รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ **กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผม ทาง e-wallet ครับ** **ผมขอสงวนสิทธิการเป็นเจ้าบ้านของ blog ลบข้อเขียนใดๆ ก็ได้ใน blog นี้ตามที่ผมเห็นสมควร**
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
30 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

อะไรคือความละเอียดในการปฏิบัติ

เมื่อท่านได้ฝึกฝนการเจริญสติสัมปชัญญะอย่างถูกต้อง จน .จิตรู้. เกิดแล้ว
ท่านอาจสงสัยว่า การปฏิบัติให้ปฏิบัติต่อไปอย่างไร

สำหรับคำตอบ ก็คือ ปฏิบัติให้ละเอียดขึ้นครับ

เมื่อผมยังไม่ประสีประสาในการปฏิบัติ ผมมักได้ยินคำสอนหลาย ๆ คนที่บอกผมว่า การปฏิบัติต้องให้เห็นความละเอียดของจิต เห็นความว่าง เห็นสุญญตา เห็นนิพพาน ถ้าใครยังไม่เห็นความว่าง เห็นสุญญตา แสดงว่า ยังไม่ละเอียดพอ

คำสอนข้างต้น เป็นอันตรายมากสำหรับคนที่ยังไม่รู้ทางดีพอ
เพราะ ถ้าเขาเพิ่งจะเริ่มเดินได้ ก็ได้รับคำสอนแบบนั้น ทำให้ผู้เริ่มจะเดินได้ จะหันไปเพ่งควานหาความว่าง หาสุญญตา หานิพพาน หาสิ่งที่ละเอียด ๆ ทันที นี่คือการหลงทางแล้วครับ

ในแง่การปฏิบัตินั้น ความหยาบ ความละเอียด ก็คือ ความต่อเนื่องของสติสัมปชัญญะ ถ้าการปฏิบัติของท่าน สติสัมปชัญญะ ยังไม่ต่อเนื่องดีพอ
ถึงแม้จิตรู้จะเกิด แต่จิตรู้ก็ยังหยาบ ก็จะเห็นได้แต่สภาวะธรรมที่หยาบ ๆ ได้เท่านั้น เช่น เห็นอารมณ์จิตปรุงแต่งที่แรง ๆ เช่นความโกรธ ได้ แต่ถ้าท่านหมั่นฝึกฝน จนสติสัมปชัญญะต่อเนื่องได้ดีจริง ๆ นี่คือความละเอียด จิตรู้ ของท่านจะเห็นสภาวะธรรมที่ละเอียด ๆ ได้เองโดยทีท่านไม่ต้องไปเพ่งหา ไปควานหาเลย

ดังนั้น ถ้าท่านได้ยินคำสอนเรื่องความหยาบ ความละเอียดแล้วละก็
ขอให้เข้าใจครับว่า มันเนื่องมาจากความต่อเนื่องของสติสัมปชัญญะครับ

จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมพบว่า เมื่อผมปฏิบัติอยู่ ผมมักจะเข้าใจว่า ขณะนี้สติสัมปชัญญะของผมต่อเนื่องดีแล้ว ซึ่งความจริงไม่ใช่ มันยังหยาบอยู่ แต่ผมไม่รู้ครับ พอผมฝึกกายานุปัสสนาสติปัฏฐานด้วยกรรมฐานเคลื่อนไหว มากขึ้น สติสัมปขัญญะของผมดีขึ้น ผมให้ผมทราบต่อมาว่า ส่งที่ผมเข้าใจตอนแรกนั้นผิดไปเสียแล้ว
ยิ่งฝึกไปมาก ๆ ก็จะรู้ได้เองว่า ความละเอียดไม่มีทางสิ้นสุดเลย ยังไปได้เรื่อยๆ อยู่ ซึ่งหมายความว่า ถ้ายังไม่ถึงที่สุดของทาง ก็ยังต้องฝึกฝนต่อไปอยู่เสมอนั้นเอง
การเห็นความละเอียดนั้นดีอย่างไร ท่านอาจสงสัย
ผมก็ขอบอกท่านว่า ก่อนเกิดสิ่งใหญ่ ๆ จะต้องมาจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อนเสมอครับ สิ่งทีเล็ก ๆ คือ สิ่งละเอียด เมื่อจิตท่านเริ่มไหวตัว ยังเป็นพลังงานเล็ก ๆ ถ้าจิตรู้ ท่านเห็นความละเอียดที่เพิ่งจะไหวได้ทันที การไหวตัวจะหยุดทันทีครับ ไม่ลุกลามใหญ่โต ให้ควบคุมไม่ได้ นี่คือผลจากการเห็นความละเอียดของจิตรู้

ดังนั้น ท่านจะเห็นว่า การหมั่นฝีกฝนอยู่สม่ำเสมอเท่านั้น จะเป็นกุญแจนำให้ไปสู่การพ้นทุกข์ได้ด้วยเหตุนี้ การดูจิต ต้องมาจากรากฐานของจิตรู้ที่ตั้งมั่น สติสัมปชัญญะที่มั่นคง่ต่อเนื่องดีแล้ว จึงจะมีผลมากในการดับทุกข์ทางจิตใจได้อย่างแท้จริง

ผมเชื่อว่า ครูบาอาจารย์ที่ท่านสอนเรื่องความว่าง สุญญตา ท่านพูดท่านสอนตามสภาวะจิตของท่านที่มีความละเอียดอย่างดีแล้ว ท่านไม่ได้สอนผิด แต่เรา ๆ ท่าน ๆ ที่ยังหยาบอยู่ เมื่อไม่เห็นอย่างท่าน ก็ตีความผิดไปเอง

การปฏิบัติทางจิต ก็มีแต่นี้ครับ เพียงแต่ว่า หยาบและละเอียดกว่ากันแค่ไหน ถ้ายังหยาบ ทุกข์ใจก้ยังมาก ถ้าละเอียด ทุกข์ใจก็น้อยลงไป ยิ่งละเอียด ก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ
ขอยำเตือนอีกครั้งว่า อย่าไปเพ่งหาความว่าง หาสุญญตา เพราะผิดทาง แต่ท่านต้องหมั่นฝึกสติสัมปชัญญะให้ต่อเนื่อง ให้มั่นคง นี่คือสิ่งที่ท่านสมควรปฏิบัติ เมื่อสติสัปมชัญญะมั่นคงต่อเนื่องดีแล้วนั่นแหละ สิ่งละเอียด ๆ ก็จะเห็นได้เอง




 

Create Date : 30 มิถุนายน 2552
1 comments
Last Update : 29 มกราคม 2555 20:01:35 น.
Counter : 1301 Pageviews.

 

ผมจำเป็นต้องปิดการเขียนของท่านผู้อ่าน เนื่องจากกฏหมายอินเตอร์เนท
ที่อาจมีสิ่งผิดกฏหมายใส่เข้ามาใน blog

ท่านที่จะสนทนา หรือ ถามคำถาม ขอให้ส่ง email ถึงผมได้ที่
asknamasikarn@gmail.com

หรือสำหรับสมาชิก pantip จะส่งมาทางหลังไมค์ก็ได้เช่นกัน

 

โดย: นมสิการ 29 มกราคม 2555 20:01:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นมสิการ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




หลักปฏิบัติ ...รู้สึกตัว ผ่อนคลาย เฉย ๆ สบาย ๆ

มากกว่า 20 ปีที่ไปหลงทำสมถภาวนาแบบสมาธิแบบฤาษีโดยที่ไม่รู้จักกับคำว่า อะไรคือสัมมาสติ สัมมาสมาธิ ผลที่ได้คือความสงบขณะกำลังนั่งสมาธิจนตัวนิ่งแข็งเป็นก้อนหิน แต่ผลข้างเคียงตามมาก็คือการเป็นคนเจ้าโทสะอย่างรุนแรงขณะเวลาไม่ได้นั่งสมาธิ และ ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน....

จนได้พบกัลยณมิตรแดนไกล ที่ได้ชักนำให้มารู้จักวิธีปฏิบัติแบบหลวงพ่อเทียน จนได้พบกับพระอาจารย์ในสายหลวงพ่อเทียน ที่ผมได้เรียนการปฏิบัติจากท่าน จนเข้าใจว่า สัมมาสติ สัมมาสมาธิ คืออะไร แล้วลงมือฝึกฝน การปฏิบัติก็รุดหน้าและได้ลิ้มรสสิ่งบริสุทธิในจิตใจอันเป็นผลจากการปฏิบัติด้วยเวลาเพียง 5 ปี

ธรรมปฏิบัติจากฆราวาสเขียนเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ยากในสังคมไทย ผมรู้ได้จากที่เขียนใน blog ผมได้พบกับการก่อกวนใน blog การเขียนเหน็บแนม กระแหนะกระแหน ตำหนิการการปฏิบัติที่ผมเขียนใน blog ว่าผิดทาง เขียนแบบคาดเดาเอา ไม่รู้จริง ให้ผมหยุดเขียนแนวนี้ได้แล้ว และไปโมทนาสาธุแนะนำการปฏิบัติสมาธิแบบฤาษีให้กับผมอีกว่านี่คือทางที่ถูกต้อง ...

บทความใน blog จึงเกิดขึ้นมา เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ในการภาวนา
แก่ผู้อื่นที่กำลังเดินทางในสายแห่งอริยมรรคนี้

เมื่อท่านได้เข้ามาอ่านข้อเขียนใน blog กรุณาอย่าได้เชื่อผมจนกว่า ท่านได้ทดลองปฏิบัติแล้วและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง

**กรุณา .อย่า.ได้บริจาคเงินให้ blog ผมทาง e-wallet ครับ **

******
บทความต่าง ๆ ใน blog นี้
ขอสงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามนำไปดัดแปลง ลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

****
New Comments
Friends' blogs
[Add นมสิการ's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friend


 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.