เริ่มงานมาได้กี่วันหว่า...6 วัน...ได้ข้อมูลใหม่ ๆ มาอีกพอสมควร ได้งานมาอีกพอสมควร (แต่มีความรู้สึกว่าจะยังไม่ได้เศษเสี้ยวแบบเต็มรูปแบบหากเกิดการเซ็นต์สัญญาประมาณกลางเดือนพฤษภาคม
เมื่อวานเพื่อนมาจากตจว. มาชวนกินข้าวเที่ยงแต่เรากินแล้ว เลยขอเลื่อนเป็นมื้อเย็นแทน ก็เลยมานั่งรอที่ทำงานถึงเย็นแล้วค่อยตีรถกลับ ตอนนั่งอยู่ในอ๊อฟฟิศ ก็ได้ข้อมูลเรื่องการทำงานอีกส่วนนึง เลยยิ่งทำให้เกิดการลังเลอย่างแรงว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไป เสียงเล็ก ๆ ในใจก็อยากลองเหมือนกัน อยากให้มันถึงที่สุดดูว่าจะอยู่ได้หรือเปล่า เพราะคิดว่า ถ้ามันถึงเวลา คงจะเกิดการปรี๊ดจนไม่สามารถ... เหมือนที่อยู่กับผอ.สน.ฟื้นฟูไม่ได้นั่นแหละ แต่...ตอนนี้มันแค่เหนื่อยกายนิดหน่อยกับการตื่นเช้า แล้วก็รอลุ้นในทุก ๆ วันว่าจะเกิดการผิดพลาดให้ได้โดนตำหนิเมื่อไหร่มากกว่า 555
อีกอย่างคือ...มีความรู้สึกว่า ถ้าเราติดอยู่กับงานตรงนี้ เหนื่อยประมาณนี้ เงินประมาณนี้ แล้วมีโอกาสดี ๆ อย่างอื่นเข้ามาในชีวิตที่ดีกว่าแล้ว จะทำให้สิ่งนั้นหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดายหรือเปล่า องค์ประกอบหลาย ๆ อย่างที่ทำให้คิดมากคือ สายงานเรา หน้าที่เรา ถ้ามองในแง่ - คือทุกคนจ้องจะใช้งาน แต่ถ้ามองในแง่ + คือ อ่ะ...ใช้ได้ใช้มา เราจะได้เรียนรู้งานเยอะ ๆ แล้วสัญญาที่จะทำ ไม่ได้ว่าทำแบบแฟร์ ๆ เหมือนอย่างที่อื่นเขาทำกันนะ ถ้าให้ถูกต้องสัญญาการจ้างงานมันต้องมีกันทั้งผู้จ้างและผู้ถูกจ้าง แต่ เมื่อวานได้ข้อมูลมาคือ สัญญาทำแค่ฉบับเดียว แล้วเก็บไว้ที่นายจ้างอีกต่างหาก เกิดเรามีปัญหาอะไรขึ้นมานี่ เรียกร้องอะไรจากมันไม่ได้เลยว่างั้นเหอะ เฮ้อ!!! เอาไงๆๆๆๆๆ
ช่วงนี้ตื่นเช้ามา ถามตัวเองก่อนเลยว่าจะทำต่อไปได้นานขนาดไหน (เป็นพวกจิตตกหว่ะ) แต่...ถ้าไม่คิดไรมาก ตอนนี้ก็ยึดคติ what ever will b will b ก่อนแล้วกัน
ไม่แฟร์เลยเนอะ