ฟ้องคดีเอง
หัวข้อสนทนา : เครียด มันไม่จ่ายหนี้เรา ตอนนี้มีลูกค้ามาทำงานละไม่ยอมจ่ายเงิน ติดหนี้ที่บ้านอยู่ 3 หมื่นบาทค่ะ มีหนังสือรับสภาพหนี้ รายละเอียดครบหมด ลูกหนี้ลงลายมือชื่อเรียบร้อย นี่ก็เลยเวลามาแล้ว มันก็ไม่ยอมจ่าย แล้วโทรไปมันก็ไม่รับ หงุดหงิดจังเลย เครียด เงินก็อยากได้
แบบนี้เราต้องไปฟ้องศาล ก่อนใช่ไหมคะ ค่าทนายมันจะแพงไหมเนี้ย ... -*- เครียด ละในหนังสือรับสภาพหนี้ไม่มีกำหนดดอกเบี้ยไว้ด้วย จะขอให้ศาลสั่งให้คิดดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปีได้ไหมอะ
ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้มาหลายเดือนละ 7 เดือนแล้วมั้ง เราก็ไปทำหนังสือรับสภาพหนี้ เขาก็เช็นแล้วก็ผิดนัดอีก โอ๊ย โทรไปมันก็ไม่รับ ไม่ก็ให้ลูกน้องรับละบอกว่า ไม่อยู่ ...........
เครียด ช่วยด้วยนักกม.ช่วยทีค่ะ
จากคุณ : เจ้าหนี้ไม่มีจะกิน - [08 ธ.ค.52 00:53]
ความคิดเห็นที่ 1 : ฟ้องเองก้อได้ครับ
ผมเคยเห็นเจ้าหนี้ในลักษณะนี้ฟ้องเองเยอะแยะไป
แต่คงต้องเสียเวลาและอาจพลาดได้บ้าง
กรณีดอกเบี้ย ถ้าไม่ตกลงไว้ชัดก้อขอร้อยละ ๗.๕ นั่นแหละ
แต่กรณี จขกท ยังไงๆก้อต้องฟ้องก่อนครับ และ น่าจะจ้างทนายนะครับ หนี้สามหมื่น ค่าจ้างคงไม่มากนัก เพราะถ้าฟ้องเอง เราไม่รู้ขั้นตอนและเขียนคำฟ้อง อ้างพยาน นำสืบ ต่างๆ อาจพลาดได้ครับ
ขอแสดงความเห็นเท่านี้ครับ
จากคุณ : พลายงาม - [13 ธ.ค.52 17:39]
ความคิดเห็นที่ 2 : กรณีสัญญากู้หรือรับสภาพหนี้จำนวนสามหมื่น จะเป็นกรณีคดีมโนสาเร่ ซึ่ง โจทก์สามารถฟ้องคดีเองได้ครับ
คดีมโนสาเร่ หมายถึง คดีเล็กน้อย กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดหลักเกณฑ์ว่าคดีแบบไหนจึงเรียกว่าเป็นคดีมโนสาเร่ และศาลต้องดำเนินคดีให้จบสิ้นเร็วที่สุดโดยยังต้องให้ความยุติธรรมแก่คู่ความด้วย
ปกติแล้วการดำเนินคดีทั่วไปในศาลควรให้ทนายความเป็นตัวแทนจัดการคดีแทนโจทก์หรือจำเลยเพื่อความรอบคอบในการเตรียมคดีเนื่องจากกฎหมายมีความซับซ้อนเกินกว่าที่เจ้าของคดีจะทำด้วยตัวเองซึ่งอาจทำให้คดีไม่สมบูรณ์และพ่ายแพ้ได้ แต่กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งกำหนดวิธีพิจารณาคดีเล็กๆน้อยๆซึ่งไม่ยุ่งยากในการตัดสินไว้เป็นการเฉพาะ โดยลดขั้นตอนการทำคดีลง อีกทั้งยังยอมให้ผู้เสียหายฟ้องร้องคดีด้วยตัวเองและทำด้วยวาจาก็ได้ ศาลจะช่วยดำเนินขั้นตอนการพิจารณาและตัดสินคดี อันทำให้คดีพิพาทเสร็จสิ้นไปอย่างเร็ว เราเรียกว่า วิธีพิจารณาคดีมโนสาเร่
ลักษณะของคดีมโนสาเร่
ปวพ. มาตรา 189
คดีมโนสาเร่ คือ (1) คดี ที่มี คำขอ ให้ปลดเปลื้องทุกข์ อันอาจคำนวณ เป็น ราคาเงิน ได้ไม่เกิน สามแสนบาท หรือ ไม่เกิน จำนวนที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกา (2) คดี ฟ้องขับไล่ บุคคลใดๆ ออกจาก อสังหาริมทรัพย์ อันมี ค่าเช่า หรือ อาจให้เช่าได้ ในขณะยื่น คำฟ้อง ไม่เกิน เดือนละ สามหมื่นบาท หรือ ไม่เกิน จำนวน ที่กำหนดใน พระราชกฤษฎีกา
วิธีฟ้องคดี โจทก์อาจยื่นคำฟ้องเป็นหนังสือหรือมาแถลงข้อหาด้วยวาจาต่อศาลก็ได้ กฎหมายมิได้บังคับให้ต้องมีทนายความด้วย โดยศาลจะช่วยบันทึกรายการแห่งข้อหา อ่านให้ฟัง แล้วให้โจทก์ลงลายมือชื่อไว้ โจทก์ต้องเสียค่าขึ้นศาลโดยคิดเป็นร้อยละสองของทุนทรัพย์ แต่ไม่เกินหนึ่งพันบาท นับว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีที่ไม่มากเลย
ที่มา- //th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88
จากข้อมูลข้างต้น จขกท สามารถเลือกที่จะฟ้องเองก้อได้ครับ แต่ ถ้าไม่อยากเสียเวลาก้อจ้างทนายเถอะ ค่าทนายคงไม่มากนักครับ เพราะคดีมันไม่ยาก
ขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมเท่านี้ครับ
จากคุณ : พลายงาม - [13 ธ.ค.52 17:50]
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 13:21:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1035 Pageviews. |
|
|
|
|
|