Bloggang.com : สมาชิกหมายเลข 755059 - Counter-Clock World พิภพย้อนเวลา

Counter-Clock World พิภพย้อนเวลา

พิภพย้อนเวลา Counter-Clock World (1967)

โดย Philip K.Dick

สนพ.วิทยาศาสตร์สร้างสรรค์

แปลโดย ธีรวินท์ บรรณาธิการโดย ณัฐ ศาสตร์ส่องวิทย์

"ไม่มีที่แน่นอนใดๆในโลกนี้ คนเราถอยหลังและก็เดินหน้า และนั่นคือไม่มีที่ที่แน่นอน"

หลังผ่านสงครามโลกครั้งที่ 3-4 อเมริกาแบ่งออกเป็น 3 ภูมิภาคหรืออาจจะนับเป็น

4 ก็แล้วแต่

โจ ทินเบนตำรวจแห่งนครลอส แองเจลีสในภูมิภาค W.U.S. ปฏิบัติภารกิจในสุสานเพื่อช่วยเหลือคน...แต่มันไม่ใช่การช่วยเหลือคนตามปกติ มันคือการช่วยคนตายให้ฟื้นขึ้นมาเพราะ วัฏภาคโฮบาร์ตกำลังวนเวียนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อเกิดกระบวนการนี้ คนตายจะฟื้นกลับมายังช่วงที่เขาได้จากโลกนี้ไปเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่เป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่คนเป็นอยู่แล้วจะเริ่มย้อนกลับไปเป็นหนุ่มสาวขึ้นและอาจจะย้อนกลับไปสู่ครรภ์มารดาแยกส่วนเป็นไข่และอสุจิจนไม่มีชีวิตกอกำเนิดขึ้นมาในที่สุด

แต่เขาหารู้ไม่ว่า เมื่อเขาติดต่อชีวาสถานเล็กๆของเซบาสเตียน เฮอร์เมส มืออาชีพในการช่วยฟื้นชีวิตคนตาย เซบาสเตียนกลับสะดุดพบกับหลุมศพของคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ อย่าง โธมัส พีค ท่านประมุขลัทธิยูไดซึ่งคำสอนของเขามีอิทธิพลทำให้เกิดนคราภิบาลนิโกรเสรีและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อเมริกาแตกแยก

กระนั้นเซบาสเตียนก็หารู้ไม่ว่าเขาก็กำลังเข้าสู่วังวนแห่งการแก่งแย่งบุคคลสำคัญทางศาสนาของกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น...

หอสมุดแห่งประชาชนที่มีสภาฆาตชนเป็นผู้ปกครองในการกำกับดูแลสิ่งที่อาจจะสุ่มเสี่่ยงทำให้บ้านเมืองแตกแยกอีกครั้งจะต้องถูกทำลายทิ้ง ซึ่งท่านประมุขดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในนั้นตามความคิดเห็นของหอสมุด

เรย์ โรเบิร์ต ผู้นำลัทธิยูไดคนปัจจุบันและสาวกของเขา ซึ่งท่านประมุขดูจะมีคุณค่าสูงสุดในฐานะผู้ที่ผ่านประสบการณ์ความตายมาแล้ว ถึงแม้อาจจะสั่นคลอนฐานะของเขาได้ก็ตาม

กลุ่มบุคคลลึกลับจากกรุงโรมที่หวังเข้าร่วม ครอบครองความเป็นเจ้าของท่านประมุข

รัฐบาลที่มีสิทธิ์ในการครอบครองบุคคลที่ไม่มีญาติและถูกขุดขึ้นมาอย่างผิดกฎหมาย

แม้แต่เซบาสเตียนและชีวาสถานของเขา หากได้ครอบครองท่านประมุขจะนำพาความร่ำรวยมหาศาลจากการแย่งประมูลของกลุ่มต่างๆนั่นเอง

แผนการหลากหลายวิธีต่างถูกงัดมาใช้ทั้งทางที่เปิดเผยและลึกลับเพื่อเป้าหมายเดียวกัน

..........................................................

นิยายของ Philip K.Dick เล่มนี้ ถือว่าหายากที่สุดในจำนวน 3 เล่มที่มีแปลออกมาเลย

แต่ความสนุกผมชอบน้อยกว่า "หุ่นสังหาร (Do Androids Dream of Electric Sheep)" และมากกว่า "วงกตมรณะ (A Maze Of Dearh)" แปลกดีที่บ้านเราเลือกแปลผลงานของเขาในช่วงนั้นทั้งหมด (ค.ศ.1967-1970) ทั้งๆที่เขามีผลงานตั้งแต่ยุค'50s จนกระทั่งถึงต้นยุค '80s ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในปี ค.ศ.1982 ผลงานของเขามากมายได้รับการดัดแปลงไปเป็นหนังมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว เสียดายที่ปัจจุบันไม่มีใครสนใจหยิบผลงานของเขามาแปลอีกเลย

ต้องขอบอกเป็นเรื่องที่ไอเดียแหวกแนวสุดยอดมาก เราลองสมมติว่าเกิดมี

ปรากฎการณ์แบบนี้จริงๆ บุคคลสำคัญต่างๆที่ตายไปแล้วบนโลกนี้ฟื้นขึ้นมาได้ คงน่าจะวุ่นวายกันน่าดู แถมคนเป็นก็จะเด็กลงไม่ต้องไปทำเบบี้เฟซกันแล้ว แต่มันก็แลกมากับเทคโนโลยีที่เคยสร้างมามันก็จะย้อนกลับไปด้วย จนมันอาจจะไม่เคยมีอยู่และที่สำคัญตัวตนต่างๆที่เราเป็นอยู่ก็จะย้อนกลับไปด้วย จากที่เคยเป็นผู้บริหารประเทศ เจ้าของบริษัท คนมีชื่อเสียง อาจจะย้อนกลับไปสู่ช่วงที่เราไม่ได้เป็น กำลังเริ่มบุกเบิกหรือเตาะแตะอยู่เลยก็ไดั

หนังสือมีเอ่ยถึงมาร์ติน ลูเธอร์ คิงและเกี่ยวกับภูมิภาคอาณานิคมคนผิวสี ซึ่งเหตุการณ์ในช่วงนั้นคงมีอิทธิพลต่องานเขียนของเขาพอสมควร เราคงไม่ถึงกับต้องมีอาณานิคมแบ่งแยกมนุษยทั้งทางความคิดความเชื่อและสีผิวบนความแตกต่างที่หลากหลายบนโลกใบนี้กันเพียงแค่

"เมื่อเราปรึกษากัน เราสร้าง 'เธอและฉัน' ให้แก่กัน เพราะเมื่อฉันเข้าใจสิ่งที่เธอเข้าใจ ฉันก็กลายเป็นความเข้าใจของเธอและถูกสร้างเป็นส่วนหนึ่งในตัวเธออย่างลบเลือนไม่ได้"

หนังสือดำเนินเริ่องสนุกชวนให้ติดตาม แต่ละกลุ่มจะมาไม้ไหนกันน้อ และเพราะมีหลายกลุ่มนี่แหละ ผมอ่านไป 190 หน้าเริ่มงงว่า ใครเป็นใคร มีวัตถุประสงค์อะไรน้อ เปิดไปเปิดมาก็ยังงง สุดท้ายตัดสินใจอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นดีกว่า ด้วยความหนาของหนังสือแค่ 300 หน้านิดๆเอง ติดที่จบง่ายไปนิดและน่าจะเป็นเรื่องแรกที่อ่านมาใน 3 เรื่องที่มีการใช้ยาเสพติด (ถ้าจำไม่ผิดนะ 55) เป็นส่วนหนึ่งเป็นเครื่องมือในการช่วยตัวเอกให้รอดพ้นภัย ทำให้เห็นนิมิตหรือหลุดพ้นไปจากโลกความเป็นจริงซึ่ง Dick ใช้บ่อยๆในนิยายของเขาจนเป็นเอกลักษณ์เลย

"เราจะต้องเล็กเข้าไว้...เพื่อว่าจะได้มีคนอย่างพวกเราอีกมาก เพื่อว่าสิ่งมีชีวิตนับพันๆล้านสามารถอยู่ได้ ถ้าพวกเราแต่ละคนตัวใหญ่ ขนาดเดียวกับพระผู้เป็นเจ้าแล้วล่ะก็ จะมีสิ่งมีชีวิตอยู่สักเท่าไหร่กัน?"

คะแนน 8.3/10

Create Date : 06 กันยายน 2560
Last Update : 6 กันยายน 2560 16:50:57 น.
Counter : 1460 Pageviews.

0 comments