ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

วิกฤต มอยส์ เพิ่มระดับเขย่าขวัญ สาวกปีศาจแดง

วิกฤต มอยส์ เพิ่มระดับเขย่าขวัญ สาวกปีศาจแดง

: ฤดูกาล 2013-14 คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่แฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทบทุกคนไม่สบอารมณ์ผลงานทีมเมื่อเทียบกับมาตรฐานตลอดหลายปีก่อนหน้านี้

ซึ่งที่มาของผลงานตำแหน่งกลางตารางต่ำกว่า 6 ลงไปแบบที่ทัพปีศาจแดงไม่เคยสัมผัสมาก่อนในยุคเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั่วโลกชี้นิ้วไปที่ เดวิด มอยส์ กุนซือชาวสกอตต์ ทายาทที่เซอร์อเล็กซ์ฝากฝังให้สานต่องานในอีกหนึ่งยุคทองของทีมปีศาจแดง

ฤดูกาลแรกในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยิ่งเวลาผ่านไป ความเชื่อมั่นและความคาดหวังในตัวผู้จัดการทีมคนใหม่ของแมนฯยูไนเต็ดยิ่งลดถอยลง ปีแรกกับการคุมทีมใหม่ในรอบ 10 ปี มอยส์ไม่มีช่วงฮันนีมูนหวานฉ่ำเมื่อเทียบกับความคาดหวังจากแฟนบอลของหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ตั้งแต่นัดแรกในเกมอุ่นเครื่องกับทีมสิงห์ ออล สตาร์ มาจนถึงเกมกับฟูแล่ม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สาวกปีศาจแดงให้โอกาสและทำใจกับการสะดุดมาแล้วหลายครั้ง แม้มอยส์จะแก้ตัวได้ พาทีมกลับมาในช่วงที่กราฟทีมกำลังดิ่งลง

แต่ปลายปี 2013 สถิติใหม่ที่ไม่น่าจดจำ ถูกมอยส์เขียนลงในหน้าประวัติศาสตร์ทีม จนแฟนบอลส่วนใหญ่เริ่มรับไม่ได้กับการทำงานของมอยส์ แม้แต่กลุ่มที่เคยสนับสนุนมอยส์ในช่วงต้น ทันทีที่เห็นฟอร์มการเล่นของ 11 นักเตะ ในเสื้อแมนฯยูไนเต็ด แฟนบอลส่วนใหญ่เริ่มไม่ไว้หน้ากุนซือชาวสกอตแล้ว

เดวิด มอยส์ ยิ่งคุมยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ

หากลองไล่เรียงสถิติที่แสนปวดใจสำหรับแฟนบอลปีศาจแดง มอยส์จารึกมาแล้วหลายหน ไม่ว่าจะเป็นแพ้ติดกัน 3 นัด เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ของทีม แมนฯยูไนเต็ด, แพ้เวสต์บรอมวิช อัลเบียน คาบ้านครั้งแรกในรอบ 35 ปี, แพ้ นิวคาสเซิล ในสนามของตัวเองเป็นครั้งแรกในรอบ 41 ปี

และที่ดูเหมือนน่าเจ็บปวดมากกว่าสถิติอื่นคือ มอยส์พาปีศาจแดงแพ้เอฟเวอร์ตัน ทีมเก่า ในการเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกในรอบ 21 ปี ซึ่งตลอด 10 ปีในการคุมทีมท็อฟฟี่สีน้ำเงิน มอยส์ไม่เคยพา เอฟเวอร์ตัน บุกชนะทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เลย

แต่หลังจากย้ายมาคุมแมนฯยูไนเต็ดต่อจากกุนซือรุ่นพี่ เอฟเวอร์ตัน ที่นำมาโดย โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ กลับพังสถิตินี้ลง บุกมายัดเยียดความพ่ายแพ้ถึงโรงละครแห่งความฝันในทันที

บุคลิกในสนามของปีศาจแดงภายใต้การคุมทีมของมอยส์ เหลือแคแร็กเตอร์ราชาแห่งการคืนชีพไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ มอยส์เคยนำแมนฯยูไนเต็ด แซงกลับมาชนะได้แบบเหลือเชื่อเช่นเดียวกับเซอร์อเล็กซ์

แต่ในทางกลับกัน ทีมของมอยส์โดนคู่แข่งยิงนำก่อน และแซงเอาชนะได้มากกว่าเสียอีก เกมกับฟูแล่มก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แฟนบอลโวยผลงานและฟอร์มการเล่นของทีมที่ขัดใจอย่างแรง

ทำสถิติใหม่ด้วยการแพ้เอฟเวอร์ตันในบ้าน

ผู้เล่นเกมรับในทีมยุคมอยส์ฟอร์มตก แถมมีข้อผิดพลาดมากมาย มีส่วนทำให้สถานการณ์ของเกมเปลี่ยนแปลงไป แต่เรื่องข้อผิดพลาดดูไม่หนักหนาเท่ากับแนวทางการเล่นของทีม ซึ่งเป็นจุดที่โดนโจมตีหนักกว่า นัดเสมอกับฟูแล่ม

แมนฯยูไนเต็ดทำสถิติครอสบอลมากถึง 81 ครั้ง เป็นสถิติทีมในพรีเมียร์ลีกที่ครอสบอลมากที่สุดต่อหนึ่งเกมนับตั้งแต่ปี 2006 แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย

ส่วนหนึ่งต้องชมแนวรับฟูแล่มอย่าง จอห์นนี่ ไฮติงก้า ซึ่งเพิ่งย้ายมาร่วมทีม และแดน เบิร์น กองหลังดาวรุ่งเจ้าของส่วนสูง 2 เมตร ผลของเกมรุกที่มอยส์วางไว้ไม่สอดรับกับระบบ

พื้นฐานของทีม การประสานงานกันระหว่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับ เวย์น รูนีย์ ก็ลดลงเมื่อดูจากสถิติการผ่านบอลให้กันและกัน และเมื่อลองเปรียบเทียบแนวทางการทำทีมของผู้จัดการทีมระดับเดียวกันในพรีเมียร์ลีก แนวทางของมอยส์ดูคลุมเครือมากที่สุด

สไตล์การเล่นของทีมแมนฯยูไนเต็ดในยุคของมอยส์ ไม่เหมือนสไตล์ที่แฟนบอลคุ้นเคย ซึ่งผู้ชมย่อมสังเกตเห็นจากการเล่นในสนามไปจนถึงผลงานที่ออกมาหลังเสียงนกหวีดจบเกม

เกมเสมอฟูแล่มในบ้านสร้างความไม่พอใจให้กับแฟนผี

ผลกระทบจากการทำงานของเดวิด มอยส์ ซึ่งพาทีมทำแต้มหล่นในบ้านมากถึง 18 คะแนน ทำให้ตราแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลอยกระทบกระเทือนไปด้วย แฟนบอลที่เคยเชื่อมั่นกำลังระส่ำระสาย ไม่แน่ว่าราคาหุ้นของทีมในตลาดหุ้นที่นิวยอร์กอาจได้รับผลกระทบเร็ว ๆ นี้ หากยังไม่มีการตอบสนองและแก้ไขอย่างรวดเร็ว

แม้วัฒนธรรมและภาพลักษณ์ของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในสายตาแฟนบอลทั่วโลก เรด เดวิล เป็นหนึ่งในทีมที่ให้ความสำคัญกับรากฐานสโมสรมากกว่าผลงานฉาบฉวย

แต่หลักคิดพื้นฐานแม้แต่สำหรับคนปกติทั่วไปย่อมดูออกว่า ถ้าจากนี้ไปมอยส์ยังไม่ดำเนินการปรับปรุงอะไรบางอย่างเพื่อตอบสนองเสียงวิจารณ์ต่อผลงานตำแหน่งกุนซือที่เซอร์อเล็กซ์เป็นคนฝากฝัง

มีแนวโน้มหลุดกระเด็นได้ไม่ต่างกับทีมใหญ่ทีมอื่นที่ปลดกุนซือกันเป็นว่าเล่น ผู้บริหารเข้าใจดีว่าผลงานของทีมระดับแถวหน้าของโลก เกี่ยวพันกับการดำเนินธุรกิจเป็นอันดับต้น ๆ

ช่วงเวลาตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมผ่านไปแล้ว เดวิด มอยส์ ทุ่มงบฯสถิติสโมสรดึง ฮวน มาต้า เพลย์เมกเกอร์ชาวสเปนมาจากเชลซี หวังช่วยพลิกวิกฤต แต่หลายฝ่ายให้ความเห็นตรงกันว่า ฮวน มาต้า ไม่เพียงพอกับการพาทีมผ่านช่วงกราฟดิ่งลงแน่นอน

มาต้า คนเดียวไม่พอ ต้องปรับอีก 4-5 ตำแหน่ง

ผู้เล่นชุดที่มีอยู่ต้องปรับอีก 4-5 ตำแหน่งเป็นอย่างน้อย ผู้เล่นที่มอยส์ฝากความหวังได้มากที่สุด นอกจากคู่กองหน้าตัวหลักอย่าง ฟาน เพอร์ซี่ และรูนีย์ เวลานี้มีเพียง ฮวน มาต้า หรือไมเคิล คาร์ริก ที่ยังพอเป็นแกนหลักได้

วิกฤตสามารถสร้างวีรบุรุษได้ แต่ถ้าความสามารถไม่เพียงพอสำหรับใช้โอกาสในห้วงวิกฤตตอบข้อสอบชีวิตได้ ก็มีแนวโน้มเสียคนในระดับความน่าจะเป็นค่อนข้างสูงทีเดียว

ข้อสอบของมอยส์มีทั้งปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องแนวทางการเล่นของทีม รวมไปถึงบททดสอบรอบน็อกเอาต์รายการยุโรปในปลายเดือนนี้ และในพรีเมียร์ลีกเองด้วย

กุนซือชาวสกอตที่ไม่เคยสัมผัสประสบการณ์และความคาดหวังในความสำเร็จของทีมใหญ่ ต้องแสดงไม้ตายให้เห็นได้แล้ว ก่อนที่จะไม่มีโอกาสทำอะไรอีกภายใต้แบรนด์ปีศาจแดง




  • สนับสนุนเนื้อหา ประชาชาติธุรกิจ



Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2557
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2557 21:59:30 น. 0 comments
Counter : 1569 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]