นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2559
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
2 สิงหาคม 2559
 
All Blogs
 
โจทย์ประจำหลักกิโลที่ 160 : รถติด



บล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ย์ตะพาบของเข้าของบล็อก




รถติด



“วายป่วง แบบนี้มันวายป่วง !”

คำพูดติดปากนี้ถูกพ่นซ้ำซากวนไปเวียนมานับตั้งแต่ผมเหยียบคันเร่งจนมิดให้ล้อหมุนออกจากหมู่บ้านแห่งนั้นเมื่อหัวกระสุนของใครบางคนต้องการขัดขวางภารกิจของผมถูกส่งมาเจาะทะลุกระจกรถพยายาลคันนี้หากผมเป็นพนักงานขับรถของโรงพยาบาลแล้วบังคับพวงมาลัยเลี้ยวไปเลี้ยวมาอย่างกับงูทะเลทรายในรัฐของสมาพันธ์ผมคงถูกเรียกสอบสวน ยึดใบอนุญาต และถูกอบรมจิตสำนึกทุกวันเป็นเวลาห้าปีเต็ม

ทว่า ไทยะบุรียังไม่ได้รวมเป็นรัฐของสมาพันธ์ และผมยังอยากมีชีวิตอยู่จึงต้องขอแหกกฎเพื่อความอยู่รอดปลอดภัย

เปรี้ยง ๆ !!!

เอี๊ยด !

ล้อรถบดถนนเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดที่เกิดจากการหักพวงมาลัยไปพร้อมกับเหยียบเบรกบังคับทางไม่ให้รถพุ่งลงข้างทางที่เป็นทะเลทรายถึงผมจะไม่ได้เป็นนักแข่งรถระดับโลก แต่ก็มีทักษะการเอาตัวรอด

“ฮื่อ ๆ”

เสียงของนายใบ้รบกวนสมาธิการขับรถของผม “อะไร”

“ฮื่อ ๆ”

ผมมองตามสายตาของนายใบ้ไปที่กระจกมองหลังแล้วก็ต้องอุทานคำพูดติดปากนั้นอีกครั้ง แถมยังเพิ่มระดับความรุนแรงลงไปอีกว่า“ฉิบหายวายป่วง !”

เมื่อไอ้คนที่ตามล่าผมเร่งเครื่องของมันเข้าใกล้มากขึ้นและกระสุนขนาดเท่าหัวแม่โป้งเปลี่ยนขนาดเป็นเท่ากับท่อนแขน

บรึ้ม !!!

นี่ถึงกับต้องใช้บาซูก้ากันเลยหรือไง ใครกันที่ต้องการคร่าชีวิตทนายหนุ่มผู้ทำงานด้วยความซื่อตรงมาตลอดอย่างผมเคยแต่คิดว่าจะทำงานไปจนตาย แต่ไม่เคยคิดว่าจะต้องตายในหน้าที่ผมเหยียบคันเร่งจนจม ให้เครื่องเร่งความเร็วรอบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้โชคดีเป็นของผมเพราะเจ้ารถฉุกเฉินคันนี้ถูกผลิตมาให้มีสมรรถนะความเร็วเพื่อช่วยชีวิตและตอนนี้มันต้องทำหน้าที่พาผมที่กำลังผจญภาวะฉุกเฉินให้รอดปลอดภัย

“ฮื่อ ๆ”

“อะไรอี๊ก !” ผมร้องเสียงหลงมองไปที่กระจกข้างฝั่งนายใบ้

ฉิบหายวายป่วงว่าที่สุดแล้ว แต่รอบนี้มันมากกว่า ก็เพราะลูกปืนลูกโตขนาดที่ผมเรียกว่าบาซูก้าอีกลูกปรากฏในระยะกระชั้นชิดจะเร่งความเร็วเท่าไหร่คงไม่พ้นทางมฤตยู จะอยู่หรือไปก็ต้องวัดดวงกัน ผมหักพวงมาลัยหมุนเป็นวงกลมแล้วเหยียบเบรกจงใจให้รถเหวี่ยงสะบัดออกนอกถนน พยายามสุดแรงเกิดให้พ้นวิถีความตาย

บรึ้ม !!!

อยากร้องไชโยโห่ออกมาดัง ๆ เมื่อมันพลาดเป้าแต่ดูเหมือนว่าคนที่จ้องจะเอาชีวิตผมให้ได้ยังไม่ยอมแพ้และมันอาจมีกองกำลังเป็นยมทูตเพราะทะเลทรายที่แห้งแล้งแห่งนี้มันดันมีต้นไม้ตายยากขึ้นโผล่กีดขวางถ้าตัวผมเป็นส่วนหนึ่งของเกมกีฬาที่อาศัยความแม่นในการปาลูกกลม ๆ ให้กลิ้งชนขวดผมคงชนเจ้าต้นไม่เหล่านั้นให้ล้มระเนระนาด แต่ผมไม่ใช่ลูกบอลและไอ้เจ้าต้นไม่นั้นไม่ได้ล้มง่ายอย่างขวด มันจึงเป็นการท้าทายฝีมือการบังคับพวงมาลัยของทนายเช่นผมเสียนี่กระไร

“ฮื่อ”

พอแล้วได้ไหม นี่พวกมันจะตามล่าผมไปถึงไหน ผมร้องครวญในใจ จังหวะนั้น เห็นนายใบ้ปีนเบาะไปที่ด้านหลัง“นายใบ้ นั่นจะทำอะไร !”

เขาไม่ตอบผม แน่ล่ะ ถึงเขาจะบอกผมก็ไม่เข้าใจแค่คำว่าฮื่อ สื่อความหมายไม่ชัดเจนนัก กระทั่งผมมองผ่านกระจกหลังจึงเห็นภาพการกระทำแม้จะมองไม่ถนัดเพราะต้องหักหลบเจ้าต้นไม้ทนแล้ง แต่เขาทำให้ผมสงสัยขึ้นมาว่านายใบ้นักเป่าลูกโป่งคนนี้เป็นใครกัน

เขาเปิดกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ทำอะไรสักอย่างกับสิ่งที่หยิบออกมากับเปลเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน เปิดประตูรถด้านหลังแล้วก็ปล่อยเปลนั่นทิ้งลงไป

ไม่กี่วินาทีจากนั้น

ตู้ม !!!

เสียงที่ผมได้ยินเสียงแรกคือเสียงระเบิดทำลายล้างรุนแรงไม่ผิดแน่เพราะแรงของมันส่งให้รถคันหลังพุ่งขึ้นพังทลายเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อมันขับเหยียบเปล

เผละ !!!

ส่วนเสียงที่สอง...

โอ ผมอยากจะเป็นลม ขอผมเป็นลมเถอะ

ปี๊น !!!

ผมสะดุ้งตื่นอีกครั้ง แล้วหันหน้ามองไปมาพบว่ากำลังอยู่ท่ามกลางการจราจรอันคับคั่งและในตอนนี้ผมกลับนั่งอยู่ในตำเหน่งที่เคยเป็นของนายใบ้ ส่วนนายใบ้ก็กำลังครอบครองพวงมาลัยแทนผม

ปี๊น ๆๆๆ !!!

“นี่เราอยู่ที่ไหน” ผมถามเขาพลางมองไปรอบ ๆ ที่มีแต่ยานพาหนะแบบต้านแรงโน้มถ่วงโลกรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายก่อนที่เทคโนโลยีจะถูกสั่งห้ามพัฒนา

นายใบ้ไม่เขียนอะไรให้ผมอ่าน แต่ใช้นิ้วชี้ไปที่ป้ายใหญ่ที่มีรูปชายใบหน้าอิ่มยิ้มเห็นฟันทุกซี่สวมใส่ชุดแพรไหมสีทองกับเครื่องประดับเพชรพลอยตามร่างกาย

“เราคือเจ้าอิระวดี ผู้มีบารมีปกป้องแผ่ไพศาลผู้ใดไร้แผ่นดินชีวิตซมซาน จงข้ามผ่านสู่ดินแดนแห่งเรา”

ผมอ่านคำบรรยายใต้ภาพที่คำเชิญชวนเรียกผู้ลี้ภัยผู้ไร้ที่อยู่อาศัยให้เข้าไปพำนักในเขตประเทศของตนมันเป็นข้อตกลงของสมาพันธ์กับดินแดนรอบรั้วไทยะบุรีว่าหากประเทศหรือรัฐใดยินยอมให้ประชาชนชาวไทยะฯพักพิงในช่วงฟื้นฟูประเทศหรือรัฐนั้นจะสามารถแปรสภาพผู้ลี้ภัยให้เป็นประชาชนของตนได้โดยเสรีโดยมิต้องยื่นเรื่องลงทะเบียนคนต่างด้าวให้วุ่นวาย

และนี่เหตุให้ผมต้องเผชิญการจราจรติดขัดยานพาหนะต่อท้ายยาวเป็นหางงูที่ท่านผู้รู้เคยให้คำจำกัดความว่า ปรากฏกาณ์รถติดในสมัยศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเมื่อคิดว่าผมต้องทนติดแหง็กไปอีกนานบนถนนอันร้อนระอุ และมันอาจถึงเช้าถ้าขบวนยวดยานนี้ไม่มีการเคลื่อนไหว

หลังสงครามกลางเมืองของไทยะบุรีปิดฉาก ชนชาวไทยะฯ เป็นผู้ไม่ด้อยในเรื่องความฉลาดรอบรู้จึงเป็นที่ต้อนรับของดินแดนใกล้เคียง และอิระวดีก็กลายเป็นเป้าหมายแรกที่พวกเขาเลือกซึ่งหากพวกเขาเปลี่ยนสัญชาติการเกิดได้ ก็เท่ากับว่าไม่ต้องเป็นประชาชนของไทยะ ฯ อีกต่อไปไม่มีใครอยากอยู่ในดินแดนที่มีความหลังอันมืดมน

ปัญญาชนส่วนมากมีค่านิยมแบบเดียวกัน...

เป็นที่น่าเสียดายที่ผมใช้คำอธิบายเหตุการณ์นี้ด้วยคำไทยะโบราณว่ามหกรรมสมองไหล

พูดถึงสมองไหล สะเก็ดคราบสีแดงยังติดอยู่ที่หน้ากระจกแม้ว่าจะถูกปาดออกเป็นวงตามรัศมีของที่ปัดน้ำฝน แต่ผมยังเห็นหลักฐานต้นเหตุที่ทำให้ผมหมดสติเป็นทางเส้นสีเหลือง

และแล้วอาการคลื่นเหียนก็บังเกิดขึ้นทันใด ผมใช้มือไขกระจกรถออกอย่างเร่งรีบแล้วก็ปลดปล่อยความเครียดคั่งค้างออกไปจนหมดไส้หมดพุง

กระติกน้ำสีเขียวหม่นถูกยื่นให้จากชายใบ้เมื่อผมเอนหลังกับเบาะอย่างไร้เรี่ยวแรง

“ขอบคุณ” พูดแล้วมองกระบอกน้ำก่อนหมุนเปิดฝายกดื่ม ปรายตามองเจ้าของกระบอกน้ำและดูเหมือนเขาจะมีความรู้สึกไวต่อการถูกจ้องจึงหันหน้ามาจ้องผมตรง ๆ

“คุณกับผม เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ผมบอกเขาสู้สายตาไม่เกรงกลัวผู้ชายหน้าขาวคนนี้ “พอผ่านช่องเขาแล้ว คุณต้องล้างสีบนหน้าคุณออกแล้วเราจะได้สนทนากันอย่างเปิดเผย ผมไม่ชอบการเล่นละครตบตา”

เขาทำปากขมุบขมิบตามคำพูด ตีสีหน้าล้อเลียน แต่ผมไม่เอามาเป็นอารมณ์ปล่อยให้เขาสนุกกับการยั่วไป เพราะผมมีเรื่องอื่นที่ต้องคิดนั่นคือจะทำอย่างไรผมถึงจะผ่านด่านช่องเขาเข้าสู่รัฐอิระวดีก่อนพลบค่ำ

ผมมองตรงไปด้านหน้า ไกลสุดตานั้นคือประตูเข้าเมืองขนาดใหญ่ที่สร้างจากการระเบิดภูเขาเกิดเป็นช่องทางขนาดใหญ่กะประมาณระยะทางห่างไม่กี่ไมล์ การทำให้รถฉุกเฉินวิ่งฉลุยผ่านไปได้นั้น

มีแค่วิธีเดียว...

ป่อ ปี๊ ป่อ ปี๊ ป่อ ปี๊ ป่อ !!!

ได้ผล เสียงไซเรนดึงจิตสำนึกความมีน้ำใจบนท้องถนนออกมาจากก้นบึ้งนายใบ้ตะบึงเร่งเครื่องยนต์พาเอายานพาหนะสี่ล้อล้าสมัยกินน้ำมันวิ่งผ่านช่องว่างที่ยานพานะต้านแรงโน้มถ่วงใช้พลังงานแสงอาทิตย์เปิดทางให้ตรงดิ่งสู่ปากช่องเขาเพื่อเข้าสู่ด่านตรวจคนเข้าเมือง

ส่วนผม ก็กำลังดีดดิ้น ร้องโอดโอยให้เหมือนกับคนใกล้ตาย แต่ให้ตายเถอะนายใบ้จะช่วยทำให้การแสดงของผมดูเนียนขึ้นได้ถ้าเขาไม่หัวเราะตัวโยนขนาดนั้น

“เขาเป็นอะไร” นายด่านอิระวดีถามด้วยภาษาไทยะบุรี

“เอ็นอะอาย” นายใบ้ตอบ

“เป็น... เป็นไส้ติ่ง โอย สงสัยผมจะไส้ติ่งแตก” ผมรีบตอบเองทันทีก่อนที่เขาจะโพนทะนาอาชีพของผมจนเสียแผน

“พาเขาเข้าไปในเต็นท์แพทย์เคลื่อนที่นั่น” นายด่านบอก

นายใบ้ขับเคลื่อนรถช้า ๆผมจึงได้เห็นว่าด่านแห่งนี้ไม่ต่างกับด่านชายแดนที่ผมเคยไปเยือนนายทหารชั้นผู้น้อยวิ่งสวนไปมาส่งเสียงสื่อสารเป็นภาษาอิระวดี ชาวเมืองของอิระวดีตั้งแผงแบกะดินขายสินค้าผู้ลี้ภัยต่อแถวขอใบอนุญาตเข้าเมือง และเต็นท์บัญชาการหลายหลังตั้งเรียงกันเป็นแถวเป็นแนว

รถฉุกเฉินเข้าจอดสนิทหน้าเต็นท์ เจ้าหน้าที่ของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ต่างเชื้อชาติกรูเข้ามารับร่างผมการแสดงละครตบตายังต้องทำต่อเนื่อง โดยมีสายตาประชดจากนายใบ้ผู้นำทาง

‘เอ้นอะอร อบอา’

ผมอ่านปากเขาออก ให้ทำไงได้อย่างน้อยผมก็พาเราทั้งคู่ผ่านประตูก่อนฟ้ามืด มิเช่นนั้นแล้ว เราไม่รู้เลยว่าในมวลหมู่เหล่าเจ้าของรถรายานพานะข้างนอกนั้น มีใครเป็นมิตรและศัตรูบ้าง

หนึ่งในนั้นอาจเป็นพวกเดียวกับพวกที่ตามไล่ยิงผมก็เป็นได้

“ถอดเสื้อเขาออก”

เมื่อถูกหามเข้าสู่เต็นท์แพทย์ และได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นหลังจากที่ร่างผมถูกวางลงบนเตียงเพื่อความสมจริง ผมจึงยังคงร้องครวญครางต่อ ในหัวพลางคิดหาวิธีออกจากที่นี่ยังไงให้แนบเนียนครั้นจะอวดอ้างว่าเป็นคนจากสมาพันธ์คงถูกตำหนิแล้วอาจถูกฟ้องร้องข้อหาสร้างความตื่นตระหนกให้ประชนชน โทษหนักขั้นยึดใบประกอบวิชาชีพในฐานะที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ

เจ้าของเสียงนั้นเข้ามาปรากฏต่อสายตาเธอเป็นผู้หญิงร่างเล็กในชุดเสื้อคลุมสีเขียวคาดใบหน้าด้วยหน้ากากป้องกันเชื้อสีเดียวกัน

ผมสะดุ้งไหวเมื่อเธอใช้นิ้วเย็นกดลงบนท้อง เอ่ยถาม“เจ็บไหม”

“ไม่ครับ”

“ตรงนี้ล่ะ”

“ไม่ครับ”

“ตรงนี้”

“ไม่ครับ”

ครั้งนี้เธอชำเลืองมองผม แวบแรกที่ถูกมองด้วยสายตาคู่นั้น มันคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยพบที่ไหนมาก่อน

“นอนตะแคง” เธอสั่ง

ผมทำตาม แต่แล้วความเย็นวาบแค่ช่วงล่างก็เกิดขึ้นเมื่อเธอสั่งทีมแพทย์ของเธอว่า “ถอดกางเกงของเขาออก ฉันจะล้วงทวารกดลำไส้ใหญ่ ตรวจไส้ติ่ง”

วายป่วง ! ผมอุทานในใจรีบยึดขอบเกงด้วยความไวเพื่อปกป้องอนาธิปไตยของร่างกายช่วงล่าง“ผม... ผมว่าผมดีขึ้นแล้ว”

“ทำต่อไป” เธอสั่งด้วยภาษาไทยะฯ และทุกคนรอบเตียงก็ทำตาม ผมถูกตรึงแน่นด้วยแรงของบุรุษพยาบาลฉกรรจ์ตะขอและซิปถูกปลดออกอย่างชำนาญ ขอบกางเกงทั้งตัวนอกตัวในถูกรั้งลงจนผมมั่นใจว่าก้นขาว ๆถูกแพร่ภาพต่อหน้าสาธารณะชน

ส่วนเธอใส่ถุงมือสองข้าง ดวงตาขึงขัง เป้าหมายสายตาเธอจ้องมองเขม็งไปที่ตรงไหนผมพอจะอ่านสายตาของเธอออกหรอก แล้วก็ไม่ได้ภูมิใจอะไรกับมันนักหนาทว่าเธอไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องหรือเหิมเกริมนานนักเพราะเป้าหมายที่แท้จริงของเธออยู่อีกฟากหนึ่งต่างหาก

ความภาคภูมิของผมหดเหลือหางอึ่งเมื่อเธอเดินอ้อมเตียงไปด้านหลังผมกลั้นหายใจ ยามถูกมือเล็ก ๆ จับหมับที่แก้มก้น ขนลุกซู่เมื่อเธอแหวกรอยแยกออก

ผมกำลังจะสูญเสียเอกราชในวันนี้ แม้จะไม่ถึงตาย แต่ก็อายในหน้าที่สมาพันธ์ต้องเชิดชูเกียรติยศให้ผม แต่ได้โปรดอย่าระบุเหตุผลในโล่รางวัล

โครม !!!

เฮ !!!

เสียงอึกทึกดังที่ด้านนอก หยุดจังหวะการสอดปลายนิ้ว

“เกิดอะไรขึ้น ออกไปดูซิ!” เธอสั่งคนของเธอ ทำให้พวกเขาหลุดความสนใจจากผม

นี่เป็นโอกาสที่ผมจะได้ออกจากที่นี่เมื่อไม่มีมือของพวกนั้นคอยกดร่างผมไว้ ผมจึงผุดลุกนั่ง ลงจากเตียงดึงกางเกงขึ้นแล้วจากนั้น...

“คุณหมอ มีไอ้ใบ้ไทยะก่อความวุ่นวายข้างนอก อย่าออกไปนอกเต็นท์นะครับ !”

นายใบ้ !

ผมรีบผลุนผลันวิ่งออกไป ผ่านสายตาฉงนของคุณหมอสาว แล้วพบว่านายใบ้กำลังวางมวยกับนายทหารของอิระวดี

“หยุด หยุด” ผมรีบเข้าห้าม ไม่อยากเดือดร้อนว่าความคดีวิวาทที่อาจกลายเป็นพยายามฆ่าได้ทุกเมื่อแต่ดูเหมือนว่ามวยคู่นี้จะเป็นที่ถูกใจชาวอิระวดีและไทยะลี้ภัย เสียงโห่เชียร์คนของประเทศตนจึงดังกึกก้องไปทั่วสารทิศ

ปัง !

แต่ไม่ดังเท่าเสียงปืนลั่นที่ปล่อยลูกกระสุนพุ่งสู่ฟ้าเป็นสัญญาณบอกให้ทุกอย่างอยู่ในความสงบ

“มันผู้ใดบังอาจก่อเหตุวิวาทในแผ่นดินเจ้าอิระวดี มันผู้นั้นจะต้องเข้าพบเพื่อให้เจ้าอิระวดีไต่สวนความนำตัวพวกมันไป !”

อะไรมันจะง่ายขนาดนั้น ผมบอกตัวเองในใจ เห็นรอยยิ้มของนายใบ้ที่ส่งมาสื่อชัดเจนว่านั่นเป็นรอยยิ้มของเขาจริง ๆ !





ตอนที่ผ่านมา


ตอนที่ 1 ที่เธอถาม




 ...................................................................................


ตรงโจทย์จึ๋งเดียว

--"




Create Date : 02 สิงหาคม 2559
Last Update : 3 สิงหาคม 2559 19:44:13 น. 15 comments
Counter : 531 Pageviews.

 
อ่านไปลุ้นไปว่าจะถูกล้วงลำไส้ตรวจไส้ติ่งหรือเปล่า ^__^
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Food Blog ดู Blog
เจ้าการะเกด Food Blog ดู Blog
ออมอำพัน Literature Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog
สาวไกด์ใจซื่อ Food Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 3 สิงหาคม 2559 เวลา:11:40:29 น.  

 
เก่งจังค่ะ จากโจทย์ที่ได้ทำเป็นเรื่องราวอ่านสนุก


โดย: ออมอำพัน วันที่: 4 สิงหาคม 2559 เวลา:10:43:40 น.  

 
ติดที่เดียวกันกะผมป่าวววว
ติดด้วยกันนะ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 4 สิงหาคม 2559 เวลา:15:03:14 น.  

 
คิดแล้วว่าไม่ได้ล้วงแง๋แก๋ อิอิ

ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 4 สิงหาคม 2559 เวลา:20:17:23 น.  

 
อ่านไปอ่านมา อ้าว..ฝันกลางวันเหรอครับ 555

งั้นโหวต

ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 5 สิงหาคม 2559 เวลา:8:41:39 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog


โดย: เจ้าการะเกด วันที่: 6 สิงหาคม 2559 เวลา:15:15:43 น.  

 
สวัสดีค่า ^^
โอยยย อ่านแล้วก็ลุ้นอะ
บรรยายฉากบู๊เก่งจัง นุ่นทำไม่ได้ค่ะ
นี่ก็ลงเรียนของครูอี๊ด คุณชลบุรีลงนกฮูกสองใช่มั้ย
เห็นๆๆ เอาไว้ทักทายกันนะคะ

เข้าเรื่องต่อ อิอิ
อ่านแล้วหวาดเสียวแทนผมเลย
นึกว่าจะสูญเสียอธิปไตยซะละ
ดีนะมีเรื่องดึงความสนใจได้ก่อน
ยังอุตส่าห์มีรถติดด้วยยย 55
โยงได้ทุกตอน เก่งมากค่ะ
เอาไว้ค่อยมาใหม่นะคะ
ขอบคุณมากๆ ค่า



ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog




โดย: lovereason วันที่: 6 สิงหาคม 2559 เวลา:23:12:06 น.  

 
เกือบโดนล้วงซะแล้ว แหม่อีกนิดเดียวเอง

ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog
+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 สิงหาคม 2559 เวลา:21:13:39 น.  

 
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog

แวะมาส่งกำลังใจให้ยามเช้าค่ะ


โดย: kae+aoe วันที่: 8 สิงหาคม 2559 เวลา:9:06:45 น.  

 
สวัสดีค่า ^^
นุ่นอยู่นกฮูก 1 ค่ะ ส่งการบ้านครบหมดแล้วค่ะ
เพิ่งเห็นคุณบุ๋ม พอดีเห็นเฟซจำได้ค่ะแต่ยังไม่ได้แอดกันเลย
คิดว่าคงได้เจอกันบ่อยๆ นะคะ
เอาไว้ค่อยไปทักทายที่เฟซกันค่า
ดีใจได้ร่วมเป็นศิษย์ครูเดียวกันค่า



โดย: lovereason วันที่: 8 สิงหาคม 2559 เวลา:22:50:36 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เรียวรุ้ง Funniest Blog ดู Blog
mastana Literature Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ติดตามมาตลอดค่ะ เก่งจริงๆ เอาโจทย์ตะพาบมาเขียนได้เสมอเลย


โดย: Raizin Heart วันที่: 10 สิงหาคม 2559 เวลา:10:09:23 น.  

 
แตงเองก็เขียนนิยายแนวนี้ไม่ได้ แนวที่ออกแนวบู๊ๆ ไล่ล่า

รู้สึกชื่นชมค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Book Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog


โดย: comicclubs วันที่: 13 สิงหาคม 2559 เวลา:22:07:51 น.  

 





อ่าน ผ่านๆ ค่ะ ..

อ่านมาก ไม่ได้ ..

ริษยา ..

จริงๆนะคะ ..

เดา ไม่ถูก เลย ..

ว่า คุณบุ๋ม .. มาจาก ดาวดวงไหน ???




ฝีมือเขียน ถึงได้ ฉกาจฉกรรจ์ นัก ...








โดย: สมาชิกหมายเลข 3192593 วันที่: 14 สิงหาคม 2559 เวลา:14:46:21 น.  

 





ดีใจจัง ..

คุณบุ๋ม แวะไปเยี่ยม ที่บ้าน ..




ดีใจ .. มากค่ะ ..






โดย: สมาชิกหมายเลข 3192593 วันที่: 17 สิงหาคม 2559 เวลา:12:17:59 น.  

 
อิอิ แวะมาเที่ยวเมืองชลแหละ


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 19 สิงหาคม 2559 เวลา:14:17:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.