จับนม เป็นความผิดฐานอนาจารมีโทษถึงจำคุก ไม่ใช่ปรับแค่ 500
จับนม เป็นความผิดฐานอนาจารมีโทษถึงจำคุก ไม่ใช่ปรับแค่ 500 | | ควันหลงจากสงกรานต์ที่ผ่านมา
มีการทำอนาจาร "จับนม" ผู้หญิง จนเป็นข่าวครึกโครม ดังที่ทราบๆกัน
เห็นบางกระทู้ มีการแสดงความเห็นว่า จับนมผู้หญิงโทษแค่ปรับ 500 แล้วกันไป ต้องเอามาประจานติดรูปเสียบประจาน จึงจะสาสม
ที่ว่ามาข้างต้น น่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนไปครับ
การไปบังคับหรือฉวยโอกาสจับนมผู้หญิงโดยที่เขาไม่ยินยอม มันไม่ใช่โทษเพียงแค่ปรับ 500 ดังที่สมาชิกบางท่านในกระทู้เดิมๆหลังสงกรานต์(ผมก็จำไม่ได้แล้วว่ากระทู้ไหน)เข้าใจนะครับ
กรณี การจับนมผู้หญิงโดยที่เขาไม่ยินยอม เป็นความผิดฐานอนาจาร ตาม ประมวลกฏหมายอาญา
มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดย ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 281 การกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคแรก และ มาตรา 278 นั้น ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการ กระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ใน มาตรา 285 เป็นความผิดอันยอมความได้
////////////
กรณี จับนมในวันสงกรานต์ ตามข่าวที่เห็นๆกัน เป็น ความผิดตาม ม.278 โทษหนักเหมือนกันนะครับ อย่างไรก็ตาม เป็นความผิดอันยอมความได้ถ้าเข้าเงื่อนไขตาม ม.281
กรณี จับนมผู้หญิงในงานสงกรานต์ที่ข้าวสาร แล้ว ถูกเอามายืนประจานแขวนป้าย "ผมชอบจับนมผู้หญิงครับ" เข้าใจว่า ตำรวจคงไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายยอมความ และ ให้ผู้ต้องหายอมที่จะถูกประจาน เพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีตาม ม.278 (โทษสูงสุด จำคุก 10 ปี) นั่นเองครับ (ซึ่งการประจานเช่นนั้น ผู้ต้องหาต้องยินยอมด้วยเพราะไม่ใช่การบังคับโทษทางอาญาตามกฏหมาย)
จึงอยากฝากไว้ว่า การไปทำอนาจารจับนมผู้หญิงโดยที่เขาไม่ยินยอมนั้น ไม่ใช่ปรับ 500 นะครับ ถ้าผู้หญิงเขาไม่ยอมความเอาเรื่องถึงที่สุด คุกหัวโตเลยละครับ
ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2334/2525 พนักงานอัยการจังหวัดอุบลราชธานี โจทก์
นาย ... จำเลย
ป.อ. มาตรา 90, 91, 278, 362
จำเลยเข้าไปจับนมผู้เสียหายขณะกำลังนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน ผู้เสียหายวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน จำเลยวิ่งตามเข้าไปกอดจับนมผู้เสียหายในบ้านอีก การกระทำผิดของจำเลยตอนแรกกับตอนหลังเป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอนกัน และเจตนาของจำเลยก็เพื่อกอดจับนมผู้เสียหายเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
________________________________
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงต่างกรรมต่างวาระกัน กล่าวคือ ใช้กำลังประทุษร้ายจับนมผู้เสียหาย และบุกรุกเข้าไปในห้องนอนของผู้เสียหายแล้วใช้กำลังประทุษร้ายจับนมผู้เสียหายอีก ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑, ๒๗๘, ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๕ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๘, ๓๖๒, ๓๖๔, ๓๖๕ การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามมาตรา ๒๗๘ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามมาตรา ๙๐
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะผู้เสียหายกำลังนอนอยู่บนแคร่หน้าบ้าน จำเลยเข้าไปจับนมของผู้เสียหาย ผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือพร้อมกับวิ่งหนีเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย จำเลยวิ่งตามเข้าไปในบ้านแล้วกอดจับนมผู้เสียหายอีก การกระทำผิดของจำเลยตอนแรกกับตอนหลังเป็นการกระทำต่อเนื่องยังมิได้ขาดตอนกัน และเจตนาของจำเลยก็เพื่อกอดจับนมผู้เสียหายเท่านั้น แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องถึงการกระทำของจำเลยเป็นสองตอนก็ตามการกระทำของจำเลยก็ถือได้ว่าเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องลงโทษตามบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐
พิพากษายืน
( สำเนียง ด้วงมหาสอน - สนิท อังศุสิงห์ - ปรีชา พานิชวงศ์ )
ศาลจังหวัดอุบลราชธานี - นายประชิต ศรศักดา
ศาลอุทธรณ์ - นายเพียร สุมิระ จากคุณ | : อุบลแมน | เขียนเมื่อ | : 20 เม.ย. 55 12:57:40 | //www.pantip.com/cafe/social/topic/U11984592/U11984592.html
Create Date : 04 พฤษภาคม 2555 |
Last Update : 4 พฤษภาคม 2555 15:58:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 10573 Pageviews. |
|
|