***...ใจฉันเป็นของเธอ ตอนที่ 2...***
ตอนที่ 2
บรรยากาศระหว่างพักเปลี่ยนคาบเรียน ทำให้หน้าห้องเรียนต่างๆคลาคล่ำไปด้วยนักเรียนที่สับเปลี่ยนเดินหาห้องเรียนกัน กว่าน้ำค้างและเพื่อนๆในกลุ่มจะเดินมาถึงห้องเรียนวิทยาศาสตร์ของอีกอาคารเรียนได้เหงื่อเม็ดน้อยๆก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าเลยทีเดียว แต่ขณะที่จะเดินเข้าไปนั่งประจำที่ของกลุ่มตน กลุ่มของพีรดนย์ก็เดินมาหยุดอยู่หน้าห้องเรียนข้างๆเช่นกัน แน่นอนน้ำค้างมั่นใจมันไม่ใช่เหตุบังเอิญที่เธอจะเห็นสายตาของพีรดนย์มองมายังเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รอช้ารีบเบียดตัวเข้าไปในห้องเรียนทันที
เป็นอะไรไปยัยน้ำ
วนัสนันท์แปลกใจที่อยู่ๆเพื่อนก็รีบเดินไปประจำยังโต๊ะเรียนซึ่งก็อยู่ติดกับประตูหน้าของห้อง วนัสนันท์ไม่เห็นว่าจะต้องรีบเร่งอะไร ปกติก็ปล่อยให้เพื่อนๆที่นั่งด้านในห้องเป็นฝ่ายเดินเข้าห้องไปก่อนเสมอ หันไปมองภาวดีเป็นการปรึกษาก็ได้รับการยักไหล่ส่งกลับมาเป็นคำตอบ
เปล่า ร้อนน่ะ ก็เลยอยากจะมานั่งให้หายร้อนหน่อย
น้ำค้างบอกพลางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อที่ใบหน้า แต่สายตาก็ไม่วายที่จะมองออกไปยังคนที่นั่งหันหลังพิงเสาอยู่หน้าระเบียงของห้องเรียนข้างๆ โดยที่มีเพื่อนๆในกลุ่มยืนบ้างนั่งบ้างใกล้ๆกับพีรดนย์ แต่เมื่อพีรดนย์มองมาน้ำค้างก็ก้มหน้างุดทันที สายตาที่พีรดนย์มองมาแต่ละครั้ง อดที่จะทำให้น้ำค้างรู้สึกแปลกๆในหัวใจ แววตาเศร้าๆแม้ว่าใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้อยากจะรู้นักว่าพีรดนย์มีอะไรในใจให้คิดมากมายกันหนอ แววตาเขาจึงไม่เคยยิ้มได้สดใสเลยสักครั้ง นับตั้งแต่รู้จักเห็นหน้าค่าตา
น้ำ
ภาวดีเรียกเพื่อนขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเอาแต่สนใจหนังสือชีววิทยาตรงหน้า พอมองออกไปนอกห้องก็เจอสายตาพีรดนย์มองมา มันอะไรกันนะ ชักอยากรู้แล้วสิ
อะไร
นั่นขานรับแต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาซะอย่างนั้นนะเพื่อนเราภาวดีเลยสะกิดให้วนัสนันท์มองน้ำค้างและพีรดนย์ แล้วเอานิ้วชี้ทั้งสองข้างมาประกบกัน
เอ? วันนี้เพื่อนเรามีท่าทางแปลกๆนะเนี่ย สงสัยกำลังอินเลิฟ
ใครหรือนัน
ภาวดีถามขึ้นแต่ก็หัวเราะคิกคักชอบใจ
แถวๆนี้แหละภา
อ๋อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ภาวดีแกล้งส่งเสียงยานขึ้นทำให้น้ำค้างละสายตาจากหนังสือตรงหน้ามามองเพื่อนทั้งสองคน สองคนนี้พูดอะไรมีปริศนาจริงๆเลย กำลังจะถามไถ่ให้ได้เรื่องอาจารย์ก็เดินเข้าห้องมาซะก่อน เพื่อนทั้งสองเลยหัวเราะชอบใจที่แกล้งน้ำค้างได้
เป็นอะไรไปน้ำ ทำไมหน้างออย่างนั้นล่ะ
พีรดนย์เดินมานั่งลงข้างๆแล้วถามขึ้นพลางมองหน้างอๆของเธอ น้ำค้างตกใจขยับหนีทันที เกิดใครเดินมาเห็นก็ได้แซวกันไม่รู้จักหยุดอีกจนได้ เธอไม่อยากโดนจับคู่กับพีรดนย์เพราะนั่นหมายความว่าต่อไปโลกอันสงบของเธอจะมีเพื่อนๆมาคอยวุ่นวายไม่เลิกเป็นแน่
เปล่าค่ะพี่ แล้วพี่มาทำอะไรที่ตึกนี้ค่ะ
ปกติอาคารเรียนหนึ่งชั้นหนึ่งมันห้องเรียนของพวกสายวิทย์นี่นา เหมือนได้รับคำถามที่ทำให้งง ก็ตึกเรียนตนก็มาเรียนสิ ทำไมน้ำค้างถึงถามว่าทำไม
พี่ก็มาเรียนสิ ถึงพี่จะเรียนศิลป์แต่พี่ก็เรียนวิทยาศาสตร์ด้วยนี่ครับ ก็เหมือนกับที่น้ำต้องเรียนพวกภาษา สังคม นั่นแหละ
จริงสินะ น้ำถามอะไรไม่ได้เรื่องเลยเนอะพี่ แล้วเรียนเสร็จแล้วหรือค่ะยังไม่หมดคาบเรียนเลยนี่
อืม อาจารย์ไม่อยู่นะ สั่งงานไว้เฉยๆ เราล่ะ ไม่มีเรียนอีกหรือ
ค่ะ อาจารย์ใจดีเลยปล่อยก่อนเวลา"
ตอบคำถามแล้วก็ภาวนาขอให้พีรดนย์ลุกเดินกลับไปยังห้องเรียนข้างๆซะที แต่เห็นจะไม่เป็นผลเพราะเขายังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างๆหล่อน เมื่อพีรดนย์ไม่คิดจะไป ก็เป็นคนไปเองก็ได้ น้ำค้างจึงลุกขึ้นยืนทันทีที่สมองคิดออกมาเช่นนั้น
อ้าว จะไปไหนล่ะน้ำ
ใกล้หมดคาบเรียนแล้ว วันนี้เวรน้ำทำความสะอาดห้องค่ะ น้ำไปก่อนนะคะ
เลิกเรียนแล้วกลับบ้านพร้อมกันนะ
เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำๆนี้จากพีรดนย์ น้ำค้างเลยมองหน้าพีรดนย์นิ่ง
ได้ไหม
คำขอร้องคล้ายๆจะวิงวอนจากดวงตาเศร้าๆของเขา ทำให้น้ำค้างพยักหน้าเบาๆก่อนที่จะเดินเข้าห้องเรียนไปหยิบกระเป๋าหนังสือ
เจอกันที่เดิมนะครับ
พีรดนย์มองนาฬิกาข้อมือที่ตอนนี้บอกเวลาห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววของน้ำค้าง หลายๆครั้งที่พีรดนย์จับหูกระเป๋านักเรียนแล้วจะก้าวเดินออกไปจากศาลารุ่งทิพย์ แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่พยักหน้าตอบรับคำชวนให้กลับบ้านพร้อมกันของน้ำค้าง พีรดนย์ก็วางกระเป๋านักเรียนเอาไว้ที่เดิม
พี่พี
วันนี้กลับค่ำจังเลยนะ
ไม่มีคำต่อว่าต่อขานที่ทำให้รอเป็นนานสองนาน นอกจากแววตาและน้ำเสียงที่ดูเป็นห่วงตนน้ำค้างเลยเริ่มชักจะละอายที่คิดแกล้งให้พีรดนย์รอ แต่จะให้บอกว่าแค่อยากแกล้งมันคงไม่ใช่เหตุผลที่น่าฟังนัก
พอดีเพื่อนๆทำบอร์ดห้องใหม่น่ะคะ น้ำเลยต้องช่วย ขอโทษนะคะที่ให้พี่พีรอนานเลย
ถือว่าเป็นคำขอโทษก็แล้วกันนะคะพี่พี น้ำค้างบอกกับพีรดนย์ในใจ
ฝึกเขียนอะไรๆบ้างหรือยัง
ยังเลยค่ะ น้ำยังไม่ว่างเลยมีการบ้านทุกวัน
อืม อย่าเครียดก็แล้วกัน อีกไม่กี่วันแล้วนะ พี่เชื่อว่าน้ำทำได้แน่ๆยังไงก็มีชื่อเดินไปรับรางวัลหน้าเสาธงเชื่อสิ
ไม่เครียดหรอกค่ะพี่พี ยังไงปีนี้พีพีก็ได้แชมป์แน่ๆน้ำยกให้ไปตั้งนานแล้ว พี่พีคะ ทำไมพี่ถึงชอบเขียนกลอนค่ะ
พีรดนย์นิ่งไปเมื่อได้ยินคำถามจากน้ำค้าง ไม่เคยมีใครถามพีรดนย์ว่าทำไมถึงชอบเขียน ส่วนมากจะชื่นชมกับสิ่งที่เขานำเสนอ ความรู้สึกที่เขาอยากขีดเขียน ความเหงาที่เขาอยากมีเพื่อน กระดาษสักแผ่น ปากกาสักเล่มคือสิ่งที่ทำให้เขาผ่อนคลายจากเรื่องราวต่างๆ
เพราะพี่เก่งไงล่ะ
พีรดนย์บอกออกไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้น้ำค้างค้อนให้ด้วยความหมั่นไส้ เชอะ ยอเข้าหน่อยเดียวก็เหลิงซะแล้วนะพี่พี
ไม่จริงหรือไง เราเองเพิ่งชมพี่อยู่เลย
ค่า น้ำเพิ่งรู้นะคะว่าพี่พีก็บ้าลูกยอกับเขาเหมือนกัน เห็นนิ่งๆเงียบๆ ไม่คิดว่าตัวจริงจะชอบแหย่ชอบเล่นกับใครเขาด้วย
ก็น้ำยังไม่รู้จักพี่นี่นา
ใครบอก พี่หมายถึงรู้จักตัวตนแท้จริงของพี่ ไม่ใช่แค่ผิวเผินอย่างที่เราเคยเห็นหน้าเคยเดินผ่านกันอย่างที่ผ่านๆมาไง
ไม่เห็นจะอยากรู้จัก
น้ำค้างพึมพำเบาๆแล้วรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น แต่พีรดนย์ก็ก้าวมาทันอยู่ดี
น้ำไม่เหนื่อยหรือไงรีบเดินแบบนั้นน่ะ เดินกลับด้วยกันก็ค่อยๆเดินไปด้วยกันสิ อย่าให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเร่งฝีเท้าตาม
ก็มันเย็นมากแล้วจะเดินชมนกชมวิวได้ไงล่ะพี่พี
น้ำค้างเข้าใจความหมายที่พีรดนย์เอ่ยออกมา แต่ก็แกล้งตอบไปเป็นอย่างอื่น รู้จักกันไม่นานผู้ชายคารมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ที่สำคัญวัยมัธยมจะเอาอะไรมากกับเรื่องความรัก น้ำค้างคิดว่าสิ่งที่ตนต้องทำให้ดีในตอนนี้คือ การเรียน เพื่ออนาคตวันข้างหน้า แล้วถ้าอนาคตได้เดินกับผู้ชายคนนี้ล่ะ แม้จะเพิ่งบอกตัวเองไปหยกๆว่าอย่าหลงคำผู้ชายแต่น้ำค้างก็อดที่จะถามตัวเองเล่นๆไม่ได้
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2552 |
|
29 comments |
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2552 20:34:10 น. |
Counter : 461 Pageviews. |
|
|
|
แล้วก็คิดอยู่ว่าจะว่งต่อให้ใครดี
อิอิอิ
พี่โบ๊ตโดนไปคนแล้ว
น้องนาห์รู้แล้วใช่มั้ยครับ
ว่าใครจะเป็นคนที่สอง 55555