Earthlight แสงโลก




แสงโลก Earthlight (1955) โดย Arthur C.Clarke
สนพ.ฉับแกระ แปลโดย ชัยคุปต์ 

"แซดเลอร์คิดอย่างหนักใจว่า เขาเป็นเสมือนกับคนที่กำลังค้นหาแมวดำในห้องมืดใต้ดิน แมวดำซึ่งอาจจะไม่อยู่ในนั้น แถมยังไม่ทราบอีกด้วยว่า แมวมีลักษณะอย่างไร ถึงแม้จะได้เห็นจริงๆเข้า" 

เมื่อเกิดการรั่วไหลของข้อมูลความลับเกี่ยวกับการค้นพบธาตุโลหะหนักอย่างแร่เหล็กในที่ราบที่มีสภาพดั่งทะเลกว้างใหญ่ "แมร์ 
อิมเบรียม" บนด้านใกล้ของดวงจันทร์ หลุดไปจากโลกไปยังสหพันธ์ดวงดาว ในยุคที่มนุษย์บุกเบิกสร้างอาณานิคมบนดวงจันทร์มากว่า 200 ปี ขยับขยายไปยังดาวอังคาร ดาวพุธและดาวศุกร์ จนกลายเป็นสหพันธ์ที่เริ่มห่างเหินไปจากดาวเคราะห์ก่อกำเนิดมากขึ้นเรื่อยๆ 

เบอร์แทรม แซนเดอร์ จารชนสายลับของโลกจึงต้องเดินทางมายังหอดูดาว ศูนย์กลางวิทยาศาสตร์บนแอ่งอุกกาบาตพลาโต ปลอมตัวเป็นนักบัญชีเพื่อสืบสาวราวเรื่อง เหตุใดความลับของโลกจึงรั่วไหลหรือจะมีสายลับแฝงตัวอยู่บนดวงจันทร์ เพียงแต่มันจะทันกาลหรอกหรือ ในเมื่อสหพันธ์ล่วงรู้ว่าโลกเล่นไม่ซื่อ กำลังเกรงกลัวว่าพวกเขาจะก้าวกระโดดไปข้างหน้า มิต้องพึ่งพาทรัพยากรบนโลกอีกต่อไป

ความร้อนระอุทางความขัดแย้งกำลังจะปะทุก่อตัวให้เกิดสงครามอวกาศขึ้นระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ภายใต้โครงการลับ "ธอร์" ที่โลกจะใช้สู้รบตบมือกับสหพันธ์

...........................................................................

เล่มสุดท้ายแล้วที่ผมได้อ่านนิยายเรื่องยาวที่มีแปลในไทยของ Arthur C.Clarke เรื่องนี้มาในสไตล์ที่ถือว่าแปลกผิดแผกจากเรื่องอื่นๆของ Clarke พอสมควร ดำเนินเรื่องผสมทั้งแนว Spy สายลับและบรรยากาศแนว Space Opera นิดหน่อยเข้ามาในนิยายวิทยาศาสตร์ เล่มนี้อ่านๆไปนึกถึงบรรยากาศของชุดหุ่นยนต์ของ Isaac Asimov ที่เล่าเรื่องได้อ่านง่ายไม่ว่าใครๆก็อ่านได้ ไม่มีศัพท์แสงแปลกๆ เล่าเรื่องได้เป็นเส้นตรง ไม่สลับซับซ้อน แต่ยังคงความอยากรู้และความสนุกพอใช้ได้เลย 

Clarke น่าจะได้แรงบันดาลใจการเขียนจากเรื่องการย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากของคนอังกฤษที่ไปบุกเบิกครอบครองอเมริกา จนเมื่อผ่านไปนานๆ ความรู้สึกผูกพันกับถิ่นฐานเดิมก็เริ่มจะจืดจางไปจนไม่รู้สึกว่าเป็นคนอังกฤษอีกต่อไป ยิ่งเมื่อมีการค้นพบทรัพยากรที่สำคัญต่อการพัฒนาก่อให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ แล้วลองนึกภาพตามดูว่า อังกฤษเก็บงำความลับและทรัพยากรไว้แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากความกลัวว่าอเมริกาจะก้าวกระโดดไปไกลเรื่อยๆ มีหรือที่คนที่ย้ายถิ่นฐานไปนานแล้วจะยอม ไม่ลุกฮือต่อสู้ นี่แหละคือที่มาที่ไปของเรื่องนี้ที่ Clarke นำมาเล่าเรื่องใหม่ในแนวนิยายวิทยาศาสตร์ ซึ่งธีมการสู้รบทำสงครามบนดวงจันทร์ ทำให้นึกถึง"จันทราปฏิวัติ (The Moon Is A Harsh Mistress)" อยู่เหมือนกัน 

บทสรุปนั้นใช้ได้เสมอ ถ้ามนุษย์ร่วมมือและแบ่งปันทรัพยากรที่ค้นพบ ไม่ผูกขาดหรือเก็บงำเอาไว้แต่ฝ่ายเดียว เราคงไม่ต้องประหัตประหารทำสงครามสู้รบกัน จนบางทีกว่าจะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อันใด อาจจะไม่เหลือมนุษย์ไว้ให้ใช้สอยและพัฒนาทรัพยากรคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆขึ้นมาก็ได้

อาจจะมีใครสงสัยว่าทำไมใช้ชื่อแสงโลก Earthlight แน่นอนเราจะเห็นแสงจากโลกได้ เราก็ต้องออกไปนอกโลกอาศัยอยู่บนดาวดวงอื่น เช่น ดวงจันทร์อย่างในเรื่อง นั่นคือ มนุษย์อย่างเราๆต้องไปตั้งอาณานิคมต่างดาวดังที่ Clarke วาดหวังไว้เหมือนในภาพยนตร์ 2001 A Space Odyssey ที่สถานีบนดวงจันทร์มีห้องหนึ่งใข้สำหรับชมแสงโลกโดยเฉพาะ นั่นคือห้อง Earthlight นั่นเอง 

"มนุษย์จะขวนขวายต่อสู้ เพื่อให้ได้ออกไปจากโลกกำเนิดของเขาเองทำไมกัน ในเมื่อการเดินทางและประสบการณ์ มิได้ทำให้ ธรรมชาติพื้นฐานของเขาเปลี่ยนไปเลย? มนุษย์น่าจะฝังตัวอยู่แต่ในบ้านบนโลกของเขา แทนที่จะทุ่มเททรัพย์สินเงินทอง เป็นค่าใช้จ่ายในการส่งตัวพวกเขาและปมด้อยของพวกเขาไปสู่โลกอื่น"

ป.ล.ระหว่างอ่านต้องค้นแผนที่ดวงจันทร์ ประกอบการอ่านไปด้วย ไม่งั้นนึกภาพไม่ออก ทำให้รู้ด้วยว่าจริงๆแล้วดวงจันทร์มีเพียงด้านใกล้ (Near Side) และด้านไกล (Far Side) ไม่ใช่ด้านสว่าง (Bright Side) กับด้านมืด (Dark Side) อย่างที่เราเรียกๆกัน อันเป็นลูกเล่นให้ถูกนำไปใข้ตีความในด้านนามธรรมได้มากกว่า 

แน่นอนเรื่องนี้กำลังจะมีพิมพ์ใหม่ ของสนพ.เวลา ซึ่งกำลังเปิดจองในราคาพิเศษช่วงวันที่ 24 ก.พ.-5 มี.ค.2561 นี้อยู่ครับใครสนใจแวะไปได้ที่เว็บ มวจ.www.mowojo.com) 

คะแนน 8.0/10



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2561
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2561 0:36:09 น.
Counter : 1573 Pageviews.

2 comments
  
ไม่ได้อ่านนิยายแนววิทยาศาสตร์มานานมากแล้วค่ะ
ที่อ่านอย่างมากก็แนวไซไฟ


แวะมาให้กำลังใจนะคะ
โดย: polyj วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:0:31:17 น.
  
ขอบคุณครับ ลองหามาอ่านใหม่ดูสิครับ ช่วงนี้เริ่มๆมีหลายเรื่องพิมพ์ขายมากขึ้น
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 27 มีนาคม 2561 เวลา:21:29:31 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
กุมภาพันธ์ 2561

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
 
 
25 กุมภาพันธ์ 2561
All Blog