ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

ส่องฟอร์ม กาแฟ ฟัด เบียร์ ใครจะอยู่ใครจะไป

ส่องฟอร์ม กาแฟ ฟัด เบียร์ ใครจะอยู่ใครจะไป

เช็คฟอร์ม สถิติ จุดเด่น จุดด้อย และผลงานที่ผ่านมาของ "แซมบ้า" และ "อินทรีเหล็ก" 2 ชาตินี้ ใครจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศศึก "เวิลด์คัพ'14" ตามไปดูกัน
ใกล้จะได้เห็นแชมป์โลกทีมใหม่เต็มทนแล้วนะครับ หลังจากที่มหกรรมฟุตบอลที่ทั้งโลกตั้งตาคอยอย่างศึกฟุต เดินทางมาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าคู่แรกของรอบรองชนะเลิศระหว่าง บราซิล และ เยอรมัน ทั้ง 2 ทีม มีจุดแข็ง จุดอ่อน ตรงไหน และกว่าจะผ่านมาได้ถึงจุดนี้ พวกเขาต้องพบเจอกับอะไรมาบ้าง
บราซิล 
แม้ว่าฟอร์มการเล่นโดยรวมของเจ้าภาพบราซิล จะไม่ได้เปรี้ยงปร้างมากนัก แต่ก็เอาตัวรอดมาได้ทุกเกม โดยทัพ "เซเลเซา" จบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นอันดับที่ 1 ของกลุ่ม มี 7 คะแนน จากการลงเล่น 3 นัด ก่อนที่จะมาเอาชนะ ชิลี ไปได้แบบบีบหัวใจในการดวลจุดโทษตัดสิน ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ และสามารถเอาชนะโคลอมเบีย มาได้ในเกมล่าสุด 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบกับของแข็งอย่าง "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน
รอบแบ่งกลุ่ม : ชนะโครเอเชีย 3-1 , เสมอเม็กซิโก 0-0 , ชนะแคเมอรูน 4-1
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะชิลี ในการดวลจุดโทษ 3-2 หลังจากเสมอกันในเวลามา 1-1
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะโคลอมเบีย 2-1
จุดแข็ง 
นอกจากคุมแนวรับอย่างแข็งขันแล้วการทำประตูก็เป็นอีกจุดเด่นของคู่หูคู่นี้
บราซิลชุดนี้ต้องบอกว่ามีดีที่กองหลังจริงๆ ติอาโก้ ซิลวา และ ดาวิด ลุยซ์ 2 คู่หูดูโอ้จากทีมอภิมหึมาโคตรมหาเศรษฐีอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือหัวใจสำคัญของทัพ "แซมบ้า" ชุดนี้ แม้พวกเขาจะเสียไปแล้วถึง 4 ประตูในทัวร์นาเม้นท์นี้ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพราะสไตล์ และลีลาการบุกแบบเดินหน้าฆ่ามัน ที่มักจะให้กองหลังเติมเกมขึ้นสูงอยู่เสมอนั่นเอง
นอกจากแนวรับแล้ว อีกหนึ่งคีย์แมนคนสำคัญที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะเขามีส่วนอย่างยิ่งในการพาบราซิลชุดนี้ มาได้ถึงรอบรองชนะเลิศ เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน "เนย์มาร์" นั่นเอง ซึ่งทุกท่านก็คงทราบดีอยู่แล้วว่า หัวหอกขวัญใจเด็กแว้นซ์รายนี้ สำคัญขนาดไหนกับทัพ "เซเลเซา" และทุกท่านก็คงทราบกันดีอีกเช่นกันว่า บราซิล จะหมดสิทธิ์ใช้งานเนย์มาร์ ตลอดทั้งทัวร์นาเม้นท์นี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บมาในเกมนัดล่าสุด ฉะนั้นต้องมาคอยดูกันว่าอดีตแชมป์โลก 5 สมัย จะเอาตัวรอดผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้หรือไม่ ในยามที่พวกเขาขาดตัวขับเคลื่อนเกมคนสำคัญอย่าง เนย์มาร์ ไป  
จุดอ่อน 
4 กองหน้าเมื่อขาดเนย์มาร์ก็จะเหลือแต่.....
จุดอ่อนของบราซิล? ผมว่าคำถามนี้ เด็กประถมยังตอบถูกเลย มันง่ายเสียยิ่งกว่าถามว่า 1+1 เท่ากับเท่าไหร่ด้วยซ้ำ และมันชัดเจนแจ่มแจ้งยิ่งกว่าแสงไฟซีน่อนที่พุ่งออกมาจากรถทุกคันบนถนนยาม ค่ำคืนเสียอีก!! ทุกคนที่ได้ติดตามดูเจ้าภาพลงเล่นตลอด 5 นัดที่ผ่านมา คงคิดเหมือนกันหมดว่า จุดอ่อนของทัพ "แซมบ้า" ชุดนี้ก็คือ.. .ไทยรัฐ เอ้ย! เดลินิวส์ เอ้ย! แนวหน้า เอ้ย! ถูกแล้ว!! 
ใช่แล้วครับจุดกากที่สุดของบราซิลชุดนี้ก็คือ แนวหน้า , แนวรุก , แดนหน้า , กองหน้า สุดแล้วแต่ใครจะเรียกสุดท้ายมันก็คืออย่างเดียวกัน หรือถ้าจะให้เจาะจงไปเลยชัดๆ ก็คือ "เฟร็ด" "ฮัลค์" "โช" 3 กองหน้าสากกระเบือของทัพ "แซมบ้า" พวกนี้แหละคือจุดอ่อนของทีมครับ!!!  
สถิติที่น่าสนใจ
• ลงเล่น 5 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 
• สร้างสรรค์โอกาสยิงได้ทั้งสิ้น 63 ครั้ง ตรงกรอบ 34 เปลี่ยนเป็นประตูได้ 10 ลูก
• เสีย 4 ประตู เก็บคลีน-ชีท ได้ 1 นัด
• ดาวซัลโวสูงสุดของทีมคือ เนย์มาร์ (4 ประตู)
• บราซิล เคยยิงจุดโทษตัดสินทั้งสิ้น 4 ครั้ง ชนะ 3 แพ้ 1
เยอรมัน
"อินทรีเหล็ก" ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ด้วยการเชือด "ตราไก่" ฝรั่งเศส มาได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 1-0 อย่างไรก็ตามในทัวร์นาเม้นท์นี้ พวกเขาได้รับเสียงวิจารณ์ในด้านลบค่อนข้างเยอะทีเดียว หลังจากที่สไตล์การเล่นของเยอรมัน นั้นไม่ดุดันเหมือนแต่ก่อน เล่นบอลบนพื้น และต่อบอลไปมามากขึ้น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเล่นบอลน่าเบื่อนั่นเอง ซึ่งนี่อาจจะเป็นผลพวงมาจากการที่นักเตะส่วนใหญ่ของทีม มาจากสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ที่มี เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือชาวสเปนคุมทัพอยู่นั่นเอง เลยอาจจะทำให้นักเตะติดสไตล์การเล่นแบบ TIKI - TAKA มาเล่นในทีมชาติ ทำให้ความดุดันที่เคยมีนั้นมลายหายไป แต่ก็ได้ความแน่นอนเข้ามาทดแทน
รอบแบ่งกลุ่ม : ชนะโปรตุเกส 4-0 , เสมอกาน่า 2-2 , ชนะสหรัฐฯ 1-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะแอลจีเรีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ หลังจากเสมอกันในเวลา 0-0
รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะฝรั่งเศส 1-0
จุดแข็ง
วิธีการจัดการฝรั่งเศสจนทำอะไรไม่ได้วินัยสูงจริงๆ
"แกร่งทั่วแผ่น" คือคำนิยามสั้นๆ ที่ผมขอมอบให้กับทัพ "อินทรีเหล็ก" ชุดนี้ครับ เพราะพวกเขา แกร่งทั่วแผ่น จริงๆ ไล่ไปตั้งแต่ผู้รักษาประตูจอมหนึบอย่าง มานูเอล นอยเออร์ แผงหลังนำโดย มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ ฟิลิปป์ ลาห์ม แผงมิดฟิลด์มีทั้ง ซามี เคดิร่า, เมซุต โอซิล และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คอยควบคุมเกม แนวหน้ามี โธมัส มุลเลอร์ เป็นตัวปิดสกอร์ชั้นยอด รวมไปถึงตัวสำรองที่สามารถลงมาพลิกเกมได้เสมออย่าง มิโรสลาฟ โคลเซ่ พูดตรงๆ ว่าทัพ "อินทรีเหล็ก" ชุดนี้ลงตัวไปทุกส่วนจริงๆ ผู้เล่นทุกรายประสานงานกันได้แบบไร้ที่ติ
จุดอ่อน
อย่างที่กล่าวไปด้านบนว่า เยอรมัน ชุดนี้แข็งแกร่งจริงๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อบกพร่อง คนเราไม่มีอะไรเพอร์เฟค ไปซะทุกอย่างหรอกจริงมั้ย? แต่แค่จุดอ่อนของเยอรมันชุดนี้นั้น มันไม่ได้เด่นชัดเท่าไหร่นัก บวกกับโดนจุดแข็งบดบังซะเกือบมิด อย่างไรก็ตามผมก็พอจะมองเห็นได้ว่าจุดอ่อน หรืออาจจะเรียกว่า "จุดที่แข็งน้อยที่สุด" ก็ได้ นั่นก็คือ การไม่มีมิดฟิลด์ตัวตัดเกมโดยธรรมชาติ เพราะที่มีอยู่อย่าง เคดิร่า ก็ไม่ใช่มิดฟิลด์ประเภทที่คอยดักบอล ไม่ให้รั่วไปถึงกองหลัง จนทำให้ต้องเรียกใช้บริการของ ฟิลลิปป์ ลาห์ม ให้มายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางแทน ทำให้ต้องใช้เบเนดิกท์ โฮเวเดส และ เยโรม บัวเต็ง มาเล่นแทนที่ของ ลาห์ม ในตำแหน่งแบ็กขวา ซึ่งทั้ง 2 คนก็ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก
สถิติที่น่าสนใจ
• ลงเล่น 5 นัด ชนะ 4 เสมอ 1
• สร้างสรรค์โอกาสยิงได้ทั้งสิ้น 57 ครั้ง ตรงกรอบ 33 เปลี่ยนเป็นประตูได้ 10 ลูก
• เสีย 3 ประตู เก็บคลีน-ชีท ได้ 3 นัด
• ดาวซัลโวสูงสุดของทีมคือ โทมัส มุลเลอร์ (4 ประตู)
• เยอรมัน เคยยิงจุดโทษตัดสินทั้งสิ้น 4 ครั้ง และชนะทั้งหมด
เรียบเรียงโดย : ชิน ชินพัฒน์ 

Smm Sport สนับสนุนเนื้อหา



Create Date : 07 กรกฎาคม 2557
Last Update : 7 กรกฎาคม 2557 22:32:28 น. 0 comments
Counter : 1813 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ข่าวดี
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]