รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
2 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 

วิปัสสนา ทำอย่างไร

ผมขึ้นหัวข้อว่า วิปัสสนา ทำอย่างไร
สำหรับท่านที่เข้าใจวิปัสสนาดีแล้ว ก็คงอมยิ้มแล้วครับที่เห็นผมจั่วหัวเรื่องไว้แบบนี้

ที่แท้แล้ว วิปัสสนา คือ การไม่ทำอะไรเลยครับ
ถ้ามีการกระทำ นั่นไม่ใช่วิปัสสนาครับ
แต่ถ้าใครจะดำเนิน วิปัสสนาได้ จิตใจจะต้องตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิแบบมรรค 8 ให้ได้ก่อน ถ้าจิตใจยังไม่ตั้งมี่นเป็นสมาธิแบบมรรค8 แล้ว นั่นไม่ใช่วิปัสสนาครับ แต่จะเป็นว่า ผู้ปฏิบัติคิดไปเอาเองว่า นี่คือการดำเนินวิปัสสนา หรือ ภาษาที่มักพูดกันแบบล้อ ๆ คือ วิปัสสนึก ครับ

ดังนั้น ขบวนการของวิปัสสนาก็คือ ต้องฝึกจิตแบบมรรค 8 จนจิตตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิให้ได้ก่อน เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว จิตจะเห็นอาการของขันธ์ 5 ตามความเป็นจริง โดยไม่ต้องไปทำอะไรเลย ซึ่งมีการกล่าวไว้ในพระสูตร แต่ผมจะไม่ยกขึ้นมาเสนอให้ท่านเห็นในนี้

หน้าที่ของนักปฏิบัติคือ การฝึกฝนเพื่อให้จิตตั้งมั่นให้ได้ เมื่อจิตตั้งมั่นแล้ว วิปัสสนาก็จะดำเนินต่อเนื่องไปเองตามวิถีทางอันเป็นธรรมชาติ จิตที่ตั้งมี่นแล้ว จะเห็นอาการของขันธ์ 5 เป็นไตรลักษณ์ ในขั้นต้น ต่อเมื่อปล่อยวางขันธ์ 5 แล้ว จิตจะเห็นความเป็นสุญญตาเกิดขึ้นในระยะต่อมา ฟังดูเหมือนง่ายนะครับ แต่ที่จริงจะว่าง่ายก็ง่ายสำหรับคนเข้าใจและหมั่นฝึกฝน แต่จะยากมาก ๆ สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ หรือ เกียจคร้านในการฝึกฝน

ความตั้งมั่นของจิตนั้น จิตจะไม่ไหลออกไปทางทวารต่าง ๆ จิตจะไม่จมไปในความคิด จิตจะไม่แช่นิ่งในความว่าง จิตจะไม่จับยึดกับสิ่งใด ๆ แม้แต่อวัยวะต่าง ๆ หรือ แม้แต่ลมหายใจ

ส่วนการฝึกฝนเพื่อให้จิตตั้งมั่นก็แล้วแต่ถนัดของแต่ละท่านครับ
ใครถนัดแนวไหน คิดว่าไปได้ดี ก็ดำเนินไปได้ครับ
แต่สำหรับมือใหม่ ไร้กัลยาณมิตร ไร้ผุ้ชี้แนะ ผมก็ขอแนะนำกายานุปัสสัสนาสติปัฏฐานที่ผมเขียนไว้ในหัวข้อเรื่อง ตัวอย่างการรู้กาย ใน blog นี้

อนึ่ง เมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสัมมาสมาธิแล้ว นั่นคือจิตสงบแล้วครับ ไม่ต้องไปทำอะไรอีกที่เป็นสมถะ ถ้าท่านไปทำอะไรอีกที่เป็นสมถะ น้นแหละครับ ท่านกำลังกวนจิตที่สงบและพร้อมแล้วสำหรับวิปัสสนา ให้เป็นอื่นไป

สัมมาสมาธิเท่านั้น จึงจะเจริญวิปัสสนาได้ ถ้าสมาธิแบบฤาษี ใช้เจริญวิปัสสนาไม่ได้ครับ มันเป็นสมาธิคนละแบบ เพราะสมาธิแบบฤาษี นั้น จิตไหลออกไปจับอารมณ์ ไม่ตั้งมั่นนั่นเอง จึงใช้เจริญวิปัสสนาไม่ได้

ขออภัย ถ้าเรื่องนี้ อาจจะอ่านแล้วเข้าใจยากสักหน่อยสำหรับมือใหม่ด้านการภาวนา แต่ถ้าลองอ่านสักหลาย ๆ รอบ ก็น่าจะจับประเด็นได้ครับว่า วิปัสสนา คืออย่างไร






 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2552
2 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 20:00:45 น.
Counter : 1359 Pageviews.

 

แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ .สมถะ วิปัสสนา ในแนวทางที่ตำราไม่กล่าวถึง. ใน blog ประกอบด้วยครับ

 

โดย: นมสิการ 21 กรกฎาคม 2552 15:43:13 น.  

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 20:01:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.