ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

รถไฟตู้นอนมีแบบไหน ลองไปสำรวจโบกี้รถไฟในประเทศไทย





รถไฟตู้นอน อีกหนึ่งทางเลือกในการเดินทางระยะไกล ลองไปสำรวจตู้นอนรถไฟในประเทศว่ามีชนิดไหนบ้าง และรถไฟตู้นอนชั้น 2 จุดเกิดเหตุในคดีน้องแก้ม เป็นอย่างไร

           เป็นประเด็นน่าเศร้าสะเทือนใจที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้างขณะนี้ จากเหตุการณ์ น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับขณะโดยสารรถไฟตู้นอนชั้น 2 แบบพัดลม จากจังหวัดสุราษฎร์ธานีมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ก่อนที่ภายหลังจะพบศพ น้องแก้ม ถูกทิ้งอยู่ริมทางรถไฟช่วงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือ ผู้ก่อเหตุข่มขืนฆาตกรรมกลับกลายเป็นพนักงานของการรถไฟฯ เสียเอง

          เรื่องนี้ ทำให้ประชาชนทั่วไปที่เลือกโดยสารรถไฟเป็นประจำ เพราะมั่นใจในความปลอดภัย อีกทั้งราคาค่าโดยสารยังไม่สูงจนเกินไป เกิดความวิตกกังวลอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงที่บางครั้งต้องเดินทางไกลในช่วงเวลากลางคืน ก็จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะการโดยสารรถไฟตู้นอนที่มีม่านปิดแบ่งเป็นสัดส่วน อาจทำให้คนภายนอกมองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในตู้ ลองมาดูว่า รถไฟตู้นอนของไทยมีแบบไหนบ้าง

          สำหรับรถไฟตู้นอนในประเทศไทยนั้น มีทั้งหมด 2 แบบ คือ รถนอนชั้น 1 และรถนอนชั้น 2 ซึ่งรถนอนแต่ละชั้นยังแบ่งได้อีกหลายชนิด  คือ

 รถนอนชั้น 1  

         รถนอนชั้น 1 จะมีแต่ประเภทปรับอากาศเท่านั้น (บนอ.ป.) มีลักษณะเป็นห้องชุด แบ่งเป็น 2 แบบคือ

          - รถนอนปรับอากาศชั้น 1 ชนิด 24 ที่นั่ง (บนอ.ป24) โดยใน 1 โบกี้มี 12 ห้อง หรือ 24 ที่นั่ง ใน 1 ห้องมี 2 เตียง แบ่งเป็นเตียงบน เตียงล่าง ห้องที่เป็นคู่กันจะมีประตูเปิดเข้าหากันได้ ทั้งนี้ ราคาค่าโดยสารเตียงบนถูกกว่าเตียงล่าง แต่หากผู้โดยสารมาคนเดียวแล้วต้องการความเป็นส่วนตัวสูง สามารถจองเหมาห้องทั้งเตียงล่างและเตียงบนในราคาพิเศษได้ ใน 1 ตู้ จะมีห้องน้ำ 2 ห้อง ปัจจุบันให้บริการสำหรับขบวนรถด่วนพิเศษ และขบวนรถด่วน 



- รถนอนปรับอากาศชั้น 1 ชนิด JR-West (บนอ.ปJR) เป็นรถนอนเดิมของ JR-West ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดใหญ่และกว้าง ทำให้ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่กว่ารถนอนประเภทอื่น ทั้งนี้ ใน 1 โบกี้ จะมีเพียง 10 ห้อง ห้องละ 1 เตียงเท่านั้น ห้องที่เป็นคู่กันสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกันได้


 รถนอนชั้น 2  

          รถนอนชั้นที่ 2 จะแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ รถนอนพัดลม, รถนอนปรับอากาศ และรถนอนปรับอากาศชนิด JR-WEST คือ

          - รถนอนพัดลมชั้น 2 มีทั้งหมด 32 ที่นั่ง แบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นทางเดิน แต่ละฝั่งจะมีเก้าอี้ 2 ตัว หันหน้าเข้าหากัน เมื่อถึงเวลานอน พนักงานจะมาปูเตียงให้โดยนำเก้าอี้สองตัวมาประกบเข้าหากัน กลายเป็นเตียงล่าง มีม่านกั้นปิด ส่วนด้านบนมีล็อกเกอร์เก็บเตียงบน ผู้ที่จองเตียงบนจะต้องปีนบันไดเหล็กขึ้นไปด้านบน ซึ่งไม่สะดวกสบายนัก ทำให้ราคาค่าโดยสารเตียงบนถูกกว่าเตียงล่าง อย่างไรก็ตาม รถนอนพัดลมชั้น 2 นี้ จะไม่มีประตูกั้นระหว่างโบกี้ 



-  รถนอนปรับอากาศชั้น 2 มีทั้งแบบ 32, 36, 40 ที่นั่ง ลักษณะคล้ายรถนอนพัดลม คือเป็นที่นั่ง 2 ฝั่ง เก้าอี้หันหน้าชนกัน เมื่อจะนอนก็ต้องให้พนักงานเป็นผู้ปูเตียง ผู้ที่จองเตียงบนต้องปีนบันไดขึ้นไปเช่นกัน แต่ละห้องมีม่านกั้น แต่ละตู้จะมีประตูเปิดปิดเชื่อมกับห้องน้ำ 2 ห้อง โดยรอยต่อระหว่างห้องน้ำกับตู้ผู้โดยสารจะมีช่องแคบ ๆ ใช้เป็นที่เก็บผ้าปูเตียงและหมอน และเป็นที่พักผ่อนของพนักงานประจำรถด้วย 



-  รถนอนปรับอากาศ JR-WEST (รถบลูเทรน) ให้บริการโบกี้ละ 32, 36 และ 40 ที่นั่ง ในเส้นทางระยะไกล เช่น กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ รถนอนประเภทนี้จะไม่มีทางเดินตรงกลาง แต่ทางเดินจะอยู่ฝั่งเดียวริมหน้าต่าง อีกฝั่งเป็นห้องโดยสารไม่มีประตูปิด ใน 1 ห้องมี 4 เตียง แบ่งเป็นเตียงบน 2 เตียง เตียงล่าง 2 เตียง 



ทั้งนี้ รถไฟตู้นอนคือแต่ละโบกี้จะมีทางเชื่อมถึงกันได้ แต่พนักงานจะปิดทางเข้า-ออกตู้นอนในเวลา 22.00-05.00 น. ตามระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทย และเมื่อผู้โดยสารขึ้นเตียงนอนแล้ว พนักงานประจำรถไม่มีสิทธิ์เปิดผ้าม่านเองโดยเด็ดขาด

          ในส่วนของราคาค่าโดยสารนั้น รถไฟตู้นอนชั้น 1 มีราคาสูงที่สุด ส่วนรถไฟตู้นอนชั้น 2 หากเป็นประเภท JR-West จะมีราคาพอ ๆ กับรถนอนปรับอากาศ ส่วนรถนอนพัดลมจะมีราคาถูกที่สุด เช่น หากเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ราคารถ JR-West เตียงบนอยู่ที่ 791 บาท เตียงล่าง 881 บาท ขณะที่รถนอนปรับอากาศชั้น 2 เตียงบนอยู่ที่ 827 บาท เตียงล่าง 897 บาท แต่ถ้าเป็นรถนอนพัดลม เตียงบนอยู่ที่ 627 บาท เตียงล่างราคา 677 บาท (ข้อมูล ณ วันที่ 8 กรกฎาคม 2557)

          จากเหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นนี้ เป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่า ไม่ว่าเราจะโดยสารยานพาหนะประเภทไหน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือ "ความปลอดภัย" ของตัวเอง ต้องรอบคอบและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะอาชญากรอาจแฝงตัวมาทำอันตรายเราได้ทุกเมื่อ โดยที่เราคาดไม่ถึงเลย

ขอขอบคุณ





Create Date : 09 กรกฎาคม 2557
Last Update : 9 กรกฎาคม 2557 21:54:01 น. 0 comments
Counter : 5516 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]