รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 กันยายน 2552
 
All Blogs
 
มือใหม่หัดนั่งสมาธิอย่างไรดี

มีคำถามจากมือใหม่ ผมขอตอบใน blog แล้วกันครับ เพื่อว่า คนอื่นที่มีปัญหาจะได้อ่านกันได้ เผื่อเขาจะได้ประโยชน์จากคำถามนี้ด้วย
...................................................................
หนูเพิ่งเริ่ม นั่งสมาธิ และสวดมนต์ค่ะ แล้วก็เริ่มที่จะเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับธรรมบ้าง สาเหตุที่เริ่มศึกษาก็มาจากการมีทุกข์นั่นเอง และประกอบกับตัวเองเป็นคน ขีโมโห ด้วย ก็อยากจะเป็นคนใจเย็นบ้าง ก็เลยลองฝึกดูค่ะ
ก็ได้หนังสือมาบ้าง
ส่วนใหญ่เป็นหนังสือที่เค้าแจกๆ กันค่ะ
แบบว่า เป็นบทสวดมนต์แล้วสอนนั่งสมาธิ
แล้วหนูก็อ่านหนังสือ ของ ท่านพระอาจารย์ปราโมช (มีอยู่เล่มเดียว) แล้วก็ฝึกเอาเองนะคะ
แล้วก็คือ คล้ายๆ ว่า ให้เรา รู้แล้วก็ปล่อยนี่แหละ หนูก็ลองฝึกดู ก็ทำตามชีวิตประจำวันบ้างตื่นเช้ามานั่งสมาธิ ได้ประมาณ 5 - 10 นาที
ขณะนั่งหนูก็กำหนดรู้ที่ท้องยุบ แล้ว พยายาม พุท โธ (อันนี้ จำๆ มา) แล้วหนูก็จะเผลอไปคิดเรื่องนั้น เรื่องนี้ หนูก็จะรู้ตัว ว่า อ้าว ไปคิดเรื่องอื่นอีกแล้ว เอาใหม่ มาพุท โธ ต่อ
อันนี้ ถือว่าใช้ได้หรือเปล่าคะ
ขออนุญาติถามก่อนค่ะ เพราะหนูยังอ่านบล็อก
ของอาจารย์ยังไม่ครบ หากมีตอบในบล็อกแล้ว
ไหนแล้วขอบอกด้วยค่ะ จะได้ไปอ่านค่ะ
...................................................................
มาอ่านความเห็นของผมครับ
1) ยินดีได้สนทนาธรรมปฏิบัติกันครับ

2) เนื่องจากมือใหม่ กำลังจิตมักจะอ่อนมาก ซึ่งผมไม่แนะนำให้เริ่มจากการนั่งสมาธิแล้วไปกำหนดลมหายใจ เพราะเมื่อกำลังสมาธิอ่อน ก็จะรู้สึกถึงลมไม่ได้ เมื่อรู้สึกไม่ได้ ก็พยายามจะเข้าไปจับลม ซึ่งเมื่อพยายามเข้าไปจับลม เมื่อไร ก็ปฏิบัติก็ผิดทางทันทีครับ

สำหรับมือใหม่ ผมจึงแนะนำการฝึกฝนที่สามารถรับรู้ความรู้สึกได้ง่าย ๆ และที่ง่ายมาก ๆ ก็คือ การรู้สึกได้เมื่อมีการสัมผัสตามร่างกาย ผมจึงได้คิดวิธีการอะไรที่ง่าย ๆ แต่ได้ผลสำหรับมือใหม่ และได้เขียนไว้ในเรื่อง ตัวอย่างการฝึกเพื่อการรู้กาย ที่อยู่ที่นี่ //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=30&group=1&gblog=20
เป็นภาพการลูบแขน ซึ่งผมแน่ใจว่า การลูบแขนนี้ มือใหม่ทุกคนต้องรับรู้ความรู้สึกได้แน่ เมื่อรับรู้ได้ ก็สามารถจะพัฒนากำลังจิตด้วยการลูบแขนนี้ได้

ผมจึงขอให้คุณมือใหม่ ฝีกหัดการรู้กายดังที่ผมเขียนใน blog นี้ครับ มีเวลาเมื่อไร ขอให้ฝึกให้มาก ๆ ไม่ต้องนั่งขัดสมาธิ นั่งท่าอะไรก็ได้ นั่งท่าไหนก็ได้ ขอให้สบาย ๆ ทำตอนไหนก็ได้ แต่ขอให้ทำให้มาก ๆ เข้าไว้ เวลาดูทีวี แทนที่จะนั่งเฉย ๆ ก็ทำด้วยก็ได้ เวลานั่งถ่ายทุกข์ ก็ทำไปด้วย
เวลาทำการลูบแขน ก็ให้ลูบแบบสบาย ๆ เหมือนลูบเด็กอ่อน ไม่ต้องแรง ทำเบา ๆ แค่รู้สึกได้ถึงการลูบเท่านั้น อย่าได้ดูแคลนว่า ไม่เห็นได้อะไร ท่าทางไม่เห็นเก๋ไก๋ ไม่เห็นเท่ห์ แต่นี่แหละครับ ผมกล้ายืนยันว่า ได้ผลแน่นอนและดีสำหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้น และก็ดีสำหรับมือเก๋ากึกด้วยครับ
ขอให้ฝึกไปมาก ๆ อย่าไปหวังผลอะไร เพราะการหวังผลนี่จะเป็นแรงกดดันในการฝึกฝน
3) เมื่อมือใหม่ลูบแขน จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 อย่างก็คือ เดียวก็รู้สึกถึงการลูบได้เมื่อลูบแขน เดียวก็รู้สึกว่าไม่ได้ลูบ เพราะแขนกำลังเคลื่อนที่ไปโดยไม่ได้ลูบ การที่รู้สึกสลับไปมาแบบนี้เอง จะทำให้จิตมีกำลังมากขึ้นครับ การฝึกจิตต้องให้จิตรับรู้แบบนี้ครับ คือ รู้สลับไปสลับมา ไม่คงที่

4) ส่วนการสวดมนต์ จะสวดก็ได้ ไม่สวดก็ได้ แล้วแต่คุณมือใหม่ครับ อันนี้ไม่มีข้อห้าม ข้อบังคับแต่อย่างไร

5) เมื่อคุณมือใหม่ฝึกไปมาก ๆ เช่นสัก 3 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นไป กำลังจิตจะค่อย ๆ มีการพัฒนาตัวเองขึ้นมาอย่างช้า ๆ ทีละนิด ทีละนิด ซึ่งเมื่อมีการพัฒนาขึ้นมา ได้แล้ว จะมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้น คือ การแยกตัวเองออกมาของจิตรู้ ซึ่งเมื่อจิตรู้เขาเกิดและแยกตัวแล้ว จิตรู้ เขาจะเห็นอาการของขันธ์ 5 ได้เอง ซึ่งตอนนั้น มือใหม่จะหันมาดูจิตแบบหลวงพ่อปราโมทย์สอน ก็จะได้ผลครับ แต่อย่างไร ก็ขอให้ฝึกการรุ้กายต่อไปเรื่อย ๆ เสมอ ๆ อย่าไปหยุดการฝึกการรู้กาย เพราะการรู้กายนี้จะเป็นตัวส่งเสริมให้กำลังจิตยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อถึงตรงนี้ จิตใจคุณจะสามารถจับอาการของจิตได้บ้างแล้ว มันจะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้นไปเอง
เมื่อจิตมีกำลังมากขึ้น ก็จะมีความสามารถที่จะหยุดจิตปรุงแต่งที่ทำให้ทุกข์ใจได้เอง ขอให้อ่านเรื่อง กายานุปัสสนา ทิ้งไม่ได้เลย ถ้าฐานไม่มั่นคง
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=24&group=1&gblog=12

6. ที่คุณถามมาว่า เวลาพุทโธแล้วเผลอไปคิดเรื่องอื่น แล้วรู้ตัวว่าเผลอไปคิดเรื่องอื่น แล้วมาเริ่มพุทโธใหม่ อย่างนี้ถูกต้องแล้วครับ
ถ้าคุณชอบบริกรรมพุทโธ ก็ใช้บริกรรมก็ได้ครับ
แต่การบริกรรมมีข้อต้องระวังจุดหนึ่งก็คือ การบริกรรมอย่าส่งจิตไปจ้องคำบริกรรม แค่ให้รู้ว่ามีการบริกรรมก็พอ ซึ่งมือใหม่ผมค่อนข้างจะเกรงว่า จะไม่เข้าใจในการบริกรรม แล้วก็ไปจ้องการบริกรรมเข้า ถ้าไปจ้องคำบริกรรมเข้า ก็จะใช้ไม่ได้ครับ

การไม่จ้องคำบริกรรมนั้น คุณอาจใช้การบริกรรมไปแล้วก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ในเรื่องอื่นใด แล้วก็บริกรรมไปเรื่อย ๆ แบบสบาย ๆ อย่าเกร็ง อย่าเครียด อย่างนี้ก็ได้ครับ แต่ถ้าไม่แน่ใจว่า จ้องคำบริกรรมหรือเปล่า คุณมือใหม่อาจไปฝึกการลูบแขนแทน ดังที่ผมเขียนไว้ข้างต้นก็ได้ครับ

7.การปฏิบัติธรรมเพื่อการพ้นทุกข์นั้น จะต้องอาศัยความตั้งใจจริงในการฝึกฝน ทิ้งไม่ได้ แล้วผลของมันจึงจะปรากฏออกมาให้สัมผัสกันได้
อย่าคิดว่า ฝึกไปสักเดือน สองเดือน หรือ เจ็ดเดือน แล้วจะบรรลุธรรม
มันไม่เร็วแบบนั้นหรอกครับ
สำหรับเรื่องอื่น ๆ ก็ขอให้ถยอยอ่านครับ แต่ผมอยากให้ฝึกให้มากเข้าไว้ก่อน แล้วมาอ่านทวนซ้ำ ๆ คราวหน้า เพราะการอ่านทวน จะช่วยให้เราเข้าใจอะไรได้ดีขึ้นกว่าการอ่านครั้งเดียวโดยไม่เคยฝึกมาเลย

ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็ถามมาใหม่ได้ครับ


Create Date : 15 กันยายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:07:52 น. 10 comments
Counter : 3168 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะอาจารย์
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ
หนูคิดว่า หนูจะเริ่มใหม่แบบที่อาจารย์บอกนะคะ
เมื่อกี้หนูนั่งอ่านบล็อกไปก็ลองลูบขาไปเหมือนกัน

ส่วนเรื่อง
วิธีพระอาจารย์ปราโมช หนูคงยังไม่ถึงขั้นนั้นอ่ะค่ะ

ตอนนี้ หนูว่าจะเพิ่มช่วงเย็นในการนั่งสมาธิด้วยค่ะ
เพราะจะได้เวลาที่ยาวนานขึ้นด้วย


เอ่อ หนูกะว่าจะมาคอยรายงานผล แบบเหมือนเด็กทำการบ้านด้วยนะคะ แล้วถ้าอย่างไร คิดว่า จะนำไปประยุกต์ให้เด็กนักเรียนลองฝึกด้วย

จริงๆ แล้วในเรื่องรูปแบบ หรือ สาย (แบบว่าเคยอ่านหนังสือเจอ ที่ว่า ฝึกแบบสายนั้น สายนี้ อาจารย์นั้น นี้ โน้น) หนูก็ไม่ค่อยรู้กะเข้าอ่ะค่ะ เรียกว่า กะว่าจะลองทำๆ ดูตามหนังสือที่อ่าน อันไหนอ่านง่าย เข้าใจง่าย ก็ทำแบบนั้นไปหน่ะค่ะ
เพราะเพิ่งเริ่มจริงๆ ค่ะ


อ้อ อีกเรื่องนึงค่ะ เรื่องสถานที่ปฏิบัติธรรมค่ะ คือ
หนูกะว่าจะไปหาสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ก็หาข้อมูลอยู่ค่ะ
แต่ก็ติดขัดหลายๆ เรื่อง ถ้าอย่างนี้ หนูจำเป็นต้องไปใหมคะ
ถ้าหนูจะลงปฏิบัติ แล้ว ยึดอาจารย์ เป็นผู้ชี้แนะจะได้ใหมคะ
เพราะก็เคยอ่านมาว่า คนเราจะปฏิบัติธรรมอยู่ที่บ้านก็ปฏิบัติได้ประมาณนี้ค่ะ เลยเกิดข้อสงสัย

แล้วอีกอย่างค่ะ หนูก็ได้อ่านเม้นของอาจารย์ที่ตอบ คุณ bigsun หนูพอสรุปได้ว่า วิธี การนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เรา รู้กายได้ สิ่งสำคัญ ที่หนูรู้สึกคือ ทำอย่างไรที่เราจะไม่ทำจนเคร่งเครียด ให้ทำอย่างสบาย และอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนว่า ขณะนี้ ที่หนูกดแป้นพิมพ์อยู่นี้ก็ให้รับรู้ว่า นิ้วไหนกำลังสัมผัสอยู่ หรือขณะนี้ มีมดมาไต่ที่แขนหนู (มันไต่อยู่จริงๆ) ก็ให้รู้สึกได้ หรือขณะนี้ พัดลมส่ายมาแล้วมากระทบกับผิวหนู หนูก็รู้สึก ประมาณนี้หรือเปล่าคะ

หนูถามคำถามไว้ก่อนค่ะ แล้วจะเลิกกดแป้น ไปนั่งสมาธิและสวดมนต์แล้ว พรุ่งนี้เช้า จะมารับคำตอบ
แต่ถ้าอาจารย์ยังไม่ทันเข้ามาที่บล็อก ก็ไม่เป็นไรค่ะ
ตอนนี้ หนูมีเวลาสำหรับ การเข้าบล็อกอยู่บ้างคือ
เช้า ก่อนไปทำงาน กลางวัน พักทานข้าว และ ก็หัวค่ำหลังทำงานบ้านเสร็จค่ะ

ขอกราบขอบคุณอาจารย์ ที่ช่วยชี้ทางสว่างนะคะ

หนูหวังว่า หนูกจะมีบุญได้ตามอ่านบล็อก เก่าของอาจารย์ได้ครบ และเกิดความเข้าใจ เพื่อการพ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นนะคะ


โดย: มือใหม่ (ไม่ยอมล็อกอิน) IP: 61.7.190.90 วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:19:46:23 น.  

 
1 ถ้าคุณศีกษาแล้วเข้าใจ จะปฏิบัติที่บ้านก็ได้ครับ

2 แล้วอีกอย่างค่ะ หนูก็ได้อ่านเม้นของอาจารย์ที่ตอบ คุณ bigsun หนูพอสรุปได้ว่า วิธี การนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้เรา รู้กายได้ สิ่งสำคัญ ที่หนูรู้สึกคือ ทำอย่างไรที่เราจะไม่ทำจนเคร่งเครียด ให้ทำอย่างสบาย และอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนว่า ขณะนี้ ที่หนูกดแป้นพิมพ์อยู่นี้ก็ให้รับรู้ว่า นิ้วไหนกำลังสัมผัสอยู่ หรือขณะนี้ มีมดมาไต่ที่แขนหนู (มันไต่อยู่จริงๆ) ก็ให้รู้สึกได้ หรือขณะนี้ พัดลมส่ายมาแล้วมากระทบกับผิวหนู หนูก็รู้สึก ประมาณนี้หรือเปล่าคะ

>> ใช่แล้วครับ คุณเข้าใจถูกแล้วครับ ขอให้สังเกตอีกอยางหนึ่ง เมื่อเราสบาย ๆ ไม่เกร็ง ไม่เครียด เราจะรู้ได้หลาย ๆ
อย่างพร้อม ๆ กัน เช่น ตาก็มองเห็นได้ หูก็ได้ยินได้ กายก็รู้สึกถึงลมที่พัดมาโดนได้
รู้สึกถึงการสัมผัสอื่น ๆ ได้ และรู้สึกได้ที่ใจที่เฉย ๆ สบาย ๆ ได้
รู้สึกได้ไหมครับ ถ้าได้ นี่แหละครับใช่เลย
ขอให้ฝึกฝนอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

ผมแนะนำอีกอย่าง เรื่องตำราอย่าอ่านมาก ถ้าคุณจะเรียนจาก blog ผม
ก็ขอให้ศึกษาจาก blog ผม เพราะว่า ถ้าคุณไปอ่านตำราที่อื่น เขาพูดไม่เหมือนกันกัน
คุณจะงง และสับสน ทีนี้แหละครับ คุณจะจับต้นชนปลายไม่ถูก
และอาจเดินผิดทางได้ทันทีครับถ้าไปเข้าใจผิดในเรื่อง สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ลองอ่าเรื่องนี้ดูครับ ขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรม
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=25&group=1&gblog=13



โดย: นมสิการ วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:20:21:25 น.  

 
ผมมีเพิ่มเติมวิธีเดินจงกรมใน ตัวอย่างการฝึกเพื่อการรู้กาย ที่อยู่ที่นี่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=30&group=1&gblog=20
เข้าไปอ่านดูครับ


โดย: นมสิการ วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:20:23:55 น.  

 
เข้ามาอ่านครับท่าน


โดย: ในความฝันของใครสักคน วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:21:26:11 น.  

 
ไปบวชชีมาคะ ได้แค่ 3วันแต่ก็ได้อะไรกลับมาเยอะเวลานั่งสมาธิพระท่านก็สอนว่า
นั่งก็ให้รู้ว่าเป็นรูปนั่ง ไม่ใช่เรานั่ง
ยืนก็ให้รู้ว่าเป็นรูปยืน ไม่ใช่เรายืน
นอนก็ให้รู้ว่าเป็นรูปนอน ไม่ใช่เรานอน
แต่ก็ไม่ได้ผลใจแวปไปคิดโน่นคิดนี่อยู่เรื่อยเลยอยากได้วิธีที่นั่งได้ผงที่สุดรบกวนช่วยส่งมาให้หน่อยนะคะ
doscy_@hotmail.com
ขอบคุณล่วงหน้าคะ


โดย: ยังไม่สำเร็จ IP: 125.25.205.232 วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:19:08:52 น.  

 
ตอบคุณ ยังไม่สำเร็จ IP: 125.25.205.232
ผมไม่เข้าใจทีคุณขอผมให้ส่งทาง email
ปรกติสำหรับมือใหม่ ผมไม่แนะนำให้ทำนั่งสมาธิแบบนิ่ง
ครับ เพราะจะยากสำหรับมือใหม่ แต่ถ้ามือเก่าที่ชำนาญแล้ว เขาจะไม่มีปัญหาเลย

สำหรับเรื่องการปฏิบัตินั้น ผมมีเขียนไว้ใน blog นี้แล้ว ซึ่งค่อนข้างจะมีครบ ขอให้ทยอยอ่านครับ
ผมมีสอนการฝึกไว้ที่เรื่อง ตัวอย่างการฝึกเพื่อการรู้กาย เข้าไปอ่านได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=namasikarn&month=05-2009&date=30&group=1&gblog=20

ที่คุณไปบวช แล้วพระสอนที่คุณเขียนมานั้น ถ้าเป็นคนใหม่ ไม่มีทางรู้แบบนั้นได้เลยครับ ถ้าไปรู้ได้ ก็แสดงว่า คิดเอาเอง อันเป็นจินตมยปัญญา ไม่ใช่ภาวนามยปัญญา


โดย: นมสิการ วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:6:57:18 น.  

 
แวะมาทักทายค่ะ หายไปนานเลยค่ะ พร้อมกับความไม่ได้เรื่องของตนเอง คงต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่แล้วค่ะ จะเริ่มฝึกไปพร้อมกับน้องมือใหม่เลยนะคะ

บุญรักษาค่ะ
ปู


โดย: เบญญาภา IP: 68.183.49.254 วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:10:50:45 น.  

 
ช่วยแนะนำวิธีดูกาย ดูใจ แบบพระอาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโชด้วยค่ะ ว่าเริ่มต้นอย่างไร ฟังซีดีแล้วค่ะ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรค่ะ ขอบพระคุณมากมายค่ะ


โดย: อ้อย IP: 90.201.99.218 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:3:44:54 น.  

 
การเริ่มต้นอย่างไร ขอให้อ่านเรื่องที่นี้ครับ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=namasikarn&month=05-12-2009&group=5&gblog=35

ขออภัยที่ตอบช้า เพิ่งจะมาเห็น


โดย: นมสิการ วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:16:19:19 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:20:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.