รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
27 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
การพิจารณาธรรมฉบับชาวบ้าน

ถ้าท่านได้ลงมือฝึกฝนการเจริญ .สติสัมปชัญญะ จนกระทั้งสัมมาสมาธิตั้งมั่นดีแล้ว สภาวะการตื่นรู้ จะปรากฏขึ้นเพราะความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติ สัมมาสมาธิเอง เมื่อสภาวะตื่นรู้อยู่ ถ้าจะเปรียบก็เหมือนกับเครื่องเรดาร์ตามสนามบินที่กำลังทำงานอยู่ เมื่อวัตถุปรากฏขึ้นในขอบเขตของเรดาร์ ก็จะมีสัญญาณปรากฏบนจอเรดาร์นั้นเอง อันเป็นการทำงานของระบบเรดาร์

จิตที่ตื่นรู้ก็เช่นกัน จะเหมือนระบบเรดาร์ เมื่อไม่มีอะไรในสังขารแปรเปลี่ยน จอเรดาร์ก้ว่างเปล่า ในทำนองเดียวกับจิตที่รู้ว่า ตอนนี้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย เมื่อสังขารแปรเปลี่ยน จิตที่ตื่นรู้ ก็จะเห็นการแปรเปลี่ยนนั้น ๆ ได้เอง โดยไม่ต้องไปทำอะไร ซึ่งเหมือนกับจอเรดาร์ที่มีสัญญาณเกิดขึ้นว่า สามารถตรวจจับวัตถุในรัศมีของเรดาร์นั้นได้

เมื่อจิตรู้ที่ตั้งมั่นเห็นการแปรเปลี่ยนของสังขารได้เอง โดยที่ไม่ต้องไปทำอะไรเลย จิตรู้ที่ตั้งมั่นจะเห็นสังขารแปรเปลี่ยนเป็นไตรลักษณ์เอง โดยไม่ตั้งไปทำอะไรเช่นกัน ผู้ปฏิบัติไม่ต้องไปคิดตามเลยว่า นี่ไงไครลักษณ์
เพียงให้จิตรู้ เขาเห็นอยู่เฉย ๆ ก็เท่านั้นเอง ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปวิพากษ์วิจารณ์ด้วยว่า นี่ไง มันเกิดขึ้น มันตั้งอยู่ มันดับไป เพียงเห็นเฉย ๆ เป็นพอ ไม่ต้องไปรู้ด้วยว่า สังขารที่จิตเห็นนี้ มันคืออะไร ไม่ต้องไปรู้ด้วยว่า สังขารที่จิตเห็นมันชื่ออะไร ไม่ต้องไปรู้อะไรเลย เพียงเห็นเฉย ๆ แบบเด็กทารก ที่เห็นภาพ แต่ไม่รู้ว่า มันคือภาพอะไร ให้เห็นแบบนี้ก็พอแล้ว

เมื่อผู้ปฏิบัติที่จิตรู้เกิดใหม่ ๆ การเห็นของจิตรู้ จะยังมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ โดยที่ผู้ปฏิบัติห้ามไม่ได้ นี่เป็นเพราะกำลังของสัมมาสติสัมมาสมาธิ ยังไม่ตั้งมั่นอย่างมั่นคง ถ้าท่านอยู่ในช่วงนี้ ก็ไม่ต้องไปกลุ้มใจว่า จะปฏิบัติผิด หรือ อย่างไร ขอให้สบาย ๆ แล้วฝึกฝนสติสัมปชัญญะต่อไปอีก แล้วกำลังของสัมมาสติ สัมมาสมาธิก็จะตั้งมั่นขึ้นเรื่อย ๆ เอง เมื่อตั้งมั่นมาก ๆ แล้ว การวิพากษ์วิจารณ์ก้จะหยุดไปเองโดยอัตโนมัติ แต่ต้องใช้เวลามากพอสมควร ดังนั้น ขอให้ท่านอย่าใจร้อน ขอให้ค่อยเป็นค่อยไปแบบสบาย ๆ

เมื่อจิตรู้ของท่านตื่นใหม่ ๆ ท่านจะเห็นสังขารแปรเปลี่ยนไปมา นี่คือกุญแจหลักในการปฏิบัติ ท่านอาจเห็นความว่างได้บ้าง แต่ช่วงแรก ๆ นี้ที่สำคัญคือการเห็นไตรลักษณ์ของสังขาร ไม่ใช่ความว่าง เมือจิตรู้ เห็นไตรลักษณ์ของสังขารมาก ๆ เห็นบ่อย ๆ จิตรู้จะสะสมความรู้นี้ไว้เองแบยอัตโนมัติ ท่านไม่ต้องไปช่วยมันจำ ช่วยมันสะสม มันจะทำงานของมันเองอย่างนี้เอง
แต่เมื่อมันสะสมไตรลักษณ์ของสังขารไปมาก ๆ เข้า วันดีคื่นดี จิตมันจะโพล่งปัญญาออกมาเอง โดยจิตเขาจะเห็นและยอมรับเองว่า สังขารนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา เมื่อจิตยอมรับแล้ว ต่อไปเมื่อเกิดสังขารขึ้น จิตจะไม่ยึด จิตจะปล่อยสังขารนั้นเอง เมื่อจิตปล่อยสังขาร จิตก็ไม่ทุกข์เพราะสังขารที่เกิดขึ้น

แต่ถ้าท่านไปหลงระเลิงใจกับความว่างในระยะแรก ๆ ที่จิตรู้เกิด โดยที่จิตเขายังไม่ปล่อยวางสังขาร จิตจะไม่มีปัญญาปล่อยวางสังขาร เมื่อจิตไม่ปล่อยวางสังขาร เมื่อสังขารเกิด จิตจะยึดสังขารไว้ เมื่อจิตยึดสังขารไว้ จิตจะทุกข์ แล้วท่านก็หลงเข้าไปยึดอีกทีว่า ฉันเป็นทุกข์แล้ว

ขอให้ท่านเข้าใจอย่างนี้ ขบวนการมันต้องเกิดอย่างนี้ ถึงจะใช้ได้ ก็คือ แรกสุด ให้จิตเห็นสังขาร จนปล่อยวางสังขารให้ได้ก่อน

เมื่อจิตปล่อยวางสังขารได้แล้ว จิตจะเห็นความว่างได้เอง แล้วตอนหลังนี้ สังขารมันจะเกิดน้อยลง ไปทุกที แล้วจิตจะเห็นความว่าง ความเป็นสุญญตามากขึ้นทุกที

ขอท่านอย่าได้รวบลัดขั้นตอน ท่านจะพลาดพลั้ง ท่านควรเรียน บวก ลบ คูณหาร ยกกำลัง ถอดรูทก่อน จึงจะไปเรียนแคลคูลัส

ท่านจะเห็นว่า สิ่งทีผมได้พยายามบอกท่านและเน้นย้ำเสมอใน blog นี้ ผมเน้นว่า ท่านต้องเจริญสติสัมปชัญญะอย่างถูกต้อง จนสัมมาสติ สัมมาสมาธิตั้งมั่นให้มั่นคงมาก ๆ แล้วจิตรู้ เขาก็ดำเนินการของเขาเองทั้งหมด โดยที่ผู้ปฏิบัติไม่ต้องไปทำอะไรเลย

ไม่ต้องทำ ไม่ต้องสร้าง ไม่ต้องคิดพิจารณา อยู่เฉย ๆ นี่แหละ แต่อยู่ด้วยความตั้งมั่นแห่งสัมมาสติสัมมาสมาธิ

ผมจึงบอกท่านให้รู้ว่า ขั้นตอนมันเป็นอย่างไร ท่านจะเชื่อผมหรือไม่เป็นเรื่องของท่าน ผมบอกท่านแล้ว มันเป็นสิทธิของท่านจะพิจารณาเองด้วยปัญญา



Create Date : 27 มิถุนายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:40:03 น. 3 comments
Counter : 1110 Pageviews.

 
แวะมาทักทายค่ะ


โดย: CrackyDong วันที่: 27 มิถุนายน 2552 เวลา:22:43:13 น.  

 
สวัสดีครับ คุณ CrackyDong


โดย: นมสิการ วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:6:00:46 น.  

 
ยังคงติดตามตอนต่อไปค่ะ
วันนี้เขียนได้ดีมากเลย
เป็นอย่างนั้นจริงๆ


โดย: บัว IP: 118.174.12.24 วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:12:22:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.