รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
ฝึกเห็นความคิดด้วยคำบริกรรม

เมื่อท่านฝึกรู้กาย จน.จิตรู้.กิดแล้ว
ถ้าท่านจะฝึกเห็นความคิด ท่านอาจลองใช้คำบริกรรมดู
แต่ถ้าจิตรู้ยังไม่เกิด ผมไม่แนะนำให้ท่านฝึกแบบนี้

เมื่อจิตรู้ของท่านเกิดแล้ว ท่านอาจใช้คำบริกรรมอะไรก็ได้ แล้วแต่ท่านจะชอบใจ เช่น พุทโธ พองยุบ สัมมาอรหัง แต่ผมใช้คำว่า relax
(เพื่อเตือนใจตนเองให้ผ่อนคลาย ไม่เคร่งเครียด )
ให้ท่านนึกคำบริกรรมเบา ๆ (เน้นว่า ให้นึก ไม่ใช่ให้ท่อง )
เมื่อท่านนึกคำบริกรรม เมื่อจิตรู้ท่านเกิด ท่านจะเห็นสิ่งที่ท่านนึกได้
ถ้าจิตรู้ท่านไม่เกิด ท่านไม่เห็นมันครับ

ขอให้ท่านนึกคำบริกรรมเบา ๆ สบาย ๆ นึกบ้างไม่นึกบ้าง ไม่ต้องไปนึกอย่างถี่ยิบ ให้นึกบ้าง ถ้ามันจะมีคิดเรื่องอืนโผล่มาบ้าง ก็ช่างมัน
ให้ฝึกสบาย ๆ ครับ

เมื่อท่านฝึกรู้กายด้วยการลูบดังที่ผมเขียนไว้แล้วในเรื่อง
ตัวอย่างการฝึกเพื่อรู้กาย ท่านจะใช้บริกรรมพร้อมไปด้วยก็ได้เช่นกัน
ท่านก็จะรู้กาย รู้ความรู้สึกการลูบพร้อม ๆ กันไป
แต่ถ้าจิตรู้ ท่านแน่น มีกำลัง ท่านก็จะรู้ลมหายไปอีกอย่าง
เรียกว่า รู้อย่าง 3 in 1 (อย่างกะเครื่องดืมยี่ห้อหนึ่งทีเดียว )

การที่จิตรู้ ท่านรู้พร้อมกันหลาย ๆ อย่างได้ แสดงว่า จิตรู้ของท่านมีกำลังดีครับ สัมมาสมาธิ ไม่ใช่รู้เพียง 1 อย่างนะครับ ถ้ารู้เพียง 1 แสดงว่า ท่านไปจ้องเอา เพ่งเอา จะรู้น้อยอย่าง หรือว่า จิตของท่านยังไม่มีกำลังก็เป็นได้
(นี่คือข้อผิดพลาดอย่างหนึ่งของผู้ปฏิบัติ ที่ไม่สามารถเข้าถึงทางแห่งพุทธได้ ด้วยการไปตีความว่า สัมมาสมาธิ คือ จิตรู้เพียง 1 อย่าง )

นี่เป็นวิธีที่ผมฝึกการเห็นความคิดด้วยคำบริกรรม
ลองดูครับ เอาเทคนิคมาเล่าให้ฟัง แต่อย่าลืมนะครับ
ถ้าจิตรู้ท่านยังไม่เกิด ต้องหัดรู้กายไปก่อนครับ
อย่าด่วนได้

หลวงปู่ฝั้นนท่านบอกว่า พุทโธ ดีนักหนา
จริงของหลวงปู่ครับ แต่อาจไม่จริงกับของท่าน ถ้าจิตรู้ ยังไม่เกิด หรือ ยังไม่มีกำลังแบบหลวงปู่ฝั้น

เมื่อผมฝึกมาเรื่อย ๆ ผมพบว่า เทคนิคการฝึกสายวัด่ป่า เรื่องคำบริกรรมพร้อมลมหายใจ นี่คือสุดยอดของการฝึก เพราะฝึกรู้ทั้งกาย รู้ทั้งใจได้คราวเดียว เพียงแต่ว่า ผู้ฝึกยังไม่มีจิตรู้เกิด เมื่อมาฝึกแบบนี้เลย จะยากลำบากมาก ๆ และจะกลายเป็นความเครียด และเพ่งลมหายใจไปเสีย ทำให้การฝึกไม่ได้ผล






Create Date : 06 มิถุนายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:46:15 น. 4 comments
Counter : 1222 Pageviews.

 


เห็นหัวข้อจึงแวะมาศึกษา
ขอบพระคุณครับ

ตอนช่วงท้าย เป็นคล้ายๆกันครับ


โดย: วงกลม วันที่: 6 มิถุนายน 2552 เวลา:17:04:34 น.  

 
เข้ามาอ่านประดับความรู้ค่ะ


โดย: 12ปันนา IP: 58.9.57.75 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:5:48:30 น.  

 
ขอบคุณค่ะ



โดย: kaoim IP: 58.10.90.208 วันที่: 7 มิถุนายน 2552 เวลา:14:19:34 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:46:35 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.