ถ้าว่ากันตามตรงใน 4 ทีมที่ผ่านเข้ามาสู่รอบรองชนะเลิศนี้ ต้องยอมรับว่า "อัศวินสีส้ม" คือทีมที่ถูกมองข้ามมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะตัวผู้เล่นไม่ใช่บิ๊กเนมทั้งหมด หากเทียบกับ 3 ทีมที่เหลือ แต่ผลงานในรอบที่ผ่านๆ มา พวกเขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว และในเมื่อผ่านมาถึงรอบนี้แล้ว ลูกทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ก็คงไม่ต้องกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ก็ต้องตามดูกันต่อไป ว่าพลพรรค "ดัตซ์แมน" จะสร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และคว้าแชมป์มาครองเป็นสมัยแรกได้หรือไม่

รอบแบ่งกลุ่ม : ชนะสเปน 5-1 , ชนะออสเตรเลีย 3-2 , ชนะชิลี 2-0

รอบ 16 ทีมสุดท้าย : ชนะเม็กซิโก 2-1

รอบ 8 ทีมสุดท้าย : ชนะคอสตาริกา ในการดวลจุดโทษ 4-3 หลังจากเสมอกันในเวลามา 0-0

จุดเด่นที่สุดของฮอลแลนด์ชุดนี้ เห็นจะเป็นเกมสวนกลับอันมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ประดุจดั่งรถเมล์สาย 8 การตั้งรับและโต้กลับ โดยการฝากบอลให้ อาร์เยน ร็อบเบน ปีกความเร็วสูง ซอยยิกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ขึ้นไปทำเกม คืออาวุธเด็ดของทัพ "กังหัน" อย่างแท้จริง ประกอบกับการมีหัวหอกที่มีความเฉียบสูงอย่าง "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ยิ่งทำให้แนวหน้าของพวกเขาน่ากลัวเป็นทวีคูณ

อย่างที่บอกไปว่าเกมสวนกลับ และเกมรับคือจุดเด่นของทีมชาติฮอลแลนด์ แต่จุดด้อยของพวกเขาก็คือ การเซ็ทเกมรุกขึ้นมาเอง แต่ไม่สามารถจบสกอร์ได้. .. งงใช่มั้ยครับ? เอออ ผมก็งง 5555 เอางี้ครับง่ายๆ 12 ประตูที่ "อัศวินสีส้ม" ยิงได้ในทัวร์นาเม้นท์นี้ มาจากเกมสวนกลับถึง 10 ประตู , จุดโทษ 1 ประตู และทำเกมบุกขึ้นมาเองแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้เพียงแค่ลูกเดียวเท่า นั้น ไอ้ข้อสุดท้ายนี่แหละครับที่ผมมองว่าเป็นจุดอ่อนของพวกเขา

• ลงเล่น 5 นัด ชนะ 4 เสมอ 1

• สร้างสรรค์โอกาสยิงได้ทั้งสิ้น 56 ครั้ง ตรงกรอบ 35 เปลี่ยนเป็นประตูได้ 12 ลูก

• เสีย 4 ประตู เก็บคลีน-ชีท ได้ 2 นัด

• ดาวซัลโวสูงสุดของทีมคือ อาร์เยน ร็อบเบน และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (4 ประตู)

• ฮอลแลนด์ เคยยิงจุดโทษตัดสินทั้งสิ้น 2 ครั้ง ชนะ 1 แพ้ 1