ความคิดเห็นที่ 1 คือว่าคนถูกฟ้องเค้ามายืมเงินผมไปใช้หนี้  แล้วบอกว่ากว่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์เค้าจะคืนทรัพย์ให้ปลายปีแล้วถึงจะมาใช้หนี้น่ะครับ ^ ^ เอ่อ คือว่าคนที่ถูกฟ้องล้ม จะถูกพิทักษ์ทรัพย์โดยเด็ดขาดเพื่อเอาทรัพย์สินทั้งหมดนำไปชำระหนี้(เจ้าหนี้กี่รายก็แบ่งกันไป) ทนัพย์สินของเจ้าตัวที่ทางจพท.(เจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์)จะคืน คงไม่มีเหลือแล้วครับ เพราะเสร็จเจ้าหนี้หมดแน่ๆ  เจ้าหนี้ฟ้องล้มละลายก็เพื่อมีสิทธิ์ในทรัพย์ทั้งหมดจะได้ขายชำระหนี้นั่นเอง ยิ่งเงินสดยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะต้องเอาเงินสดไปใช้หนี้ก่อนเพื่อน  แปลว่า..จะเอาทรัพย์ที่ไหนมาคืนหลังปลดจากล้มละลาย  งงจริงๆ ระยะเวลาล้มละลายคือ 3 ปี (หมายถึงประพฤติดีด้วยนะครับ) ถึงจะปลดจากล้มละลาย ระหว่างนั้นเขาทำธุรกรรมการเงินอะไรไม่ได้เลย นอกจากทำงานรับจ้าง ขนาดบัญชีเงินสดเบิกถอนยังต้องแจ้งจพท.เลย แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาใช้คืนเราล่ะเด้อ? จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 12:43:41 ถูกใจ : pop1814

ความคิดเห็นที่ 2 คห 1 ครับ เค้าบอกผมมาแบบนี้ครับ ผมไม่ค่อบรู้เรื่องเท่าไหร่เห็นว่าเป็นญาติก็เลยให้ไปครับ แบบนี้คงไม่ได้คืนแน่เลยใช่ไหมครับ แย่จังเงินตั้งเยอะจะทวงก็กลัวจะทะเลาะไม่นับญาติกันกลุ้มใจมากเลยครับ ปล. คือถ้าผมรู้ว่าไม่ได้คืนก็จะได้ทำใจครับ จากคุณ : pop1814 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 12:56:56

ความคิดเห็นที่ 3 ปกติแล้ว  คดีล้มละลาย  เมื่อโจทก์ฟ้องแล้ว  จะถอนฟ้องไม่ได้ เว้นแต่ ศาลจะอนุญาต พ.ร.บ. ล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 11 เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาล เป็นจำนวนห้าพันบาทในขณะยื่นคำฟ้องคดีล้มละลาย และจะถอนคำฟ้อง นั้นไม่ได้ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต ศาลมีอำนาจเรียกให้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์วางเงินประกันค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้ตามที่เห็นสมควร //////// และ หากกรณี ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ลูกหนี้เด็ดขาดแล้ว  จะถอนฟ้องไม่ได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1593/2543 แจ้งแก้ไขข้อมูล การฟ้องคดีล้มละลายมิใช่เป็นเรื่องที่เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ฟ้องเพื่อให้จำเลยหรือลูกหนี้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้โดยเฉพาะเจาะจง แต่เป็นการฟ้องเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั่วไป แม้จำเลยที่ 3 จะชำระเงินให้แก่โจทก์ และโจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยที่ 3 ก็ตาม ก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 มิได้เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั่วไปจึงไม่สมควรอนุญาตให้โจทก์ถอนฎีกา ///////// ทางออกของลูกหนี้ที่ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว จึงต้องยื่น"คำขอประนอมหนี้" ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์  เพื่อ นัดประชุมเจ้าหนี้ลงมติพิเศษยอมรับ  แล้วเสนอศาลเห็นชอบ เมื่อศาลเห็นชอบคำขอประนอมหนี้  เขาก็จะหลุดพ้นจากสภาวะล้มละลาย  กลับมามีอำนาจจัดการทรัพย์สินเช่นเช่นเดิม กรณีคุณ จขกท.  จึงเข้าใจว่า  ญาติคุณ(ลูกหนี้ผู้ถูกพิทักษ์ทรัพย์)  คงจะขอประนอมหนี้กับเจ้าหนี้  แล้ว  คงมาขอยืมเงินคุณไปเพื่อ วางชำระตามคำขอประนอมหนี้ ระยะเวลา  การขอประนอมหนี้ตามที่ผมว่ามาข้างต้น  จนถึงขณะที่เขาหลุดพ้นจากล้มละลาย  น่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน ๖ เดือน  คือ  ปลายนี้นั่นเอง ยังไงก็ลองคุยกันให้เคลียร์อีกครั้งนะครับ  ว่า  เป็นการประนอมหนี้ หรือ ขอให้โจทก์ถอนฟ้อง  เพราะ  ถ้า ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้ว  โจทก์จะถอนฟ้องไม่ได้ครับ ขอร่วมแสดงความเห็นเพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : อุบลแมน เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 18:15:26 ถูกใจ : pop1814

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ : อุบลแมน  ขออนุญาตถามเป็นความรู้เพิ่มเติมนะครับ 1. แปลว่า การที่ลูกหนี้ถูกพิทักษ์ทรัพย์ ยังไม่ถึงขั้น "ล้มละลาย" ใช่ไหมครับ เพราะลูกหนี้ยื่นขอประนอมหนี้ได้ ขั้นตอนพิทักษ์ทรัพย์ กับ ล้มละลาย เป็นคนละขั้นตอนใช่ไหมครับ 2. ถ้าลูกหนี้ประนอมหนี้แล้ว ดันทำไม่ได้อีก ผิดนัดอีก  จะเป็นยังไงครับ 3. กรณีคุณจขกท.  แบบนี้ลูกหนี้เอาเงินคุณจขกท.ไปหมุนแก้ปัญหาก่อนสินะครับ ผมพยายามคิดวิธีซื่อๆเพื่อช่วยคุณจขกท.ดูนะครับ แต่ไม่รู้ว่ามันทำได้ไหม ดังนี้ - แล้วถ้าลูกหนี้ใช้หนี้เก่าจบแล้ว  คุณจขกท.จะมีวิธีอย่างไรที่จะแน่ใจว่าทรัพย์ที่ปลดจากการล้มละลายจะตกเป็นของลูกหนี้? - คือในฐานะคนให้ยืมเงิน น่าจะมีเอกสารทางกม.อะไรที่เขาสามารถเรียกดูจากลูกหนี้ได้ว่ามีอะไรบ้าง - แล้วเอาทรัพย์ที่จะปลดจากล้มละลายนั้นน่ะ ทำแบบ "เอาทรัพย์ค้ำประกันหนี้" แบบนี้ได้ไหมครับท่าน? จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:49:42 ถูกใจ : pop1814