต่งตามแต่จะสุดจินตนาการ การแสดง และจำหน่ายสินค้า เป็นต้น

          โดยแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวของจังหวัดชัยภูมิ ประกอบไปด้วย 2 สถานที่ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ถือเป็นอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ที่เมื่อถึงช่วงฤดูฝน ดอกกระเจียวป่าหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกขึ้นมาอย่างหนาแน่น บริเวณทุ่งกว้างที่ถูกปกคลุมด้วย ไอหมอกในยามเช้าอีกด้วย และอุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ สำหรับพื้นที่สำหรับชมทุ่งดอกกระเจียวป่า ของที่นี่จะอยู่บริเวณน้ำตกชวนชม ซึ่งมีการจัดให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 กิโลเมตร น้ำตกมีความสูง 20 เมตร บริเวณโดยรอบมีต้นไม้และทุ่งบัวสวรรค์หรือทุ่งดอกกระเจียว ที่มีทั้งสีชมพูและสีขาว

4. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก




สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบกิจกรรมท้าทาย ล่องแก่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็กที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทาย ที่เริ่มต้นการล่องเรือยางจากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ซึ่งความพิเศษของการล่องแก่งนี้จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งระดับ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงระดับสูงสุด คือ ระดับ 5 ในช่วงท้าย ซึ่งลำน้ำจะขนานไปกับทางหลวง หมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก) รวมระยะทางในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่าน 18 แก่ง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำ และความยากง่าย ทั้งนี้ การล่องแก่งลำน้ำเข็ก ไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลงล่องแก่งโดยเด็ดขาด โดยยึดตามข้อบังคับของชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3, 0 5525 9907 และ 0 5523 1063 (ในวัน-เวลาราชการ)

5. อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี



ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ สำหรับ "ทองผาภูมิ" อำเภอสุดแดนตะวันตก ขอบชายแดนไทย-พม่า เพราะสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน ทำให้มีความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้า อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง เช่น เขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม, เขาช้างเผือก ที่มีความสูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเล เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาช้างเผือกเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มองได้รอบทิศทาง 360 องศา, เหมืองปิล็อก เหมืองขนาดใหญ่ที่อดีตเคยทำรายได้หลักและเป็นลมหายใจของชีวิตคนกาญจนบุรี, บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เงียบสงบ ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก และดอยต่องปะเล จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ โดยเฉพาะยามที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น จะสวยงามและได้บรรยากาศที่สุด

6. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์



อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาภูสอยดาว สูงถึง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สภาพป่าส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาเพื่อพิชิตยอดภูสอยดาว เพราะด้วยเส้นทางที่ท้าทาย ซึ่งในระหว่างเดินทางสามารถชมความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติ น้ำตก และดอกไม้ป่าชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยการเดินทางขึ้นไปสู่ยอดภูสอยดาวอาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับนักเดินเท้าหลาย ๆ คน ด้วยเนินที่สูงชัน เส้นทางแคบ คดเคี้ยว ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ผสมกับสายฝน หยาดน้ำค้าง ซึ่งเป็นอุปสรรคใหญ่ของการเดินทางเป็นอย่างมาก ทำให้นักเดินทางหลายคนเลือกที่จะดินทางไปพิชิตยอดดอย เพื่อตามเก็บภาพความงามอันอัศจรรย์ของทุ่งดอกหงอนนาค ราชินีแห่งดอกไม้ ที่ผลิดอกบานสะพรั่งห่มคลุมทั่วทุกทุ่งกว้าง รวมไปถึง เอื้องหมายนา ลิลลี่ป่า ลิ้นมังกร กระดุมเงิน ว่านไก่แดง และผืนหมกที่ปกคลุมป่าสนสามใบ เรียงรายไปไกลสุดสายตา ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ 53110 โทรศัพท์ 0 5543 6001-2

7. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์



ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ตอนเช้ามีกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ ไฮไลท์ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนภูทับเบิก คือ แปลงปลูกกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก  

8. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน



เมืองเล็ก ๆ ที่สามารถเดินทางไปดื่มด่ำกับบรรยากาศความงดงามได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ เพราะแต่ละเดือน แต่ละช่วงฤดูกาล ความงดงามของธรรมชาติจะปรากฏออกมาให้พบเห็นแตกต่างกัน อย่างฤดูฝนแบบนี้ภาพของท้องทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ขุนเขาที่มีสายหมอกบางเบาล้อมรอบ แม่น้ำปายที่มีน้ำเต็มตลิ่ง เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงไปล่องแพชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ที่สำคัญคือค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และที่พักราคาถูก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกไปชื่นชมหลายแห่ง เช่น ถนนคนเดิน, บ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน, น้ำตกหมอแปง, วัดพระธาตุแม่เย็น และโป่งน้ำร้อนท่าปาย ฯลฯ


9. เชียงคาน จังหวัดเลย



เชียงคาน เป็นอำเภอเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ผู้คนมีรูปแบบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เงียบสงบ มีอัธยาศัยดีต่อผู้มาเยือนเสมอ ในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่า แก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน แต่ทว่ายังคงแฝงความเรียบง่ายและความเป็นกันเอง โดยเมื่อมาถึงที่นี่สิ่งที่น่าจะทำ คือ หาจักรยานสักคัน ปั่นไปในทุกที่ที่อยากไป เนื่องด้วยเชียงคานเป็นเมืองเล็ก ๆ มีความคล่องตัวสำหรับนักท่องเที่ยวได้ทั่วถึง ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ คือ ตักบาตรตอนเช้า ชมวัด และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง


10. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา



สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน นี่คือฉายาที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามให้กับวังน้ำเขียวเมื่อได้มาเยือน เพราะที่นี่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและสภาพอากาศที่เหมาะสมแก่การเจริญของพรรณไม้ที่หลากหลาย มีน้ำตกที่สวยงาม และจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานที่กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของผืนป่าดงพญาไฟในอดีต อีกทั้งยังมีผลไม้นานาชนิดให้เลือกสรร รวมทั้งยังมีสวนไม้ดอก-ไม้ประดับ ที่สวยงาม การปลูกผักปลอดสารพิษ และ การเพาะเห็ดหอม ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่อีกด้วยอีกทั้งอากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะฤดูหนาวจะค่อนข้างหนาวเย็นเป็นพิเศษ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น เขาแผงม้า ที่มีอากาศเย็นสบาย, กิจกรรมชมแปลงปลูกดอกหน้าวัวหลายสายพันธุ์จากต่างประเทศ ที่มีให้ชมทั้งปี, อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา เห็นวิวทิวทัศน์ของแนวสันเขายาวอย่างสวยงาม, ชมสวนผักปลอดสารพิษลุงไกร ที่เป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ วังน้ำเขียว เน้นการปลูกผักสลัด ผักกาดหอมเป็นส่วนใหญ่ มีหลายหลายสายพันธุ์ ผักจากสวนลุงไกร สด สะอาด อร่อย ผักสดคุณภาพสูง, วังน้ำเขียวฟาร์ม เป็นศูนย์เพาะพันธุ์เห็ดเมืองหนาว เปิดให้เยี่ยมชมการเพาะเห็ดแบบออร์แกนิก ไร้สารพิษ และยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดอีกมากมายให้ซื้อกลับบ้าน

11.  เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์




"เขาค้อ" เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะของพื้นที่ป่าบริเวณนี้ ที่แต่เดิมมีต้นค้อ ซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่มาก ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะมีภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นสบายตลอดปี รวมทั้งมีทัศนียภาพสวยงาม จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณเขาค้อมีหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบกับคอมมิวนิสต์ ได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พระบรมธาตุเจดีย์, พระตำหนักเขาค้อ และน้ำตก ส่วนที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตำบลทุ่งสมอและแคมป์สน นอกจากนี้ ยังมีรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางขึ้นเขาค้อมากมาย

12. ล่องแพ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร



เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดผจญภัย ที่สร้างประสบการณ์สุดมันส์ของการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเชิงอนุรักษ์ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ บริเวณแม่น้ำพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงความงดงามทางธรรมชาติ และลิ้มรสอร่อยกับเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง ซึ่งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของชุมชนลุ่มน้ำพะโต๊ะ นอกจากนั้นสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวกับกลุ่มโฮมสเตย์บ้านคลองเรือ ซึ่งมีกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชนที่น่าสนใจ อาทิ เดินป่าศึกษาธรรมชาติเขานมสาวที่ได้ขึ้นชื่อว่า ดินแดนแห่งสามทะเล ได้แก่ กลางคืนแลทะเลดาว ตื่นเช้าแลทะเลหมอก แดดออกแลทะเลป่า นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมชมสวนผลไม้ ไร่กาแฟ ล่องแพ ดูนกอีกด้วย ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร โทรศัพท์ 0 7753 9040, 0 7753 9204 หรือ ททท. สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ 0 7750 1831-2 , 0 7750 2775-6


13. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่



ด้วยความที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บวกกับความงดงามทุกช่วงฤดูกาล จึงทำให้ชื่อของ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม มักจะติดอันดับต้น ๆ ในการมองหาที่เที่ยวหน้าฝน เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงาม พร้อมกับสูดอากาศแสนบริสุทธิ์ ยิ่งฤดูฝนด้วยแล้ว ป่าไม้และทุ่งหญ้าจะเขียวขจี แถมน้ำตกทุกแห่งในพื้นที่ ทั้งน้ำตกเหวนรก, น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกกองแก้ว ยังไหลแรงส่งเสียงดังสนั่นก้องผืนป่า อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ เหมาะแก่การเดินทางไปพักผ่อน อีกทั้งบริเวณใกล้ ๆ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงที่พักเก๋ ๆ ให้เลือกอีกเพียบ

14. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่



ม่อมแจ่ม ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที  ที่นี่มีลักษณะเด่น คือ อากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า ช่วงที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยว และมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นแปลงปลูกพืชและไม้เมืองหนาวของโครงการหลวง ยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง เป็นจุดชมทะเลหมอกบนหน้าผา มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว นอกจากนี้ บริเวณบนม่อนแจ่มยังมีร้านอาหาร ที่เปิดให้สามารถปรุงอาหารโดยใช้ผลิตผลท้องถิ่นที่ปลูกเอง รวมทั้งมีที่พักในลักษณะแคมปิ้ง รีสอร์ท อีกด้วย


15. ทุ่งแสลงหลวง จังหวัดเพชรบูรณ์




ทุ่งแสลงหลวง มีพื้นที่ 789,000 ไร่ ตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ ถือเป็นแหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ พร้อมด้วยความแตกต่างแห่งพืชพรรณที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก นอกจากนี้ ยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสามารถขอข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งใช้บริการที่พักและกางเต็นท์พักแรมได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ น้ำตกต่าง ๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก เช่น น้ำตกแก่งโสภา, น้ำตกวังนกแอ่น ส่วนพื้นที่ทางด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยานฯ ในเขตอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่ ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งพญา ทุ่งโนนสน ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเดินป่าและกางเต็นท์พักแรม สามารถติดต่อได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ สล.8 (หน่วยฯ หนองแม่นา)


16. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่



บ้านแม่กลางหลวง ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวกระเหรี่ยงเผ่าปกาเกอะญอ ในฤดูฝนบ้านแม่กลางหลวงจะเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาขั้นบันได ลดหลั่นเป็นขั้น และยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลากหลายเส้นทาง อาทิ เส้นทางเดินป่าดอยหัวเสือ เส้นทางดูนกห้วยน้ำขุ่น และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาเสี่ยว เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติที่ต้องการความเงียบสงบและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน

17. อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่

อำเภอกัลยาณิวัฒนา เป็นอำเภอที่ 878 ของประเทศไทย แยกตัวออกจากอำเภอแม่แจ่ม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 136 กิโลเมตร อำเภอนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักธรรมชาติ ชื่นชอบวิถีชีวิต และต้องการพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ อีกทั้งฤดูฝนยังมีมนต์เสน่ห์ชวนให้หลงใหลกับนาขั้นบันไดเขียวชอุ่ม ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น วัดจันทร์ เป็นวัดที่สันนิฐานว่ามีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยละว้า (ลั๊วะ) ที่อพยพมาจากเชียงใหม่เมื่อ 300 ปี ก่อน, อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทัศนียภาพสวยงาม เป็นแหล่งตกปลาตามธรรมชาติ, ศูนย์ศิลปาชีพบ้านวัดจันทร์ เป็นสถานที่ฝึกอบรมการทอผ้าและการส่งเสริมอาชีพราษฎรในพื้นที่ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่ thairoyalprojecttour.com

18. แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี



แก่งหินเพิง ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นชั้นหินทราย อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ใสใหญ่) โดยภายในอำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทายและสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลากล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งผจญภัยเป็นอย่างมาก สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งกินต่าง ๆ  ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8-10 คน ล่องไปตามลำน้ำใสใหญ่ ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 30 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิงได้


19. สวนผึ้ง ราชบุรี




อำเภอสวนผึ้ง ไม่ใช่เพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้นที่สามารถไปเที่ยวได้ เพราะที่นี่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในทุกช่วง โดยเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีภูมิทัศน์สวยงามท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนบริเวณชายแดนแถบตะวันตกของประเทศ สวนผึ้งสมัยก่อนเป็นแหล่งทำแร่ แต่ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทหลากรูปแบบ ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ ที่สวนผึ้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าแวะชมมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านภโวทัย ที่ เป็นลักษณะเป็นเรือนไทยประยุกต์ที่จัดแสดงวัตถุโบราณ สิ่งของเครื่องใช้ในอดีต, บ้านหอมเทียน, อัลปาก้าฮิลล์ สวนผึ้ง และตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto ฯลฯ

20. เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออก




นอกจากภาคตะวันออกที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูร้อนต้นฝนก็คงเป็นเทศกาลชมผลไม้รสเลิศนานาชนิด ที่ทุกคนต่างรอคอยที่จะเดินทางไปลิ้มรสชิมความอร่อยของผลไม้สด ๆ จากต้น ภายในบรรยากาศสบาย ๆ ของสวนผลไม้ ที่เป็นของดีขึ้นชื่อของภาคตะวันออก ตามโครงการ "อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน Fruits Festival 2557" ที่นอกจากนักท่องเที่ยวไปชิมผลไม้สด ๆ จากต้น ซึ่งมีทั้งทุเรียน, เงาะ, สละ, ลองกอง, มังคุด และแก้วมังกร เป็นต้น แล้วยังสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชาวสวนได้อีกด้วย ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของทุกปี ผลไม้ของภูมิภาคแห่งชายทะเลตะวันออกของไทย โดยถือเป็นโครงการที่ดีในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก

          20 ที่เที่ยวหน้าฝน ที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวหน้าฝนเจ๋ง ๆ สำหรับวางแผนพาคนในครอบครัวไปเที่ยวกันได้เป็นอย่างดีเลย อ๊ะ ๆ แต่ถ้าอยากรู้รายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพิ่มเติม สอบถามได้ที่ TAT Call Center 1672 นะคะ

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 22:21:15 น.   
Counter : 13013 Pageviews.  

แรมเสียดูอย่างไร ตรวจสอบได้ด้วยตัวเอง

การที่ใช้แรมไปนานๆ โอกาสที่เกิดความผิดพลาดในการใช้งานหรือเกิดความเสียหายระหว่างการติดตั้งเคลื่อนย้าย ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ โดยบางครั้งก็แสดงอาการผิดปกติมาให้เห็นทันทีที่เริ่มใช้งาน แต่บางครั้งก็มีอาการต่อเมื่อมีการเรียกใช้งานแรมอย่างเต็มกำลัง อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้เมื่อเกิดปัญหาขึ้น ก็ต้องวิเคราะห์ให้ออกว่าเกิดจากสาเหตุใด



ในเรื่องของอาการที่เมื่อแรมมีปัญหา เกิดขึ้นได้ไม่หลากหลายนัก ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากการไม่บูตระบบ การเด้งออกจากโปรแกรมหรือเครื่องช้าลงกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด ไม่ใช่ว่าแรมทำงานช้าลง แต่เป็นเพราะแรมที่เสียนั้นไม่ทำงานนั่นเอง แรมที่มีอยู่เลยน้อยลงไป



วิธีการตรวจเช็คในเบื้องต้นก็ทำได้โดย การเปิด System ด้วยการคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties หรือหากเป็น Windows 8 ขึ้นไป ให้คลิกขวาที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก System ดูในส่วนของแรม ว่ามีจำนวนครบตามที่ติดตั้งไว้หรือไม่



การใช้วิธีเรียกใช้ Windows Memory Diagnostic ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มากับ Windows ในการตรวจสอบความผิดปกติในการทำงานของแรมได้ วิธีการใช้ก็เพียงพิมพ์ Memory ในช่อง Smart Search จากนั้นเลือก Windows Memory Diagnostic ระบบจะให้รีสตาร์ทหนึ่งครั้ง จากนั้นก็เข้าสู่โหมดการทำงานได้ทันที หากเกิดความผิดพลาดในจุดใด ระบบจะรายงานให้ได้ทราบ



อีกวิธีหนึ่งในการตรวจเช็คแรมว่าสามารถทำงานได้ตามปกติหรือไม่ ก็คือ การเปิดหน้าต่างโปรแกรมขึ้นมาจำนวนมาก เพื่อลองโหลดการทำงานของแรม ในกรณีที่เมื่อใช้งานไปแล้ว มีอาการโหลดค้างหรือบางครั้งเกิดบลูสกรีน ให้ลองรีสตาร์ทเครื่อง แล้วเปิดโปรแกรมขึ้นมาโหลดการใช้งานของแรมดูอีกครั้ง เพื่อเช็คว่าเกิดปัญหาจากแรมหรือไม่

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 22:20:28 น.   
Counter : 1357 Pageviews.  

6 ข้อควรทำ เพื่อเร่ง Internet Wi-Fi ให้ได้ความเร็วสูงสุด

ในยุคที่อะไรๆ ก็ไร้สายกัน ที่บ้านหรือที่ออฟฟิตของหลาๆย คนก็คงจะใช้ระบบ Wireless LAN เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องไว้ด้วยกัน ซึ่งหากแต่ละเครื่องเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากสัญญาณ internet ก็คงจะไม่มีปัญหาใดๆ แต่สำหรับคนที่ใช้ Wireless LAN เพื่อโอนย้ายไฟล์จากเครื่องหนึ่ง ไปอีกเครื่องหนึ่ง หรือแชร์ไฟล์ต่างๆ ร่วมกัน อาจพบเจอปัญหาว่าใช้เวลานานมากกว่าจะโหลดข้อมูลนั้นมาเสร็จ ยิ่งถ้าไฟล์มีขนาดใหญ่ บางทีอาจรอเป็น ชม. หรือซ้ำร้ายอาจถึงขั้น Wireless หลุดจากเครือข่าย


หากเป็นเช่นนี้เราเองก็ควรที่จะปรับแต่งระบบ ตามคำแนะนำทั้ง 6 ข้อต่อไปนี้



1. เลือกใช้มาตรฐานของ Wireless LAN รุ่นล่าสุด

โดยมาตรฐานของ Wireless LAN ทั่วไปจะมีทั้งหมด 3 ชนิดด้วยกันคือ 802.11b, 802.11g และ 802.11n ซึ่ง 802.11n จะมีความเร็ว และมีระยะทางไกลของคลื่นครอบคลุมมากที่สุด ดังนั้นเราจึงควรเลือกใช้ 802.11n ทั้งตัว Access Point และที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้ความเร็ว และความเสถียรสูงสุดนั่นเอง

ซึ่งในอนาคต จะมีมาตรฐานของ Wireless LAN แบบใหม่ นั่นคือ 802.11ac ที่มีความเร็ว และช่องสัญญาณมากขึ้น เพื่อการแชร์ไฟล์ที่รวดเร็ว เมื่อถึงเวลานั้น เราอาจมองหาอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐานดังกล่าวต่อไปครับ



2. ปรับช่องสัญญาณเสียใหม่

ช่องสัญญาณ หรือ Channel นั้นเปรียบเสมือนเลนบนท้องถนน หากเลนที่เราแล่นอยู่มีรถเป็นจำนวนมากก็อาจทำให้ติดขัด เบียดเสียดกัน เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเราเองอาจปรับเปลี่ยนช่องสัญญาณไปใช้ช่องที่มีผู้ใช้ น้อย โดยเราจะรู้ได้อย่างไรว่าระแวกบ้านใกล้เคียงใช้ช่องไหนอยู่ งานนี้อาจต้องพึ่งโปรแกรมช่วยเหลืออย่าง inSSIDer ที่เคยได้แนะนำไปครับ

ตรวจจับสัญญาน Wireless ด้วย inSSIDer

โปรแกรมจะทำการแจ้งชื่อ SSID ในระแวกใกล้เคียงให้ทราบว่า SSID ชื่อนี้ใช้ช่องสัญญาณไหนอยู่ หากพบว่า SSID ของ Access Point ของเรา ใช้ Channel ไปตรงกับช่องของคนอื่น ก็ควรหลีกเลี่ยง เพื่อที่เราจะได้ใช้ช่องสัญญาณที่ไม่มีคลื่นของคนอื่นเบียดเสียดเข้ามาครับ



3. ลองย้ายตำแหน่งที่วาง Access Point

ถ้าพบว่าสัญญาณ Wireless. ของเราอ่อน หรือขึ้นๆ ลงๆ แสดงว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อาจอนู่ห่างจาก Access Point มากเกินไป ควรทดลองย้ายที่วาง Access Point ไปอยู่ใกล้บริเวณที่มีการใช้งาน เพื่อลดระยะห่างระหว่างอุปกรณ์กับ Access Point และไม่ควรวางใกล้กับกำแพง หรือเสา เพราะอาจปิดกั้นสัญญาณ ทั้งนี้เราอาจจะเพิ่มความแรงของสัญญาณได้โดยการเปลี่ยนเสากระจายสัญญาณของ Access Point ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น



4. หลีกเลี่ยงจากสัญญาณรบกวนอื่นๆ

อุปกรณ์บางอย่างก็สามารถส่งสัญญาณเข้ามารบกวน ทำให้เกิดปัญหาได้ด้วยเช่นกัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือเตาไมโครเวฟ เราจึงควรวางอุปกรณ์เหล่านี้ให้ห่างออกไปจาก Access Point และเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน



5. ปรับค่า RTS/CTS

Wireless LAN มีการใช้สัญญาณ Request To Send/Clear To Send (RTS/CTS) ในการใช้เวลาจองช่องสัญญาณที่จะรับส่งข้อมูล เพื่อไม่ให้อุปกรณ์ที่ต้องการแชร์ข้อมูล ส่งสัญญาณออกมาชนกัน เราจึงควรปรับค่านี้ใให้เหมาะสม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม เพราะหากใช้อุปกรณ์ไม่มาก ก็อาจใช้ค่าเดิมที่ถูกเซ็ตมาได้

6. แบ่งส่วนข้อมูลในการรับส่ง

หากไฟล์มีขนาดใหญ่ เราอาจจะแบ่งส่วนของข้อมูลออกเป็นย่อยๆ แล้วทยอยส่ง เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลามากนักหากมีการรับส่่งที่ผิดพลาด ยกตัวอย่างไฟล์ zip ที่มักแบ่งเป็นหลายๆ ไฟล์แล้วส่งให้แก่กัน หากเราส่งแล้วเกิดผิดพลาดที่ไฟล์ไหน ก็ส่งเฉพาะไฟล์นั้น ซึ่งถ้าเราส่งไฟล์ไปเป็นก้อนเดียว หากเสียหายขึ้นมา การส่งใหม่อีกรอบย่อมกินเวลานานกว่าแน่ๆ



ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำแนะนำที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกบ้าน ทุกออฟฟิต เพื่อการรับส่ง แชร์ไฟล์กันด้วยวิธีไร้สาย ได้รวดเร็วและเสถียรขึ้นครับ


ขอขอบคุณ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 22:19:54 น.   
Counter : 1506 Pageviews.  

ดื่มน้ำช่วยลดอ้วนได้จริงหรือ?




แปลกแต่จริงที่น้ำสามารถเป็นตัวช่วยในการกำจัดจุดอ้วนได้ เนื่องจากคนที่ดื่มน้ำไม่พอมักหิวบ่อยๆ ขณะที่คนได้รับน้ำเพียงพอจะไม่ค่อยหิว ดังนั้น ยิ่งอยากลดความอ้วนให้ได้ผลก็ยิ่งต้องดื่มน้ำ เพื่อช่วยในการเผาผลาญไขมัน นอกจากนี้ น้ำยังช่วยบรรเทาอาการท้องผูก ต้นเหตุริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้ ฯลฯ ข้อมูลจากสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐอเมริการะบุว่า หากกระหายน้ำจากการออกกำลังกายหรืออากาศที่ร้อนจัด ต้องดื่มน้ำเย็นที่มีอุณหภูมิ 15-22 องศาเซลเซียส เพราะการดื่มน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย โดยน้ำ 1 แก้วจะช่วยเผาผลาญไขมันประมาณ 9 กิโลแคลอรีขณะที่หากดื่มน้ำน้อยตัวจะยิ่งบวมเพราะร่างกายพยายามเก็บน้ำไว้ จนทำให้มีอาการบวมน้ำทำให้เราดูอ้วนขึ้น มีเซลลูไลท์ง่ายขึ้น

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 22:19:08 น.   
Counter : 1487 Pageviews.  

ทำไม ห้ามดื่มเหล้าแกล้มทุเรียน ???



นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ทุเรียนจัดอยู่ในอาหารกลุ่มผลไม้ที่ให้วิตามินและแร่ธาตุ และเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต หากต้องการกินทุเรียนเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี จึงไม่ควรกินทุเรียนเกิน 2 เม็ดกลาง หลังกินอาหารจานหลัก

"ถ้ากินทุเรียนครั้งละ 2-3 พู หรือประมาณ 4-6 เม็ด เท่ากับว่าร่างกายจะรับพลังงานถึง 400 กิโลแคลอรี ซึ่งพอๆ กับกินข้าว 5 ทัพพี หรือน้ำอัดลม 2 กระป๋อง ดังนั้น คนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หัวใจ และความดันโลหิตสูง ควรระมัดระวังการกินทุเรียน อาจกินได้ แต่ให้กินในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ และไม่บ่อยครั้ง เพราะทุเรียนเป็นอาหารที่มีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง" นพ. พรเทพ กล่าวและว่า ส่วนคนธาตุไฟการกินทุเรียนแล้วทำให้เกิดโรคร้อนในและเจ็บคอได้ง่าย วิธีป้องกันคือ ดื่มน้ำผสมเกลือแกงครึ่งช้อนชาหรือดื่มน้ำตามมากๆ เพื่อขับสารซัลเฟอร์และช่วยลดอาการร้อนในได้ 

นพ.พรเทพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ไม่ควรกินทุเรียนร่วมกับดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากทุเรียนมีไขมันและคาร์โบไฮเดรตสูง ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้พลังงานสูง เมื่อกินทุเรียนร่วมกับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการย่อยสลายน้ำตาลที่เนื้อเยื่อต่างๆ ที่กล้ามเนื้อและไขมันเพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นไขมันและไกลโคเจนเก็บไว้ที่ตับ ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ ผลที่เกิดตามมาคือ การย่อยสลายทุเรียนและแอลกอฮอล์จะให้ความร้อนและเป็นกลไกที่ต้องใช้น้ำ และจะทำให้คนกลุ่มนี้มีน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลจะดึงน้ำออกมาเพื่อขับออกจากร่างกายในรูปปัสสาวะ โดยจะปัสสาวะมากแม้ว่าร่างกายขาดน้ำ ที่สำคัญกินทุเรียนร่วมกับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้รู้สึกตัวร้อน ไม่สบายตัว แต่ถ้ากินมากจนเมาหลับไปร่างกายจะขาดน้ำอย่างรุนแรง เมื่อถึงจุดหนึ่งสมองจะเสียน้ำมาก ระดับ เกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ สมองทำงานไม่ดี เกิดอาการไม่พึงประสงค์ เช่น อาการหน้าร้อนวูบวาบ สั่น ง่วงซึม อาเจียน คลื่นไส้ หากหมดสติและนำส่งโรงพยาบาลไม่ได้ทันอาจเสียชีวิตได้

ขอขอบคุณ




 

Create Date : 11 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 11 กรกฎาคม 2557 22:18:32 น.   
Counter : 1517 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]