รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
เพ่ง การใช้จิตทำงานที่นักปฏิบัติมือใหม่ไม่รู้ว่ากำลังเพ่งอยู่

นักปฏิบัติมือใหม่มักจะเพ่งอะไรสักอย่าง แล้วไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเพ่งอยู่

การเพ่งก็คือ การใช้จิตให้ไปทำงานอย่างหนึ่ง เช่นในขณะเดินจงกรมอยู่ นักปฏิบัติมือใหม่จะได้รับคำสอนว่า เวลาเดิน ให้เดินเป็นจังเหวะ ให้รับรู้การกระทบสัมผัสที่เท้า หรือ เวลานั่งสมาธิ ให้รับรู้การกระทบสัมผัสของลมหายใจที่ปลายจมูก หรือไปเจอกับคำสอนเรื่องความว่าง ก็ไปเพ่งความว่าง เป็นต้น เมื่อนักปฏิบัติมื่อใหม่ได้รับฟังคำสอนอย่างนี้ ในขณะปฏิบัติ ก็จะส่งจิตไปจับที่เท้าเวลาเดินจงกรม หรือ ไม่ก็ส่งจิตไปจับที่ปลายจมูกเวลานั่งสมาธิเพื่อดูลม นี่คือการเพ่งเพราะจิตถูกบังคับให้ไปจดจ่อที่ใดที่หนึ่งตามที่ต้องการอยู่ เมื่อเพ่งอยู่ การรับรู้อารมณ์ของจิตก็จะชัดเลยทำให้เข้าใจไปว่า ฉันปฏิบัติถูกแล้ว ยิ่งถ้าใครได้ไปเรียนอภิธรรมที่มีการกล่าวถึงการปฏิบัติว่า ต้องรู้ชัดด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เกิดการมั่นใจเลยว่า ฉันปฏิบัติถูกแล้วจริง ๆ อย่างแน่นอน เพราะตรงตามตำราอภิธรรม ตรงตามคำสอนของผู้สอน

ในการปฏิบัติจริง สำหรับมือใหม่ กำลังของสติสัมปชัญญะจะอ่อนมาก ถ้าไม่เพ่ง การรับรู้ความรู้สึกที่เบา ๆ เช่นลมหายใจจะเป็นไปได้ยากมาก จนถึงยากมาก ๆ ที่ไม่สามารถรับรู้อาการของลมหายใจโดยไม่เพ่ง ดังนั้น นักฏิบัติมือใหม่ ที่เข้ามาเริ่มด้วยลมหายใจ มักจะเพ่งเสียเป็นส่วนมาก เมื่อไม่รุ้ว่า ตัวเองกำลังเพ่ง ก็ปฏิบัติไปตามนั้นตลอดมา จนกลายเป็นคนติดเพ่งไป อย่างไม่รู้ตัว

สำหรับมือใหม่ทีเข้ามาสุ่การปฏิบัติ ผมจะไม่แนะนำให้เริ่มจากลมหายใจ เพราะจะเข้าใจผิดได้ง่ายในการปฏิบัติแล้วไปติดเพ่งไปเสีย

การปฏิบัติทีไม่เพ่ง คือ การปล่อยจิตให้เป็นอิสระ ไร้การบังคับ เพียงรู้สึกตัวอย่างเป็นธรรมชาติ ที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด แล้วจิตเขาจะรับรู้ความรู้สึกได้เอง ( แนะนำให้อ่านเรื่อง สติในความเห็นของผม และ ความรู้สึกตัวฉบับชาวบ้าน ประกอบ ) สำหรับมือใหม่ ผมแนะนำให้ฝึกอะไรก็ได้ที่มีความรู้สึกที่เกิดแล้วแรง ๆ เช่น การเดินจงกรม การลูบไล้ผิวหนัง เป็นต้น

เมื่อผู้ฝึกใหม่ เริ่มจากการฝึกที่ไม่เพ่งและมีการรับรุ้ความรู้สึกที่แรง ๆ ได้
เมื่อฝึกไปเรื่อย ๆ อย่างสมำเสมอ กำลังของสติสัมปชัญญะ ก็จะค่อย ๆ มีการพัฒนาให้มีกำลังขึ้นเอง เมื่อสติสัมปชัญญะมีกำลังขึ้นมาบ้างแล้ว จิตเขาก็จะมีความสามารถที่จะรับรู้ความรุ้สึกที่เบาลงได้เอง เมื่อถึงตอนนี้แล้ว ผู้ฝึกใหม่ จะมาดูลมหายใจ ก็จะไม่มีปัญญาและก็ไม่เพ่งด้วย

ท่านอาจสงสัยว่า แล้วการเพ่งมีข้อเสียอะไรละ ถึงไม่ให้เพ่งในการปฏิบัติ
การเพ่งนั้น เป็นการใช้จิตด้วยความอยาก จิตไม่เป็นกลาง ไม่เป็นอิสระที่แท้จริง .จิตรู้. จะเป็นก้อนเป็นดวง ไม่เป็นสุญญตา ทำให้ไม่เห็นความเป็นจริงตามธรรมชาติของจิตเอง ว่า ทีแท้จิตเองก็เป็นสุญญตา ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัจจัตตังที่รู้เห็นได้เฉพาะบุคคล และต้องเป็นคนที่ช่างสังเกต จึงจะสังเกตเห็นได้

ถ้าท่านอ่านแล้วงง ก็เอาเป็นว่า ถ้าฝึกใหม่ ก็อย่าเริ่มด้วยการเพ่ง เพราะถ้าไปติดการเพ่งเข้า ต่อไปจะแก้อยาก ถ้าเริ่มให้ถูกต้องเลยตั้งแต่ต้น การพัฒนาจิตก็จะเข้าสู่ทางเดินอันเป็นธรรมชาติของจิตเขาเอง และจะไปได้ดีกว่าการฝึกด้วยการเพ่ง

สัมมาสมาธิในมรรค8 ที่ได้กล่าวถึงจิตระดับฌาน และมีการแปลความหมายว่า ฌาน คือ การเพ่ง นั้น ออกจะเป็นการแปลแบบกำปั้นทุบดิน
สัมมาสมาธิในมรรค8 ที่จิตเป็นระดับฌานนั้น จิตรู้อารมณ์ชัดเพราะความตั้งมั่นแห่งจิต จิตไม่สัดซ๋ายไปมา แต่ไม่เพ่งครับ
แต่ถ้าสมาธิแบบฤาษ๊ อันเป็นสมาธิแบบเพ่งนั้น ฌานแบบนี้ซิครับ ถึงจะเป็นการเพ่งที่แท้จริง นี่คือเหตุผลว่า ทำไมฤาษีในสมัยก่อนพุทธกาลนั้น ไม่อาจรู้พุทธธรรมแบบพระพุทธเจ้าได้ ในพระไตรปิฏก ก็ได้เขียนไว้แล้วในการปฏิบัติที่ครง ( มรรค8 ) และไม่ตรง (ตอนไปเรียนกับ 2 ดาบส ) ของเจ้าชายสิทธัตถะ พระศาสดาได้ทางแสดงทางตรงไว้แล้ว อย่าเสียเวลาเดินเลี้ยวไปเลี้ยวมาอีกเลย ชิวิตนี้สั้นนัก ถ้าตายก่อนรู้ทาง อีกกี่ชาติจะได้ยินได้ฟังพุทธธรรมอีก ภัยวัฏฏะน่ากลัวมากนะครับ ถ้าไม่เชื่อ ท่านลองนึกถึงความทุกข์ของท่านในอดีต นึกถึงทุกข์ของคนใกล้ตัวท่านซิครับ หรือ ลองเดินไปโรงพยาบาลซิครับ ดูคนเจ็บป่วย ท่านจะเห็นและเข้าใจได้เองอย่างซาบซึ้งที่สุด




Create Date : 25 มิถุนายน 2552
Last Update : 29 มกราคม 2555 19:40:30 น. 3 comments
Counter : 2593 Pageviews.

 
ก็นั่นน่ะสิคะ จึงได้ถามไว้ตอนแรกๆ ว่า ฉันดูเหมือนจะเพ่งไปหรือเปล่า

เก็บคำถามไว้ตอนไปโครงการฯก็แล้วกันค่ะ

อย่าเพิ่งเบื่อและเลิกเขียนบทความนะคะ...การที่คุณนมสิการสามารถถ่ายทอดด้วยภาษาที่ง่ายๆ อ่านแล้วลองทำได้ง่ายๆ เป็นผลดีมากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติ และปฏิบัติไม่ได้สักกะที อนุโมทนามากๆค่ะ สาธุ สาธุ

อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้พวกเราได้สู้ๆ กันต่อไป
จริงมั๊ยคุณ 12ปันนา


โดย: kaoim IP: 58.10.90.214 วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:7:28:14 น.  

 
ผมจะชี้ให้ผู้ที่ไปโครงการณ์เห็นด้วยตัวเองว่า อย่างใดคือ เพ่ง อย่างใด คือไม่เพ่ง เมื่อเห็นแล้วจะเข้าใจได้ทันที
จะได้หมดสงสัยว่า ตัวเองกำลังเพ่งหรือไม่

และวิธีการฝึกที่ไม่เพ่ง นั้นฝึกอย่างไร


โดย: นมสิการ วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:8:12:00 น.  

 
ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน


โดย: นมสิการ วันที่: 29 มกราคม 2555 เวลา:19:40:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.