Norse Mythology เทพปกรณัมนอร์ส



เทพปกรณัมนอร์ส Norse Mythology (2017)
โดย Neil Gaiman
สนพ.Words Wonder แปลโดย วรรธนา วงษ์ฉัตร 

"ถึงเวลาแล้วสำหรับการสร้างทุกอย่างขึ้นมา วีกับวีลีและโอดินมองหน้ากันและกัน แล้วก็พูดถึงสิ่งที่จำเป็นต้องทำในห้วงว่างกินนันกาแก็ป พวกเขาพูดถึงจักรวาล พูดถึงชีวิต และพูดถึงอนาคต 

โอดินกับวีลีและวีฆ่ายักษ์อีเมียร์ มันจำเป็นต้องทำ เพราะไม่มีวิธีอื่นในการสร้างโลก นี่คือจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่ง ความตายที่ทำให้ทุกชีวิตเกิดขึ้นได้" 

ถ้าโลกนี้มีตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้าทั้งหลายไม่ว่าจะตำนานเทพกรีก เทพโรมัน เทพอียิปต์ เทพเจ้าจีนและเทพเจ้าอินเดีย นี่คือ เรื่องราวของเทพเจ้านอร์ส 1 ในตำนานเทพอันยิ่งใหญ่แห่งดินแดนน้ำแข็งอันหนาวเหน็บที่อาจจะไม่เป็นที่รู้จักกันจริงๆมากนัก ผ่านการย่อยและเล่าเรื่องใหม่ให้เข้าใจได้โดยง่ายโดยนักเขียนแฟนตาซีชื่อดังในยุคนี้อย่าง Neil Gaiman เจ้าของผลงานชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น American Gods, Coraline, Stardust

เขาจะพาเราไปรู้จักกับการกำเนิดโลกและดินแดนต่างๆ ก่อเกิดสิ่งมีชีวิตทั้งยักษ์ เทพเจ้าและมนุษย์  เรื่องราวของเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น 

"โอดิน" บิดาแห่งทุกสรรพสิ่งผู้รอบรู้ 
"ธอร์" บุตรแห่งโอดินผู้ถือค้อนมยอลเนียร์อันแข็งแกร่งไร้เทียมทาน 
"โลกิ" พี่น้องร่วมสาบานของโอดินผู้มีรูปโฉมงดงามฉลาดเฉลียวแต่แสนเจ้าเล่ห์เพทุบายยิ่งนัก 

ก่อนที่จะนำเราไปพบกับมหาสงครามครั้งสุดท้ายของเทพเจ้าที่เรียกว่า "แร็กนาร็อก" อันก่อกำเนิดโลกใหม่ขึ้นอีกครา

.......................................................................

ใครๆก็คงรู้จักหรืออย่างน้อยๆคงเคยผ่านตากับชื่อเทพเจ้าอย่างธอร์ โอดิน โลกิ จากหนัง  "Thor" ที่สร้างกันมาแล้ว 3 ภาค หนังในแนวซูเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวลกันไม่มากก็น้อยที่เน้นความสนุกสนานเป็นหลัก

แต่ถ้าอยากรู้ที่มาที่ไปของตำนานนี้ที่เล่าผ่านกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ก็ต้องหยิบเล่มนี้แหละมาอ่าน อาจจะไม่ใช่หนังสือแนวเทพเจ้านอร์สที่ดีที่สุดหรือลงลึกรายละเอียดราวกับหนังสือวิชาการที่ใช้อ้างอิงแบบทางการ แต่นี่ล่ะคือจุดเริ่มต้นที่ดีในการทำความรู้จัก 1 ในตำนานเทพเจ้าในดินแดนแห่งหนึ่งบนโลกนี้ที่อ่านได้ง่ายผ่านการย่อยแล้วของ Neil Gaiman 

สารภาพก่อนเลยไม่ค่อยได้อ่านหนังสือแนวตำนานเทพเจ้าทั้งหลายเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ช่วงแรกๆของเล่มดูจะยังจับไม่ติด แต่พอผ่านไปสักพักกับการเล่าเรื่องเหตุการณ์ต่างๆที่มันคล้ายๆนิทานในแต่ละเรื่องและจบในตอน มันก็เริ่มติดและเริ่มจับสาระรวมถึงเห็นภาพสะท้อนของเรื่องราวบางอยางได้มากขึ้นๆ และถึงแม้มันจะจบในตอนแต่ละตอน แต่ควรอ่านเรียงตามลำดับดีกว่า เพราะ ช่วงแรกๆมันเกริ่นนำให้เห็นภาพการสร้างโลกที่มาที่ไปของเทพเจ้าแต่ละคน ไม่งั้นข้ามตอนไปอาจจะงงได้บ้าง 

ช่วงที่พีคสุดของเล่มไม่ใช่ตอนมหาสงครามแร็กนาร็อกหรอก แต่เป็นตอนการได้มาของสมบัติและอาวุธของเทพเจ้า การสร้างกำแพงและธอร์ตะลุยแดนยักษ์ พูดง่ายๆเลยตัวชูโรงของเรื่องที่มีสีสันสร้างอรรถรสในการอ่านก็คือ โลกิ ไม่ใช่ โอดิน ไม่ใช่
ธอร์ 

ธอร์นี่ออกจะฆ่าเอามัน ทำลายล้างโชว์พลังกันอย่างเดียว บางทีออกจะดูบื้อๆตลกๆบ้าง แต่เขาก็คือคำตอบสุดท้ายเสมอของเหล่าเทพเจ้า เวลาที่ต้องใช้พลังในการแก้ปัญหา แต่โลกินี่ล่ะที่ชอบสร้างเรื่องแล้วต้องใช้ไหวพริบความเฉลียวฉลาด แก้ปัญหาเอาตัวเองให้รอด และผลพลอยได้นี่ล่ะตกกับเหล่าเทพเจ้าที่เกลียดเขาไม่ชอบหน้าเขา คำบรรยายหนึ่งในเล่มนี่ล่ะตรงเลย 

"...และนี่คือโลกิ ท่านโกรธเขาแม้ในยามที่ท่านกำลังสำนึกในบุญคุณของเขามากที่สุด และท่านสำนึกในบุญคุณของเขาแม้ในยามที่ท่านกำลังเกลียดชังเขามากที่สุด"

3 ตอนนั้นพีคตรงไหน ตอนสมบัตินั้นจะเห็นไหวพริบของโลกิอย่างชัดเจนเหมือน
ศรีธนญชัยชัดๆ ตอนสร้างกำแพงก็จะเห็นว่าแม้แต่เทพเจ้าก็ใช่ว่าจะซื่อตรงและเป็นธรรมทั้งๆที่ผลประโยชน์นั้นตกแก่อัสการ์ดเต็มๆก็ตามที โลกินี่เหมือนถูกกระทำให้เจ็บช้ำน้ำใจสุดๆ แล้วทุกคนก็หลงลืมถึงคุณงามความดีของเขาไป ส่วนตอนธอร์ตะลุยแดนยักษ์นั้น เราจะเห็นถึงสัจธรรมบางอย่างที่เป็นเหมือนภาพลวงตา... 

เด็กที่วิ่งเร็วที่สุดก็ยังวิ่งไม่เร็วเท่ากับความคิด

โลกิที่กินเร็วแบบล้างผลาญแต่ก็ยังไม่รุนแรงล้างผลาญได้เท่าไฟโทสะ

ธอร์ผู้เข็มแข็งทรงพลังก็ยังไม่สามารถเอาชนะความชราภาได้ อีกทั้งยังไม่สามารถแบกโลกทั้งใบเอาไว้ได้ 

เรื่องราวเหล่านี้ของเหล่าเทพเจ้านี่แหละที่มันสะท้อนกลับมายังชีวิตมนุษย์อย่างเราๆ บางมุมชวนให้คิดถึงแง่มุมศาสนาเป็นเงาอยู่เบื้องหลัง บางมุมก็สะท้อนให้เห็นสัจธรรม บางมุมแม้แต่เทพเจ้าผู้เพียบพร้อมเป็นเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์อย่าง
เทพเจ้าเฟรย์ ก็ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบที่สุดยังต้องการซึ่งความรัก หรือแม้แต่ตอนที่ต้องการความกล้าหาญ เหล่าเทพเจ้าก็ใช่ว่าจะพร้อมเผชิญ ทั้งๆที่พยายามหลอกแม้แต่สัตว์หน้าขน ต้องให้เทพเจ้าไทร์เทพแห่งสงครามออกหน้าเสียสละ

และแน่นอนที่สุดเรื่องราวของเทพเจ้านอร์สนั้นให้ความสำคัญกับการออกรบการทำสงคราม ซึ่งก็ไม่แปลกถ้าดูถิ่นฐานของตำนานอันเป็นต้นกำเนิดในดินแดนหนาวเหน็บแสนยากลำบาก ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด เราจึงเห็นธอร์เป็นพระเอกของเรื่องราวกับจอมทัพออกรบ โอดินออกจะเหมือนกษัตริย์ที่ต้องมีความรู้และรอบรู้มองเห็นการณ์ไกลและเหตุการณ์ต่างๆให้เป็นที่ประจักษ์เพื่อปกป้องดินแดนอัสการ์ดหรือเมืองนั่นเอง โลกิ คงไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมแบบนั้น ไหวพริบและความเฉลียวฉลาดเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่สิ่งที่ยุคนั้นยกย่องแล้วยิ่งใชัไปในทางที่ผิดและหักหลังทรยศพวกเดียวกันอีกแม้จะทำไปเพื่อแก้แค้นในสิ่งที่ตนเองถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจก็ตาม ผู้ที่ออกรบเท่านั้นที่เมื่อตายไปจึงจะได้ไปสู่วิหารวัลฮัลลาอันสมเกียรตินักรบ ไม่เหมือนคนตายธรรมดาที่มุ่งสู่เฮลหรือนรกตามความเชื่อในยุคนั้น คุณธรรมและหญิงสาวแทบจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามไปในยุคแห่งการเอาตัวรอด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มนุษย์อย่างเราที่ถึงแม้จะเกิดมาจากการเข่นฆ่าสรรพสิ่งอันมีชีวิตทั้งหลายแม้แต่มนุษย์ด้วยกันเองเหมือนเหล่าเทพเจ้า คงไม่อยากก่อเกิดมหาสงครามครั้งสุดท้ายอย่างเหล่าเทพเจ้าหรอก เพราะใครจะไปรู้ได้ว่าจะมีโลกใหม่หลังจากนั้นอีกหรือไม่ คงต้องรู้จักใช้ความรู้และความรอบรู้ รู้จักใช้พลังความแข็งแกร่งและท้ายที่สุดรู้จักใช้ไหวพริบความเฉลียวฉลาดให้ถูกทางและก่อเกิดประโยชน์มากที่สุด

คะแนน 8.2/10




Create Date : 08 มกราคม 2561
Last Update : 8 มกราคม 2561 22:37:19 น.
Counter : 2418 Pageviews.

2 comments
  
ผมชอบพวกตำนานเทพเจ้าแบบนี้มาก เคยอ่านที่เกี่ยวกับเทพนอร์สจากหนังสือ ตำนานเทพเจ้ายุโรปเหนือและปฐมบทการสร้างโลกครับ ชอบนับแต่นั้นเลย ถึงจะมีงงกับชื่อเทพบ้างก็ตามที เล่มนี้ยังไม่ได้ซื้อมาอ่านครับ แต่ผมเป็นแฟนคลับนีล ยังไงต้องเอามาไว้ในครอบครองแน่นอนครับ
โดย: ruennara วันที่: 20 มกราคม 2561 เวลา:9:15:11 น.
  
เล่มนี้อ่านง่ายครับ แต่บางตอนก็ธรรมดา เฉยๆบ้างนะครับ
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา:17:59:14 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 755059
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]



New Comments
มกราคม 2561

 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31