น้ำค้าง ไม่สนใจจะลงสมัครแข่งขันการเขียนเรียงความจริงๆหรือ อาจารย์วิรัชสุดหล่อของเธอเป็นกรรมการอีกแล้วนะคราวนี้ ภาวดีละสายตาจากแผ่นข่าวประจำสัปดาห์ที่ติดอยู่บนบอร์ดหน้าห้องเรียนหันมาถามน้ำค้างที่นั่งคุยกับวนัสนันท์เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนอย่างออกรส ไม่สนใจข่าวสารที่รุ่นพี่เพิ่งนำเข้ามาปิดยังบอร์ดของห้องเลยสักนิด แข่งไปก็คงไม่ชนะพี่พีเขาได้หรอก คนเก่งประจำโรงเรียน แล้วพี่เขาก็เรียนตั้งมอหกแล้ว เราจะไปสู้อะไรเขาได้ น้ำค้างบอกกับเพื่อนไป พีรดนย์ ชายหนุ่มรุ่นพี่ที่เธอเอ่ยถึง เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้เมื่อเธอและเพื่อนๆเรียนชั้นมัธยมสอง จากเด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาเรียนเพียงไม่นานความเก่งกาจทางด้านภาษาของพีรดนย์ก็ทำให้เขาเป็นตัวแทนของห้องและโรงเรียนไปแข่งขันทางด้านวิชาการทุกๆปี น้ำค้างคิดว่าหากไปลงสมัครแข่งขันคราวนี้ยังไงเสียเธอก็เสียเปรียบเพราะเธอเพิ่งจะเรียนแค่ชั้นมัธยมสี่ คงไม่มีทางเอาชนะพีรดนย์ได้ เพราะการแข่งขันจะแบ่งเป็นระดับมัธยมต้นและมัธยมปลาย หากลงแข่งขันพีรดนย์ก็คงไม่พลาดที่จะกวาดรางวัลเช่นทุกๆปีที่ผ่านมานี่เพื่อนฉันปอดแหกไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันวนัสนันท์เอ่ยขึ้นลอยๆแต่ความตั้งใจนั้นคือจะยุยงให้น้ำค้างลงแข่งขัน ก็เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนรักเธอคนนี้เคยยอมที่จะให้ใครที่ไหนมาดูถูกได้ซะที่ไหนใครปอดแหก น้ำแค่ไม่อยากไปแข่งกับพี่เขาแม้จะเถียงออกไปแต่ในใจก็เพราะน้ำค้างไม่อยากผิดหวัง มัธยมต้นเธอเคยเป็นหนึ่งไม่ว่าจะเขียนเรียงความ หรือเขียนคำกลอนต่างๆ แต่นี่พีรดนย์คือตัวเต็งที่แม้ยังไม่ลงแข่งขันก็เห็นชัยชนะอยู่แค่เอื้อม แล้วเธอจะกล้าลงสนามเดียวกับเขาได้ยังไง ก็ปล่อยให้พี่พีไปอีกปีละกัน น้ำก็ถือว่าเข้าไปหาประสบการณ์สิ ปีหน้าพี่พีเขาก็ไม่อยู่แล้ว ถือเป็นการปูทางไว้ไงภาวดีเสนอแนะขึ้นเพราะรู้ว่าเพื่อนของเธอมีใจรักทางด้านนี้ขนาดไหน เห็นทีงานนี้เธอจะต้องไปแอบกระซิบพีรดนย์ให้ทำอะไรสักอย่าง เพื่อสร้างต่อมความอยากให้เกิดแก่น้ำค้าง ไม่แข่งยิ่งแพ้ เสียงแว่วๆที่ดังมาจากโต๊ะของกลุ่มรุ่นพี่มอหกซึ่งเป็นที่ประจำของกลุ่มพีรดนย์ ทำให้น้ำค้างหันไปมองทันที หมายความว่ายังไงกัน ทำไมพีรดนย์ถึงพูดออกมาเช่นนั้น ปกติเธอและพีรดนย์ไม่เคยพูดจาปราศรัยกันเลยด้วยซ้ำไปนับตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่ที่เธอเหมือนจะรู้จักพีรดนย์ก็เพราะเพื่อนๆของเขา เคยเป็นนักเรียนมัธยมต้นของโรงเรียนแห่งนี้ พี่โอมห์เป็นนักบาสของโรงเรียนแถมความสูงที่ไม่เป็นรองใครก็ทำให้พี่เขาเป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียนทั้งโดดเด่นและสง่างาม พี่เกม พี่ตุ้ย ก็เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนที่ใครๆก็รู้จักกันดี จะว่าไปคุณสมบัติเหล่านี้เธอเองไม่เคยเจอจากพีรดนย์เลยด้วยซ้ำไป แต่ก็เป็นการรวมกลุ่มที่ลงตัวของพี่ๆเขาเลยทีเดียว พีรดนย์เองเมื่อเห็นรุ่นน้องน้ำค้างมองมาก็เลยทำยกนิ้วโป้งขึ้นแล้วคว่ำลงเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้ ยิ่งทำให้น้ำค้างหน้างอทันที ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ น้ำค้างเตือนสติตนเองแล้วหันกลับมาปลุกปล้ำกับโจทย์วิชาฟิสิกส์ต่อ ท่าทางจะยากนะ ทำไมไม่ลงเรียนสายศิลป์ล่ะ เสียงดังที่ถามขึ้นตรงหน้าแสดงถึงความเห็นใจ ไม่เพียงเท่านั้นเขายังหยิบสมุดของหล่อนไปมองๆแล้วทำหน้ายุ่งเอาเลยทีเดียว เอาคืนมาค่ะลายมือสวยนะ น้ำค้าง พีรดนย์ไม่สนใจที่น้ำค้างเอ่ยแต่กลับชื่นชมลายมือของเธอที่เขามองว่าสวยทีเดียว ไม่ใช่ลายมือของวัยรุ่นทั่วไปที่เขียนเหมือนตัวการ์ตูนจนทำให้อาจารย์บ่นประจำอย่างที่เขาเองเคยได้ยินบ่อยๆรู้จักน้ำได้ยังไงวาจาไม่เป็นมิตรที่น้ำค้างเองก็ไม่คิดว่าพีรดนย์คนที่เธอแอบชื่นชมความสามารถจะได้ยินจากเธอเป็นครั้งแรก แต่ก็ดี อยากมาไร้มารยาทก่อนทำไมล่ะ น้ำค้างคิดอย่างขุ่นเคือง ก็ไม่เห็นจะยากอะไรนิ โรงเรียนเราก็แค่นี้เอง แล้วเราก็เจอกันบ่อยๆไปนี่นา น้ำเองก็รู้จักพี่ดีไม่ใช่หรือไงหมายความว่ายังไงรู้จักดี ฉันไปรู้จักนายดีตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็แค่เป็นนักเรียนเรียนดี มีชื่อเสียงทางด้านวิชาการ เชอะหลงตัวเองด้วยหรอนี้ น้ำค้างส่ายหน้าให้กับความคิดของตัวเองไม่จริงหรือไงยุ่งนา น้ำจะรู้จักพี่หรือไม่ไม่เห็นสำคัญ เอาสมุดน้ำคืนมา แล้วก็ไปเสียที น้ำจะทำงาน น้ำค้างเอ่ยปากไล่ตรงๆหวังว่าเขาจะลุกไปเสีย แต่พีรดนย์กลับนิ่งเฉยพลิกสมุดในมือไปมาอย่างใช้ความคิด แล้วเขาก็เอ่ยขึ้นพี่จะคืนให้ แต่เรารับปากอะไรพี่อย่างหนึ่งได้ไหมล่ะ อะไรของเขานี่ อยู่ๆจะให้มารับปาก เรื่องดีหรือร้ายก็ไม่รู้ น้ำค้างเลยนั่งเงียบไม่เอ่ยตอบตกลงว่าไง ได้ไหม บอกมาก่อนว่าเรื่องอะไร น้ำเพิ่งจะคุยกับพี่วันนี้เองนะ อยู่ดีๆจะให้น้ำรับปากอะไรน้ำก็ควรรู้ก่อนสิว่ามันเรื่องอะไรอีกหน่อยเราก็จะได้คุยกันบ่อยๆถ้าน้ำอยากคุยอยากทักพี่ พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยนี่ แล้วพี่ก็ไม่กัดน้ำหรอกนา สบายใจได้ เรื่องที่พี่อยากให้น้ำรับปากคือ เป็นตัวแทนแข่งขันเขียนเรียงความ เขียนคำประพันธ์ปีนี้ของห้องน่ะ สิ่งที่เขาขอ ทำให้น้ำค้างมองหน้าพีรดนย์ด้วยความแปลกใจ มีด้วยหรือคนที่มาขอให้คู่แข่งลงสนามเดียวกันกับเขา สงสัยจะหาคู่แข่งไว้ซ้อมมือหรือไงกันไม่ล่ะ น้ำเรียนหนักการบ้านก็เยอะไม่มีเวลาว่างพอหรอก ถ้าพี่อยากได้คู่แข่งก็ไปให้พวกที่เรียนด้านสายศิลป์เขาสมัครกันสิ เอาสมุดน้ำคืนมาค่ะน้ำค้างเลือกที่จะปฏิเสธไปแม้จะไม่ค่อยเข้าใจนักว่าทำไมเขาถึงมาขอร้องกันแบบนี้เย็นนี้พี่ขอคำตอบตกลง ถ้าจะเอาสมุดคืนก็ไปรอพี่ที่ศาลารุ่งทิพย์หลังเลิกเรียน พีรดนย์บอกขึ้นก่อนที่จะลุกเดินกลับไปยังโต๊ะของกลุ่มเพื่อนๆเขา เขามั่นใจว่าน้ำค้างต้องมาขอสมุดคืนพร้อมคำตอบตกลงแน่นอน ...............พีรดนย์มองภาพของหญิงสาวที่ยืนรอเขาด้วยท่าทีกระวนกระวายอยู่ที่ศาลารุ่งทิพย์ซึ่งอยู่ติดกับสนามฟุตบอลของโรงเรียนด้วยรอยยิ้ม หากภาวดีเพื่อนสนิทของเธอไม่มาเอ่ยปากขอร้องให้เขาช่วยพูดให้น้ำค้างตกลงรับปากแข่งขัน เขาก็คงไม่รู้ว่าเธอจะเลือกที่จะแพ้โดยที่ยังไม่ได้แสดงฝีมือ เขาคงไม่ยอมที่จะให้เธอทำเช่นนั้นแน่ สองปีที่ผ่านมาเขาเฝ้ามองเธอด้วยความชื่นชม หวังว่าวันหนึ่งเมื่อเธอเรียนมอปลายเขากับเธอจะได้แข่งขันกัน มีโอกาสได้รู้จักกันและใกล้ชิดกันเหมือนกับที่เขาเห็นเธอมีให้กับเพื่อนๆของเขา พีรดนย์รู้ว่าน้ำค้างชื่นชมเพื่อนๆเขาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนักกีฬาของโรงเรียน แถมตัวเธอเองก็เป็นนักกีฬาของการแข่งขันภายในโรงเรียนเช่นกัน แต่เขากลับไม่อาจเล่นกีฬาที่ใช้กำลังขามากๆได้เพราะอุบัติเหตุที่เขาเคยได้รับเมื่อหลายปีก่อน ไม่เพียงแต่ทำให้เขาเล่นกีฬาที่ต้องวิ่งมากๆไม่ได้ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างไม่มีวันกลับ และทำให้เขาต้องเดินทางจากเหนือสุดมาอยู่ที่นี่กับครอบครัวของน้าสาวหัวใจคล้ายๆจะบอบช้ำความเจ็บปวดคอยย้ำอยู่เสมอมองทางไหนก็ไร้เงาให้เจอไม่พบเธอไม่มีเธออีกต่อไปคือบทกลอนบทแรกที่พีรดนย์เขียนเมื่อตอนนอนพักฟื้นรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล ซึ่งใช้เวลานานเกือบเดือน พ่อแม่ที่จากไปทำให้เขาเศร้า ก็เลยเขียนบทกลอนนี้ขึ้นมา ไม่มีอีกแล้วพ่อแม่ครอบครัวที่เคยอบอุ่นสุขใจที่เขาเคยได้รับแต่เขาก็ได้พี่ๆพยาบาลใจดีคอยดูแล มีน้าสาวและครอบครัวคอยช่วยเหลือ และมีอาจารย์คอยให้กำลังใจจนทำให้เขาต่อสู้กับชีวิตที่เขาคิดว่าไม่มีอะไรเหลืออีกแล้วขึ้นมาได้อีกครั้งพี กลับกันได้แล้วเกมเดินออกจากห้องเรียนมาตบไหล่เพื่อนซึ่งความสูงไล่เลี่ยกันกับเขา แต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังมองลงไปยังสนามฟุตบอลเลยมองตามไป ยัยน้ำค้างนั่นเองชอบน้องเขาหรือไงก็ชอบคำตอบรับตรงๆไม่อ้อมค้อมของเพื่อนทำให้เกมยิ้มล้อเลียนให้ แต่แล้วก็ต้องหยุดไปเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเพื่อนสนิทแต่คงเป็นไปไม่ได้หรอก เราเล่นกีฬาไม่เก่งอย่างพวกนาย ท่าทางน้ำจะชอบพวกนักกีฬามากกว่า หน้าตาเราก็ธรรมดา ที่สำคัญเราเองยังมองอนาคตตัวเองไม่ออกเลยว่าจะจบลงที่ตรงไหนคือความจริงที่พีรดนย์ยอมรับมันตั้งแต่ต้นเมื่อรู้ว่าพ่อแม่ของเขาจากไปไม่มีวันกลับ การที่เขาได้รับการเลี้ยงดูจากน้าสาวมาจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นการแบกภาระที่มากพอแล้วเขาคงต้องหยุดเรียนหลังจากจบชั้นมัธยมหกเพื่อที่จะหางานทำจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของน้าสาวที่ยังมีลูกสาวลูกชายในวัยเรียนเช่นกัน หากโชคดีมีงานทำเขาคงจะได้สมัครเรียนยังมหาวิทยาลัยเปิดนายคิดมากอีกแล้วนะพี อาจารย์วิไลไม่ทิ้งคนเรียนดีๆเก่งๆอย่างนายหรอกเชื่อสิ ไปกลับบ้านกันดีกว่าเกมบอกด้วยความเชื่อมั่นว่ายังเสียอาจารย์ก็คงไม่นิ่งดูดายที่จะช่วยเหลือเพื่อนของเขาแน่นอนนายกลับก่อนเถอะ ฉันมีธุระเกมออกจะแปลกใจที่ได้ยินเพื่อนพูดเช่นนั้นแต่เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงมองลงไปยังศาลาข้างสนามฟุตบอลก็พอจะเข้าใจว่าธุระของเพื่อนคงจะเกี่ยวข้องกับน้ำค้างเป็นแน่ๆโอเคเพื่อน งั้นฉันไปก่อนนะ โชคดีเพื่อน รอนานไหม น้ำค้างหันไปทางน้ำเสียงของคนที่ถามมาด้วยใบหน้างอง้ำ ปล่อยให้รอตั้งแต่โรงเรียนเพิ่งจะเลิกจนเพื่อนๆทยอยกลับกันไปเกือบหมดโรงเรียนแล้วยังจะมีหน้ามาถามอีกว่ารอนานไหมพีรดนย์มองสายตาที่จ้องมองมาของน้ำค้างแล้วอมยิ้มนิดๆ มันคือคำถามที่เขาอยากรู้นักว่าทำไมเขาชอบมองทุกๆกิริยาท่าทางของรุ่นน้องคนนี้ บ่อยครั้งที่เขาเกิดอาการจิตตก แต่เพียงแค่เห็นน้ำค้างเดินหัวเราะ ผ่านไปกับกลุ่มเพื่อนๆของเธอ เพียงแค่นั้นก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้สมุดการบ้านของน้ำล่ะคำตอบล่ะพีรดนย์ถามขึ้นในมือของเขามีสมุดการบ้านวิชาฟิสิกส์ที่น้ำค้างต้องการชูไปมาให้รู้ว่ายังไงเขาก็ต้องการคำตอบและคำตอบที่เขาต้องการก็มีแค่คำตอบเดียว คือ ตกลงอืม น้ำจะสมัครพอใจรึยัง แต่ขอถามหน่อยเถอะ ที่อยากให้น้ำลงสมัครนี่เพราะพี่ไม่มีคู่แข่งไว้ประลองฝีมือใช่ไหม แล้วทำไมต้องเป็นน้ำด้วยเข้าใจผิดแล้วนะน้ำ พี่แค่อยากให้น้ำลงแข่งไม่อยากให้น้ำคิดว่าเพราะมีพี่อยู่ทั้งคนยังไงน้ำก็แพ้อย่างที่น้ำคิดตอนนี้ คนเราไม่มีอะไรแน่นอนหรอกนะน้ำ การชนะทุกครั้งที่ผ่านมามันไม่ได้หมายความว่าพี่จะชนะเสมอไป อย่าทิ้งโอกาสของตัวเองได้ไหม อย่ายอมแพ้ตั้งแต่เรายังไม่ลงสนาม น้ำคิดแบบนี้ทำให้พี่รู้สึกไม่ดีนะ เหมือนเป็นเพราะพี่ ทำให้น้ำไม่ยอมสมัครแข่งขันครั้งนี้ วาจาที่เอ่ยออกมาจากปากของเขาทำให้น้ำค้างนิ่งงันไป เพราะความกลัวที่จะพ่ายแพ้ ทำให้ตนลืมนึกจิตใจของเขาไปเหมือนกัน น้ำขอโทษนะที่คิดไม่ดีกับพี่พี น้ำแค่คิดว่ายังไงปีนี้พี่พีก็ได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนอีกตามเคยก็เลยไม่อยากจะแข่งขัน อีกอย่างน้ำเรียนสายวิทย์แบบนี้ จะมาทำเป็นเล่นๆไม่ได้ แต่ละวิชาที่เรียนมันยากๆทั้งนั้นเลยนี่น้ำเสียงอ่อนๆที่เอ่ยออกมาทำให้พีรดนย์แม้อยากจะเคืองโกรธเช่นไรก็ไม่อาจทำได้ เขารับรู้ว่าน้ำค้างกลัวกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นและเขาก็ไม่ควรจะซ้ำเติมนอกจากปลอบให้น้ำค้างรู้สึกสบายใจขึ้นแต่ปีหน้าพี่ก็ไม่อยู่แล้วนะ แล้วใครจะเป็นตัวแทนพี่ล่ะ หากน้ำคิดจะวางมือไปแบบนี้ ลงสมัครนะ แล้วทำให้สุดฝีมือ พี่เอาใจช่วยน้ำเต็มที่พี่ไม่คิดว่าน้ำเป็นคู่แข่งหรือยังไงไม่หรอก ดีเสียอีกไม่ใช่หรือ หากโรงเรียนเรามีแต่คนเก่งๆจริงไหม ยิ้มของพี่พีนี่น่ารักไม่เบาเลยนะเนี่ย น้ำค้างมัวมองเพลินจนลืมตอบคำถามของพีรดนย์ไป นั่นสินะหากเราลงแข่งขันอย่างน้อยเราก็จะได้รู้จักพี่พีมากขึ้น กำไรชัดๆทำไมเราคิดอกุศลกับพี่เขาได้นะ แย่จริงๆเลยอ้าว ว่างไง ยังไม่ตอบพี่เลยนะน้ำจะกลับบ้านแล้วเย็นมากแล้วน้ำค้างบอกไปอีกทางแต่จากใบหน้าที่ยิ้มแย้มมากขึ้นกว่าเดิมทำให้พีรดนย์เองรู้สึกดีใจที่เขาสามารถปลุกขวัญน้ำค้างได้สำเร็จ แบบนี้สิ ถึงจะเป็นคนเก่งของเขาเดินกลับด้วยกันนะ ยังไงก็ไปทางเดียวกันนี่นา...........................................................
...ถ้ารักกันจริงไม่เจ้าชู้ ไม่ทานเหล้า ไม่เล่นการพนันไม่คอยหาเมียน้อยไม่นั่งคอยวาสนาไม่บ้าอำนาจเงินเกือบทุกบาทให้นาห์เก็บ และสุดท้ายยอมเฉือนเพื่อนาห์ อิอิอิถ้าหนุ่มเหนือที่ว่าทำได้ก็โอค่ะพี่ โดย: มัยดีนาห์ 23 กุมภาพันธ์ 2552 14:02:31 น. ^^^น้องนาห์เอ๊ย...แค่บรรทัดแรกก็คงหายากแล้วล่ะน้องเอ๋ย..