โจมตี
โจมตี
ร่างสูงใหญ่ของชายผิวกร้านแดดยืนผงาดนำหน้ารายล้อมด้วยบริวารรูปร่างไม่ห่างกันกับผู้นำของพวกเขา นับพลได้ร่วมราวยี่สิบนายที่เห็นได้ด้วยตาไม่หมายรวมถึงหลายสิบหรือหลายร้อยนายที่อาจซุกซ่อนพลางกายหลังม่านหนาของต้นหญ้าคาแห้งสีทองรอบทิศ จะเป็นสลัดบกหรือสลัดทะเลโจรก็คือโจร ซึ่งพวกเขาก็ไม่เคยทิ้งแบบแผนการต่อสู้ที่มีมาช้านาน ผมคิดเอาเองให้หวั่นวิตกว่าหากเกิดการต่อสู่กันแล้วผู้ที่มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำจนแพ้พ่ายนั้นน่าจะเป็นฝ่ายทหารรักษาพระองค์ของเจ้าอิระวดี องค์เหนือหัวแห่งอิระวดีฝ่ายสลัดบกเป็นผู้ส่งเสียงก่อน ขอพระองค์อย่าได้ทรงหวั่นเกรงข้าและพวกพ้องน้องข้ามารอพระองค์ตามพระราชสารแล้วทรงเผยพระพักตร์ออกมาให้พวกเราได้ชมบารมีเถิด องค์เหนือหัวทรงพระประชวรข้าไม่อาจให้พระองค์ต้องแสงอาทิตย์ ด้วยเกรงว่าจะมีพระปรอทสูง องค์รักษ์ผู้หาญกล้านายหนึ่งกระตุกเชือกบังคับม้าให้เคลื่อนตัวออกมาจากป้อมปราการชุดเกราะแล้วตอบโต้วาจาแทนองค์เหนือหัวของตนความองอาจผึ่งผายบนหลังอาชาไนยทำให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ทันทีว่าเขาเป็นผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์ทั้งหมด เราจะใช้ทุ่งกว้างแห่งนี้เป็นห้องหารือกันหรืออย่างไร ผู้นำสลัดบกแยกยิ้มเห็นฟันซี่ดำอันเป็นผลจากการกินลูกหมากตามวัฒนธรรมดั้งเดิมขึ้นอยู่กับเรื่องที่องค์เหนือหัวจะทรงเจรจากับพวกเรานั้นมีระดับความลับแค่ไหน ที่ผมเคยได้ยินจากคำเล่าขานของกองทหารประจำการภูมิภาคตะวันออกว่ายังมีชนเผ่าไร้แผ่นดินที่ลักลอบเข้ามาอยู่กินอาศัยในเขตแดนแห่งไทยะบุรีนั้นเป็นเผ่าเถื่อนทระนงแตกต่างกับชุมชนทางป้อมปตะวันตก และป้อมทางเหนือ ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดและไม่เคยเรียกร้องอะไรจากรัฐไทยะบุรี แม้จะมีที่ตั้งในแผนที่ภายใต้เส้นแบ่งดินแดนก็ตาม อาจคล้ายกับกรณีนายเพ็งที่ยอมก้มหัวให้รัฐไทยะบุรีในอดีตกาลเพื่อให้แผ่นดินที่เชื่อว่ากำเนิดจากพระสุริยาได้มีเนื้อที่แผ่ขยายออกไปไพศาลดั่งรัศมีของดวงอาทิตย์ ดวงอาทิตย์ที่ควรปกป้องรักษาให้ความอบอุ่นแต่กลับกลายเป็นการยึดครองเผาทำลาย ริดรอนสิทธิเสรีภาพของคนต่างเชื้อชาติหรือแม้แต่คนต่างความคิด โปรดพาเราไปยังสถานที่ของท่านองค์รักษ์เอ่ยเสียงหนักแน่น ลงจากม้าแล้วเดินเท้าไปกับพวกข้า คำพูดของผู้นำโจรทำให้องค์รักษ์หนุ่มลอบมองผ่านหน้ากากเหล็กด้วยสายตากังขาไม่เว้นแม้แต่ผมที่ไม่ใคร่อยากทิ้งพาหนะมีชีวิตอันเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางหรือยามรบผมรู้ดีว่าความรู้สึกในใจของทหารบนหลังม้าคงคล้ายกับเวลาที่พวกผมถูกบังคับให้ลงจากยานเกราะเพื่อเดินเท้าเข้าสู่อาณาเขตของศัตรู ที่ของพวกเรานั้นม้าไม่สามารถเข้าไปได้ หากท่านฝืนและอยากจะทรมานสัตว์ของท่าน ข้าก็จะไม่ขัด พวกเราก็ไม่สามารถทิ้งม้าของพวกเราไว้กลางทุ่งหญ้าแห้งแล้งเช่นกันองค์รักษ์แย้ง คนของข้าจะดูแลม้าของท่านเป็นอย่างดีแล้วท่านจะพบม้าของท่านที่ปลายทางออกเมื่อเราทำการเจรจาเสร็จสมบูรณ์ องค์รักษ์นายนั้นส่งสัญญาณทางสายตาให้กับนายทหารผู้ยืนอยู่เคียงข้างคงเป็นการสั่งการให้เข้าไปรายงานเจ้าอิระวดีและขอพระราชทานคำตัดสินพระทัยและในไม่กี่วินาที สารจากเจ้าอิระวดีก็ถูกนำส่งถึงหูองค์รักษ์โดยปากของผู้ส่งสาร มานา โอริโร่ ! สิ้นเสียงสั่งการของหัวหน้าองค์รักษ์ นายทหารผู้ควบอาชาไนยทั้งหมดต่างลงจากม้าศึกของพวกตนโดยฉับพลันแน่นอนว่า ในใจของผู้ทำหน้าปกป้ององค์ราชันย์นั้นยังมีความหวั่นเกรงแต่ด้วยพระราชดำรัสที่ต้องปฏิบัติตามโดยไม่อาจฝืน เมื่อไม่สามารถนำพาหนะมีชีวิตไปด้วยได้พระราชพาหนะของเจ้าอิระวดีก็เช่นกัน พระราชเกี้ยวถูกวางลงอย่างนุ่มนวลม่านบังตาที่เป็นผ้าผืนหนาปักลายตามวันฒธรรมแห่งลุ่มน้ำตะวันตกถูกแง้มออกด้วยมือผอมบางในที่สุดผมก็ได้เห็นใบหน้าน้องสาวหลังจากที่ไม่ได้เห็นนับตั้งแต่ออกเดินทางพ้นประตูทางเข้าโอเอซิส มิ่งก้าวขาออกจากพระราชเกี้ยวก่อนแล้วจึงตามมาด้วยองค์ราชันย์ที่ไม่ได้ทรงเครื่องพระอิสริยยศใด ๆแต่สวมใส่เครื่องแบบเหมือนกับทหารของตนเจ้าอิรวะดีที่ผมไม่เคยได้พบเห็นนั้นผิดกับผมเคยวาดไว้ในหัวลิบลับด้วยการวางท่าทีนิ่งเฉย แต่มีใบหน้าอิ่มละไม ขออภัยที่ทำให้ท่านรอแล้วยังทำให้เสียเวลานานโปรดนำพวกเราไปยังสถานที่ท่านโดยเร็วเถิด เรายังมีอาการป่วยหลงเหลือเล็กน้อยไม่อาจทนต่อแสงแดดร้อนแรงเป็นเวลานานได้ วจีของผู้เป็นใหญ่จากแผ่นดินอื่นที่มีต่อกลุ่มชนเร่ร่อนช่างนอบน้อมจนไม่อาจแสดงอาการขึงขังตึงตังใส่แต่แววตากล้าแกร่งของผู้นำสลัดบกก็ไม่ได้ฉายความหวั่นเกรงออกมา ข้าจะนำทางพระองค์ไปก็ต่อเมื่อพระองค์สั่งคนของพระองค์ทิ้งอาวุธไว้ที่นี่ทั้งหมดเสียก่อน เรามีอาวุธพร้อมมือแต่เราไม่ได้มาเพื่อสู้รบปรบมือแต่มาเพื่อเจรจา เจ้าอิระวดีรับสั่ง อาวุธจะไม่ถูกนำมาประหัตถ์ประหารชีวิตหากใจไม่สั่งการแต่ข้าจำต้องให้ท่านทิ้งอาวุธไว้ที่นี่เป็นเพียงการปกป้องความปลอดภัยอันมีต่อลูกหลานของโจรจากโพ้นทะเลและแสดงความบริสุทธิ์ใจที่แท้จริงว่าพระองค์เองก็ไม่ได้มาเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเรา คำขอแรกคือทิ้งม้าคำขอที่ตามมาคือทิ้งอาวุธ เสียงคำรามในลำคอของหัวหน้าองค์รักษ์ดังใกล้หูของผมแต่ก็มิอาจทำอะไรได้หากไม่มีคำสั่งจากเจ้าของตน ให้พวกกระผมคอยเฝ้าม้าศึกและอาวุธของท่านที่นี่เถิดเพราะกระผมและสหายเป็นแค่ผู้ติดตามขบวนของเจ้าเท่านั้น ไม่ใช้ทหารองค์รักษ์และก็อยากที่เข้าไปรับรู้เรื่องการเจรจาระหว่างพวกท่าน เห่าดงเอ่ยอาสากับองค์รักษ์ผมไม่รู้ว่าเห่าดงมีความคิดอะไรในใจถึงไม่อยากรู้เรื่องระหว่างอิระวดีและสลัดบกอย่างผมแต่เมื่อลอบสบตากับสหายร่วมรบ แม้จะไม่ได้ทำให้ล่วงรู้ความคิด ก็ต้องยอมไว้ใจและสิ่งหนึ่งที่พอจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจของสลัดบกว่าจะไม่เล่นกลลวงอะไรก็คือยอมให้ใครสักคนที่ไม่ใช่พวกตนอยู่ร่วมเป็นสักขีพยานของการเคลื่อนย้ายม้าศึกและอาวุธ ผู้นำสลัดบกแย้มยิ้มยกนิ้วชี้ตรงมาที่เห่าดง ข้าไม่ขัดข้อง หากจะให้ไอ้หนุ่มนั่นอยู่เป็นพยาน ! การเสนอตัวได้ผลตอบรับทันทีผมสบตากับน้องสาวเพียงแค่แวบเดียวก่อนที่เธอจะหันหลังเดินตามเจ้าอิระวดีไปในฐานะแพทย์ผู้ติดตามพระองค์ อย่างน้อยมึงก็มั่นใจเถอะว่า มิ่งจะปลอดภัยหากอยู่ใกล้เจ้าอิระวดีมากกว่าอยู่ใกล้พวกเรา เห่าดงพูดพร้อมกับตบบ่าของผมเป็นคำปลอบที่ทำให้เกิดความรู้สึกชั่วแวบหนึ่งในใจหัวใจของผมรู้สึกโหวงเหวงเคว้งคว้างประหลาดคล้ายกับถูกทิ้งให้อยู่เปล่าเปลี่ยวในห้วงอวกาศดำมืดภาพหลังของมิ่งที่กำลังเดินห่างออกไปคล้ายกับสัญญาภาพที่ผมเคยพบเคยสัมผัสครั้งใดครั้งหนึ่งมาก่อน พวกเราทหารปลดประจำการแห่งรัฐไทยะบุรีเดินย่ำเท้าไปบนทางเดินหินขรุขระที่เลียบไปกับกำแพงหินธรรมชาติภูเขาหินปูนลูกนี้คงถูกระเบิดเพื่อนำเอาดินไปก่อสร้างเขื่อนขนาดให้ทางตอนเหนือของไทยะบุรีและไกลออกไปราว ๆ สองสามเมตรด้านหน้าคือเหล่าชายเชื้อสายโจรแห่งน่านนที ในมือของพวกเขามือสายจูงม้าลำตัวใหญ่บึกบึนส่วนในมือของพวกผมคือคานไม้ใหญ่หนักอึ้งที่ให้หาบเกี้ยวพระที่นั่งขององค์เจ้าอิระวดี กูไม่คิดว่าสมัยนี้ยังมีที่ไหนใช้ม้าศึกกับเกี้ยวแทนรถทหารผมเปรยออกกับเห่าดงที่คงมองกลุ่มชายทมิฬข้างหน้าไม่วางตา อิระวดีปิดประเทศมานานแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่รู้จักวิทยาศาสตร์หรือวิวัฒนาการอะไรพวกเขามีกลุ่มผู้บริหารเก่งกาจมากมาย และมีราชาผู้ทรงพระปรีชาหลายต่อหลายพระองค์ เห่าดงตอบผมพลางเหลียวไปดูด้านหลังเมื่อได้ยินเสียงกระพือปีกดังของกลุ่มนกแร้งก่อนกลับมาเอ่ยประโยคต่อให้จบเราไม่เคยเห็นการจับศึกของพวกเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาล้าหลังไม่มีอาวุธยุทธโทปกรณ์ ผมนึกถึงภาพในหนังสือวิชาประวัติศาสตร์ที่เคยล่ำเรียนมาจำได้ลาง ๆ ว่ามีชนชาติหนึ่งทางแถบทวีปไกลโพ้นทำการศึกด้วยม้าเทียมเข้ากับรถแล้วต่อมาวิทยาศาสตร์ก็ก้าวไกลจนในอีกหลาย ๆประเทศที่วิวัฒนาการเครื่องมือต่อสู้ฆ่าล้างชีวิต ทว่าในอีกด้านที่มีไม่กี่ประเทศที่ใช้ประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ในการค้นคว้าวิธีบำบัดผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บให้รอดชีวิต โลกนี้ช่างมีการแบ่งแยกเกินไป ใคร ๆต่างมองกันแค่สีขาวหรือดำ ซ้ายหรือขวา สูงหรือต่ำ ร่ำรวยล้นฟ้าหรือจนยากไร้ข้าวประทังชีวิต กูได้กลิ่นไม่ดี คำพูดของเห่าดงดึงผมออกจากความคิดเพ้อพกสายตาของเขามีแววความโกรธเบาบางฉายอยู่ยามที่ส่ายตามองไปยังทุ่งหญ้าแห้ง อดีตทหารหน่วยซุ่มโจมตีเร่งฝีเท้าเข้าไปหาพวกสลัดบกอีกนานแค่ไหนจะถึงจุดหมายของพวกแก หนึ่งในนั้นมองเขาด้วยสายตาเหยียดแม้พื้นเพจะไม่ได้มาจากชนชาติอันมีอารยะธรรมสูงส่งแต่เพราะด้วยความเป็นมนุษย์ที่มักเห็นตัวตนสำคัญกว่าใคร เดินเลียบภูเขาหินนี่ไปอีกสามถึงสี่กิโลเมตรก็ถึงแหลมมหรรณพเขาตอบแล้วหันไปสื่อสารภาษาของชนชาติตนที่ผมจับใจความไม่ได้ก่อนหันมาพูดกับเห่าดงอีกครั้ง พวกแกเป็นคนไทยะ ฯ ทำไมถึงอยู่ในขบวนเดินทางของเจ้า ฯ กูเป็นคนนครา เห่าดงตอบเสียงเรียบแต่ผมเห็นแววตาของบางคนในกลุ่มสลักบกไหววูบวาบ แล้วฉับพลันปลายกระยอกปืนยาวอันเป็นหนึ่งในอาวุธของทหารรักษาพระองค์ก็จ่อเล็งมาที่พวกผม หรืออิระวดีกับนคราจะเล่นไม่ซื่อเรียกผู้นำของเราออกมาพบหวังขับไล่ไสส่งให้ไร้ที่อยู่ที่กินเช่นเดียวกับที่ทำกับบรรพบุรุษของเรา! เฮ้พวกมึงคิดให้ดีก่อนที่จะลั่นกระสุน เห่าดงยกสองมือขึ้นเอ่ยพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในแบบที่เขาเป็น ถ้าลูกปืนของพวกองค์รักษ์หายไปแม้นัดเดียวกูว่าพวกมึงนั่นล่ะที่จะจุดชนวนไฟที่มอดไปแล้วให้ลุกโหมอีกครั้ง ผมยึดกระเป๋าผ้าใบแน่นมากขึ้นเหลียวมองรอบตัวอย่างไม่ไว้ใจ การสนทนาตรงนั้นไม่ได้ทำให้ผมวิตกเท่าการความเคลื่อนไหวบางอย่างเพราะการก้องสะท้อนของเสียงกับกำแพงภูเขาหินหรือเพราะลมร้อนเจือกลิ่นเค็มจางที่พัดแผ่วฝูงนกทุ่งตัวเล็กจ้อยจึงบินฮือออกจากที่ซ่อนตามทุ่ง และไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น ยังบางคนในกลุ่มสลัดบกเองก็รู้สึก ไม่ทันแล้ว นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายของเห่าดงก่อนที่จะมีหินก้อนใหญ่มากมายกลิ้งไหลลงจากทางลาดของภูเขาเป็นสิ่งจำใจของคนไม่อยากตาย ต่างปล่อยภาระหน้าที่หาที่หลบกันพลันวันน่าสงสารม้าศึกลักษณะดีหลายตัวที่ไม่รู้จักการเอาตัวรอดเหมือนคนเกี้ยวพระที่นั่งที่ไม่อยู่ในความรับผิดชอบของผมก็ถูกหินขนาดเท่าตัวคนหล่นทับจนแตกหักจะมีก็คงเป็นอาวุธของทหารองค์รักษ์บางชิ้นที่รอดพ้นการถูกถล่มทับของหินจากภูเขา เปรี้ยง!!! อ๊าก! ร่างของมนุษย์ตกลงมาจากชะง่อนผาเบื้องบนกระแทกกับความแข็งของพื้นดินเต็มแรงเจ้าของร่างนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงวิญญาณที่หลุดลอยจากคงมีเหตุมาจากกระดูกคอหักมากกว่ากระสุนที่เจาะทะลุลำตัว แต่ความน่าสยดสยองของความตายไม่ได้ทำให้ผมพรั่นพรึงได้หากแต่ผู้ตายนั้นไม่ควรจะเป็น... ทหารไทยะบุรี เห่าดงพูดกัดฟันกรอดเขาคว้าคอเสื้อของผมแล้วเหวี่ยงผมลอยละลิ่วเข้าซอกกำแพงผาหินจากนั้นจึงวิ่งฝ่าการสาดกระสุนจากยอดผาสูงตรงตามมาอย่างรวดเร็วนอกจากเห่าดงและผมที่ใช้การแนบลำตัวหลบวิถีลูกปืนก็ยังมีพวกสลัดที่รอดชีวิตร่วมใช้แนวกำแพงหินด้วยเช่นกัน มึงเป็นคนไทยะ มึงออกไปตะโกนบอกพวกมันให้หยุด ! หนึ่งในสลัดบกส่งเสียงสั่ง เพราะมันไม่รู้ว่าที่กำลังถูกถูกสาดยิงอยู่นี้อาจเป็นเพราะตามไล่ล่าตัวผมนี้เองออกไปก็เท่ากับเป็นเป้านิ่ง แต่ยืนหลบนิ่งตรงนี้ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะรอดจากความตาย เปรี้ยง! ตุ้บ! หนึ่งนัดเท่ากับหนึ่งชีวิตทหารไทยะบุรีที่ร่วงหล่นมานอนตาเหลือกช่างคุ้นหน้าเสียจริงเราคงเคยร่วมรบจับทัพออกศึกที่ด่านไหนกันมาสักด่าน ระยำเอ๊ย ลูกปืนหมด ! เห่าดงผู้ส่งมอบความตายให้ทหารร่วมชาติสบถด่า เขาแหงนมองเหนือหัวพยายามนับจำนวนกำลังพล คงกำลังใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะสู้รบปรบมือกับกองทัพไทยะบุรีอย่างไร ไอ้เลวเดโช กัดพวกกูไม่เลิก ! การลั่นคำของหนึ่งในสลัดบกทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ว่าไทยะบุรีก็อาจกำลังใช้วกำลังบีบบังคับชนชาติอื่นเพื่อขยายอำนาจคล้ายกับการล่าอาณานิคมอย่างไรอย่างนั้นและคำถามหนึ่งจึงโดดเด่นเข้ามาในความคิดหรือว่าเจ้าอิระวิดีก็กำลังทำเช่นเดียวกัน แต่อาจมาในรูปแบบสันติวิธี แล้วพวกเขาจะล่าอำนาจกันเพื่อเหตุใดไทยะบุรีเพิ่งผ่านการสงบศึกกับเมแกนและใกล้จะได้เซ็นสัญญารวมชาติหากไม่มีการจลาจลต่อต้านจากกองพลของนายพลอัศวินนั้นควรจะหยุดพักเพื่อฟื้นบำรุงประเทศที่ผ่านความบอบช้ำแต่นี่ยังย่ำแย่ไม่มากพอหรือ ทรัพยากรที่เคยอุดมก็ร่อยหรอเพราะถูกนำไปใช้ในการทหาร นโยบายพัฒนารัฐของนายพันเดโชกำลังกลายเป็นกลลวงเสรีภาพมันคงไกลเกินมือคนธรรมดาสามัญจะได้สัมผัส กูอยากจับเป็นไอ้ทหารไร้สามัญสำนึกเห่าดงว่าแล้วหันขวับมาทางผม ไอ้มั่น มึงรักษาชีวิตมึงให้รอดตรงนี้ก่อน เห่าดงใช้ความชำนาญในการเคลื่อนไหวเคลื่อนกายเลียบไปตามกำแพงผา ท่ามกลางเสียงปืนและเสียงร้องครวญครางของผู้บาดเจ็บไม่คนข้างบนก็ของคนด้านล่าง พวกสลัดบกบ้างก็ใช้ศพม้าศึกเป็นที่กำบังบ้างก็ซุกตัวคุดคู้ใต้ชะง่อนหิน ผมย่อตัวก้มเก็บปืนสั้นด้านสีเงินสลักลายวิจิตร เดาไม่ยากว่าต้องเป็นของทหารองค์รักษ์คนใดคนหนึ่งหวังว่าอานุภาพของมันคงจะมีมากพอ ๆ กับความสวยของมัน เปรี้ยง ! ผมลั่นไกปล่อยกระสุนสอยหนึ่งในเหล่ากองทัพที่เคยเกรียงไกรในอดีต แปลกที่ผมไม่รู้สึกว่าเป็นพวกเป็นพ้องแปลกที่ผมกลับสะใจที่ได้ปลิดชีพของชนชาติเดียวกันผมโทษสิ่งที่อยู่กระเป๋าผ้าใบในอ้อมกอดเหนียวเป็นตัวส่งพลังให้ผมอยากอยู่รอดอยู่ให้รอดถึงวันที่ความจริงเปิดเผย ความลับที่ซ่อนอยู่ในเทปบันทึกเสียงของนักข่าวสาวคนนั้นอาจทำให้ใครหลายคนหมดศรัทธาในตัวคน ผมแหงนมองไปทางชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำป่ายปืนขึ้นหน้าผาอย่างไม่ลดละเขาผู้นั้นอาจเป็นหนึ่งในคนที่น่าเวทนาที่สุดหากรู้ว่าคนที่เขารักยิ่งกว่าตัวเองมีส่วนพัวพันกับการตายของผู้บริสุทธิ์มากมาย และไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสงครามกลางเมืองมันผู้จะต้องก้มกราบผู้ตายที่สังเวยชีวิตแด่คำว่าเสรีภาพ ณ จัตุรัสเสรีชัย ปังปัง ปัง ปัง !!! ทุกครั้งที่ลั่นไกปืน คือหนึ่งร่างของทหารกล้าร่วงหล่นจากผาดั่งใบไม้แห้งโดยผู้เด็ดใบนั้นคืออดีตทหารชาติเดียวกันเอง ทำไมผมต้องหมายเอาชีวิตพวกเขานั่นคงเป็นเพราะพวกเขาก็คงหมายเอาชีวิตของผมเช่นกัน มือหนึ่งลั่นไกปล่อยกระสุนมือหนึ่งก็ต้องยึดเอาสิ่งที่ต้องรักษาไว้มั่น หากผมยอมแพ้และปล่อยมันไปแม้ชีวิตผมจะหลุดลอยหาย แต่ก็คงมีหลายคนได้ผลกระทบ ผมไม่ได้เป็นฮีโร่ และไม่เคยคิดอยากเป็นเลยแต่ผมเป็นผู้ส่งสาร ภารกิจหน้าที่มันค้ำคอ ถ้าจะตายก็ขอให้ตายเพราะทำภารกิจสำเร็จ ซึ่งก่อนที่จะมองไปถึงอนาคตผมจะต้องรอดพ้นสงครามฆ่าฟันขนาดย่อมนี้ไปให้ได้ก่อน แต่ดูเหมือนว่าห่ากระสุนที่สาดซัดใส่กันนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง ลำพังแค่ปกป้องชีวิตตนจากการโจมตีด้านบนก็แย่พอแล้วผมยังต้องปกป้องที่กำบังตัวจากพวกสะบัดบกที่คอยจะเข้ามายื้อแย่งกระเทียมหัวเดียวลีบ ๆ อย่างผมจึงต้องพบศึกสองด้านอย่างช่วยไม่ได้แต่ในการศึกสงคราม ยุทธวิธีที่จะทำให้เหนือศัตรูนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาวุธยุทโธปกรณ์แต่ปัญญาและความสามัคคีต่างหากที่จะนำพาชัยชนะมาสู่พวกตน แต่หนไหนแต่ไรมา ไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปการพัฒนาศักยภาพทางอาวุธกลับกลายเป็นสิ่งสำคัญในหมู่ผู้เจริญทางวัตถุแต่ถ้าหากลองตรึกตรองดูให้ดีเหตุใดจักรวรรดิที่เคยรุ่งโรจน์ในอดีตอย่างไทยะบุรีหรือแม้แต่เมแกนที่มากพร้อมด้วยความเจริญทางเทคโนโลยีจึงล่มสลายแต่อิระวดี หรือนครนครายังคงสืบอยู่อย่างมั่นคง ผมแหงนมองหาคำตอบที่กำลังไต่คืบระห่ำท้าทายแรงโน้มถ่วง เห่าดงผู้มีเชื้อสายนครนคราไม่ได้ต่อสู้เพื่อให้ตัวเองรอดชีวิตและเจ้าอิระวดีก็ไม่ได้มาเยือนไทยะบุรีเพื่อต่อชีวิต เพื่อให้คนอื่นรอดชีวิตต่างหากคือสิ่งที่ทั้งสองคิดและทำ การรักที่จะให้ผู้อื่นมีชีวิตอยู่ต่อไปจะเป็นความหมายใหม่ของการต่อสู้ แล้วผมจะห่วงชีวิตตัวเองไปเพื่ออะไร เปรี้ยง ! ผมปล่อยลูกกระสุนออกจากกระบอกปกป้องชีวิตของเห่าดงจากการโจมตีด้านบนพวกพ้องของผม แต่... พลั่ก! ผมจำต้องถีบส่งคนของสลัดบกที่จะเข้ามายื้อแย่งที่มั่นใต้ชะง่อนหินแห่งนี้ที่เป็นสิ่งปกปักรักษาชีวิตเพราะถ้าผมตาย ก็ไม่มีใครปกป้องเขา ทุกอย่างดำเนินไปเสียงปืนและเสียงครวญครางยังดังต่อเนื่องสายเลือดกระเซ็นสาดระเหยหายไปกับไอร้อนของแดดอันแผนเผายาวนานราวกับผ่านไปชั่วกัลป์ห่าลูกกระสุนยังคงซัดสาดลงมาราวกับพายุชะล้างหน้าแผ่นดินยังผลให้ไม้รากอ่อนแอทั้งหลายโค่นล้มพังทลาย หยุดยิง! หากพระอินทร์เป็นผู้สั่งการสูงสุดของฝนฟ้าผู้สั่งการห่ากระสุนก็คงเป็นเห่าดง ผมแหงนมองออกไปเหนือผาเห็นหัวของทหารฝ่ายไทยะบุรียื่นโผล่ออกมาโดยมีร่างใหญ่ผงาดง้ำเบื้องบนในมือของเห่าดงคือไพ่ตายใบสุดท้ายที่ผมเคยใช้กับพวกชุมชนต้นน้ำเป็นบทพิสูจน์ทฤษฎีรักตัวกลัวตายทำให้กองทัพจากไทยะบุรียอมยกธง พวกสลัดบกคงยึดสุภาษิตโบราณยามศึกสงครามว่าเอาตัวรอดเป็นยอดดีพวกที่เหลือรอดชีวิตจึงไม่คิดหือหรือต่อต้านแถมยังช่วยผมกับเห่าดงจับทหารไทยะบุรีตรึงไว้รวมกัน ไอ้ผยองให้พวกมึงตามหาตัวกูอยู่ใช่ไหม กูไม่ได้ถูกสั่งมาให้ตอบคำถาม เห่าดงย่อเข้าใช้ปลายมีดเชยคางเชลยแยกเขี้ยวแหลมถาม แล้วพวกมึงคงไม่ได้ถูกสั่งมาให้ตายด้วยใช่ไหมมึงถึงสั่งหยุดยิงเพราะกลัวตัวกระจุย การไม่ตอบก็เหมือนกับเป็นการยอมรับเหงื่อของทหารเชื้อชาติเดียวกันไหลผ่านหน้าผากแคบจรดสู่ปลายคางดวงตาคั่งแค้นเพ่งมองชายผู้เคยร่วมรบร่วมเป็นร่วมตายก่อนที่จะหลุบตาลงก้มมองรองเท้าหนังหนาเปื้อนขี้ดิน มึงจะเอายังไงกับพวกมัน หนึ่งในสลัดบกพูดด้วยน้ำเสียงโกรธเกี้ยวถึงจะคร่าชีวิตอีกฝ่ายได้หลายคน แต่พวกของตนก็ล้มตายไปด้วยเช่นกัน มัดพวกมันไว้ทิ้งอย่างนี้ เห่าดงบอกแล้วค้นหาอาวุธที่ยังติดตัว นี่มึงจะไม่เชือดมันทิ้งหรือไงมันฆ่าพวกกูตายไปหลาย เกิดคำทักท้วงทันใด แต่ก็ยังไม่ตายเพื่อนกูก็ยังไม่ตาย ถ้ามึงจะทำอะไรพวกมันก็เรื่องของมึงแต่กูว่ามึงมีเวลาไม่นานนัก ไม่รีบไปพบหัวหน้ามึงที่จุดนัด เพราะกูก็ไม่แน่ใจว่ายังมีไอ้พวกนี้ดักซุ่มรอฆ่าพวกพ้องมึงอย่างที่โดนอยู่นี่หรือเปล่า การเลือกระหว่างเสียเวลาในการฆ่าคนอื่นที่ในตอนนี้ไม่สามารถทำอันตรายกับตัวได้กับรีบไปช่วยเหลือพวกพ้องของตนดูจะเป็นการเลือกที่ไม่ต้องใช้ความคิดตรึกตรองแต่ผมไม่คาดคิดว่าสลักบกมีวิธีการอื่นที่ช่วยทุ่นแรงกว่านั้น กูไม่ปล่อยให้ไอ้ระยำพวกนี้ตามไปฆ่ากูและพวกกูให้เจ็บใจ! เปลวไฟถูกจุดด้วยหญ้าแห้งที่ปลายเท้าเชื้อเพลิงอย่างดีลุกลามเผาผลาญรายล้อมสร้างกรอบสังหารหมู่น่าสยดสยอง ผมมองเห่าดงหันหลังเดินจากไปโดยไม่หันมามองทำราวกับเสียงร้องโหยหวนนั้นเป็นเพียงเสียงของหริ่งหรีดเรไรที่ร้องระงมในยามตะวันรอนแต่ภายในอกนั้น ผมรู้ว่าเห่าดงรู้สึกอย่างไร เพื่อปกป้องพวกพ้องเพื่อปกป้องพวกพ้อง เพื่อปกป้องพวกพ้อง... ผมได้ยินเสียงตัวเองพูดพร่ำซ้ำไปซ้ำมาควบคู่ขนานไปกับเสียงแห่งความตาย อย่าอาลัยต่อเถ้าตะโกของอดีตเหล่านั้นแต่จงมุ่งมั่นไปให้ถึงเป้าหมาย คำกล่าวของนายพลอัศวินผู้ประกาศกร้าวว่าจะต่อสู่เพื่อเสรีภาพที่แท้จริงยังคงเป็นคำถามสำหรับผมว่าเราจะต้องเห็นความตายสักกี่ครั้งจึงจะได้มาเพื่อเป้าหมายของคำว่าเสรีภาพ
-----------------------------
Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2560 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2560 23:24:52 น. |
|
10 comments
|
Counter : 1268 Pageviews. |
|
|
เอ็นทรี่ที่แล้ว หมดไฟ ยังงงอยู่ว่าทำไมไม่เป็นเรื่องเห่าดงหว่า
อ่านจบก็ต้องแวบไปดูเป็ดสวรรค์ว่าโจทย์ตะพาบตอนใหม่มาแล้วหรือไงนะ
แต่โจทย์ตะพาบก็ยังไม่มา
แสดงว่าต่อไปนี้เรื่องราวของเห่าดงจะไม่ต้องไปผูกพันกับโจทย์ตะพาบแล้วใช่มั้ยคะ
อ่านไป...อ่านไป ก็ระลึกขึ้นได้ว่า บ้านนี้แต่งนิยาย สาดกระสุนกระจาย ฆ่ากันเลือดสาด ผิดกับบ้านอื่นที่เน้นรักหวานแหวว พ่อแง่แม่งอน บ้านนี้แหวกแนวจริงๆอะ
ชลบุรีมามี่คลับ Literature Blog