โจทย์ประจำหลักกิโลที่ 153 : พักร้อน
บล็อกนี้เป็นหนึ่งในงานตะพาบพิเศษของเจ้าของบล็อก
7. พักร้อน ท่ามกลางแดดเปรี้ยงยามบ่าย เราสามคนยังไม่ยุติการเจรจาลงง่ายๆ แดดจะร้อนแค่ไหนก็ไม่ร้อนเท่าใจของผม เพราะผมไม่อยากเดินทางต่อไปไหนทั้งสิ้นถ้ายังไม่พบตัวมิ่งถึงเห่าดงจะรับปากว่าเขาจะกลับมาช่วยนำตัวน้องสาวผมหลังจากที่เสร็จภารกิจแล้วก็ตามแต่ผมกับมิ่งเติบโตมาด้วยกัน มีแค่กันและกัน ผมเป็นพี่ และมีน้องสาวสายเลือดเดียวกันแค่คนเดียวในโลกผมก็จะต้องมีมิ่งอยู่ด้วยเสมอไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ กูจะไปเอาน้องสาวกูคืนเอง แล้วกูจะตามมึงไป กูสัญญา ผมยืนยันเสียงแข็ง เขาพ่นลมหายใจอย่างหน่ายๆ คงระอาที่ผมไม่ยอมทำตามความต้องการ เห่าดงหันไปทางซุนราวกับจะขอเสียงสนับสนุนผมเองก็อยากได้เสียงนั้นมาเป็นของผมเช่นกันแต่ผมไม่คาดหวัง ฉันจะไปกับเขาเอง พี่เห่าล่วงหน้าไปก่อน ขืนฝืนให้เขาไปแบบนี้รังแต่จะทำให้ภารกิจของเราล่าช้าเสียมากกว่า ขอบคุณสวรรค์ที่ยังมีคนเข้าใจหัวจิตหัวใจของผม นี่เธอจะช่วยฉันจริงๆหรือ ใช่ เพราะหากคุณไปดุ่มๆ คนเดียว ไม่ดูที่ดูทาง ฉันบอกได้เลยว่า นอกจากคุณจะไม่ได้น้องสาวคุณคืนแล้วทั้งคุณและน้องสาวก็อาจจะจบชีวิตที่นั่นเลยก็เป็นได้ พวกต้นน้ำมีผู้นำที่เหี้ยมโหดและมันไม่ฟังคำร้องขอใดๆ ของใครทั้งนั้น ใครขัดคำสั่ง หรือมีท่าทีต่อต้านก็จะถูกกำจัดทันที เธอบอกผมด้วยสีหน้าจริงๆจังยิ่งกว่าตอนที่เธอถลกหนังงูเห่าเสียอีกแต่ที่เธอพูดออกจะดูถูกผมไปหน่อย ฉันไม่เซ่อซ่าขนาดนั้นหรอกอย่าลืมว่าฉันเป็นทหารผู้ส่งสารในหน่วยข่าวกรอง พอรู้ว่าจะต้องทำยังไง แล้วก็อย่าลืมที่มึงสัญญากับกูด้วยล่ะไอ้มั่นเห่าดงเตือนสติเรื่องปมด้อยของผมทันที ได้ตัวน้องสาวมึงแล้ว ต้องตามกูไปทันทีหากว่าในสามวันนี้ กูไม่เห็นเงามึง ก็จะไปลากคอมึงมาแน่นอน พี่เห่าอย่าห่วงไป เมื่อได้ตัวมิ่งคืนมาแล้วฉันจะพาตัวนายมั่นตามพี่ไปแน่นอน ในป่าค่ำคืนนี้ช่างเงียบสงัดเกินกว่าจะเป็นป่า คงเป็นเพราะเสียงในหัวของผมดังกว่าเสียงอื่นกระมัง ผมจึงไม่ได้ยินเสียงหริ่งหรีดเรไรเสียงไหวของยอดไม้ หรือเสียงใดๆ ของธรรมชาติ ไม่รู้ทำไมผมถึงต้องกอดกระเป๋าแน่นแนบอกให้ตัวเองสัมผัสความแข็งของวัตถุภายในเตือนความตั้งใจเตือนความคิดของตัวผมเองว่าต้องรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับนักข่าวสาวคนนั้นผมจะเก็บความลับนี้ไว้ ไว้จนกว่ามันจะถึงคราวเปิดเผยด้วยตัวมันเองหวังว่าทนายคนนั้นจะไม่โกรธผมหากเขาไม่พบผมที่บ้าน เพราะผมตั้งใจจะไปพบเขาในวันขึ้นศาลและจนกว่าจะถึงวันนั้นผมต้องรักษาชีวิตตัวเองให้รอดเหมือนกับที่ผมเคยทำมา พอถึงชุมชนต้นน้ำ ฉันจะเป็นคนขอไปเจรจากับผู้นำของมันส่วนคุณก็เงียบปากไว้ ห้ามพูด ห้ามสบตากับใคร หรือทำอะไรก็ตามที่ฉันไม่ได้สั่ง ซุนสั่งขณะหาของบางอย่างในย่ามสะพายของเธอโดยไม่มองหน้าคนฟัง รู้แล้วน่า ผมบอกเธอแบบเคืองๆ พวกมันตั้งใจที่จงใจทิ้งร่อยรอยตัวอักษรรามัญโบราณให้เรารู้คนทำเป็นใครพวกมันต้องการให้ฉันไปหามัน มันต้องการตัวฉัน แต่ไม่ได้ต้องการทำร้ายมิ่ง แต่เธอรู้ไหมว่าพวกมันต้องการอะไรจากฉันหรือว่ามันต้องการแก้แค้นที่เห่าดงฆ่าคนของพวกมัน ก็อาจจะใช่ คนที่พี่เห่าฆ่าเป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มของชุมชนต้นน้ำก็ถือว่าเป็นคนสำคัญของพวกมันคนหนึ่ง และมันคงจะใช้น้องสาวของคุณล่อพี่เห่าให้เข้าไปถิ่นมันซุนอธิบาย แต่เธอบอกให้เห่าดงล่วงหน้าไปก่อน แสดงว่าเธอมั่นใจว่าเธอคิดถูกสินะผมถามกลับทันที เธอคงเป็นห่วงเขามาก พี่เห่าคือเจ้าชีวิตของฉัน ซุนตอบแค่นั้นแล้วล้มหัวลงนอนกับกระเป๋าของตัวเอง ให้มันได้อย่างนี้สิ เกิดมาก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองมีต่อมอยากรู้เรื่องชาวบ้านสมองเลยไม่สั่งให้เก็บปากไว้ เธอกับเห่า... ไม่ได้เป็นผัวเมียกัน เธอตะแคงหันมาตอบผมพร้อมรอยยิ้มซึ่งไมมีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ยิ้มกลับใช่ไหม แต่ฉันกำลังพยายามทำให้เป็น แต่มีเหตุผลพอที่จะทำให้ผมหุบยิ้ม พอรู้สึกว่าหน้าชาได้ที่ต่อมอยากรู้จึงไร้ปฏิกิริยาตอบสนองเธอคงทำสำเร็จเข้าสักวัน หรือถ้าไม่ เห่าดงก็อาจเป็นผู้ชายใจด้านที่สุดในคาบสมุทรผมล้มตัวลง ใช้กระเป๋าหนุนเป็นหมอน มองผ่านยอดไม้เลยไปยังฟ้าสีเทาคราม ได้กลิ่นความชื้นของดินลอยเข้าจมูกฝนคงจะตกในเร็ววัน ฝนที่เป็นน้ำจากสวรรค์ประทานให้คนยากไร้ไพร่แผ่นดินที่ยังชีพด้วยการเพาะปลูก หลักจากสงครามยุติ... ผมเปรยคำพูดออกไปไม่ได้หวังว่าคู่สนทนาจะฟังผมอยู่ไม่ ฉันก็คิดว่าคิดว่ามันหมดหน้าที่ของฉันแล้ว และจะได้พักกับเขาบ้างอยากกลับบ้านไปไหว้พ่อไหว้แม่ อยากไปพักร้อนใช้ชีวิตที่เงียบสงบตาประสาพลเมืองสามัญบ้าง ทหารอย่างคุณมีพักร้อนกับเขาด้วยหรือ เสียงซุนตอบโต้บทสนทนาให้ผมอุ่นใจว่าไม่ได้พูดอยู่คนเดียว ไม่มีพักร้อนแต่ก็มีพักรบ ผมหันตะแคงข้างไปทางเธอเห็นดวงตากลมวาวสะท้องแสงเพลิงดูสวยงามดึงดูดให้จ้องมอง เรากับอีกฝ่ายจะทำการตกลงวันพักรบกันแม้จะอยู่ในระหว่างสงคราม จริงสิ พี่เห่าไม่เคยเล่าให้ฉันฟังนี้เลย ผมยิ้มชื่นชมดวงตากลมโตสุกสกาวยิ่งขึ้นยามประหลาดใจ จริงสิ พวกเราจะไม่รบกันถ้าในวันนั้นมีการยิงพลุบอกสัญญาณพักรบ แล้ววันไหนบ้างที่เขาจะพักรบเพราะอะไรบ้าง เธออาจรู้เรื่องของถิ่นกันดารนี้ เธออาจเชี่ยวชาญการจับงูแต่เธอดูไร้เดียงมากในเรื่องสงคราม ก็ใช่สินะ คงไม่มีใครอยากรู้เรื่องสงครามนักหรอกมันโหดร้ายและทรมานจนไม่อยากจดจำ แต่ถ้าเธออยากรู้ ผมจะบอกเธอ วันที่เราพักรบคือวันที่เรา...จัดงานศพนายทหารที่ตายในสงคราม ผมรู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไรที่ได้ยิน เพราะดวงตาใคร่รู้ของซุนเปลี่ยนเป็นหม่นเศร้า วันที่พวกเราพักรบก็คือวันที่นายทหารคนนั้นพักร้อน... นั่นเองพักจากความร้อนของสงคราม ความขัดแย้งทางความคิด สักวัน...ผมคงจะได้พักร้อนในแบบนั้นบ้าง แต่ขอได้สัมผัสลิ้มลองรสแห่งสันติสักครั้งก่อนพักร้อนไปตลอดกาล
ตอนที่ผ่านมา ตอนที่ 1 ที่เธอถาม
Create Date : 28 เมษายน 2559 |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2559 20:26:01 น. |
|
11 comments
|
Counter : 639 Pageviews. |
|
|