space
space
space
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
space
space
10 ตุลาคม 2551
space
space
space

ทำไมง่วงซึมหลังมื้อเที่ยง ?




ทำไมหลายๆ คนพอหลังอิ่มแปล้จากมื้อเที่ยงแล้วจะรู้สึกขี้เกียจ เซื่องซึม สลบไสล เฉื่อยชาไม่อยากทำงาน ถ้าได้หลับสักงีบคงดีเยี่ยม ว่ากันว่าช่วงเวลา Twilight zone ที่จะเกิดอาการเช่นนี้ คือช่วงเวลาบ่ายโมง- 4 โมงเย็น มาดูกันดีกว่าว่าอาการเหมือนตัวขี้เกียจเข้าสิงนั้นเป็นเพราะเหตุใด



คาร์โบไฮเดรต
สาเหตุแรกคือมื้อเที่ยงของคุณนั้นอุดมไปด้วยอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตปริมาสูงแต่กินโปรตีนต่ำ คือไม่ค่อยเน้นเนื้อสัตว์ หรือถั่ว ประเด็นนี้นักวิจัยจาก University of Sussex ในอังกฤษ ได้สังเกตการณ์นักเรียนที่มีประสบการณ์การกินมื้อเที่ยงอย่างเต็มคราบ หลังจากนั้นเขาจะมีอาการเหมือนกับอดนอนมา นักวิจัยเล่าว่าเป็นเพราะการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ นั้นทำให้เลือดส่วนใหญ่ระดมไหลมาที่กระเพาะอาหารเพราะต้องทำการย่อยอาหาร ปริมาณมากให้เสร็จสิ้น ทำให้เลือดไหลหมุนเวียนไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง จึงทำให้พลังงานโดยรวมลดลง โดยเฉพาะในส่วนสมองจึงทำให้รู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชา



งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงและโปรตีนต่ำ ยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าทำให้มีการหลั่งสารเคมีในสมองที่มีความสัมพันธ์กับความ ง่วงนอนออกมามากด้วย เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสมองที่สัมพันธ์กับการนอนหลับ



เมื่อเร็วๆ นี้นักวิทยาศาสตร์ของ Food and Nutrition Research Institute ในมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ให้ความสนใจเจาะจงลงไปในเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดว่ามีผลเกี่ยวพันกับ อาหารที่กินเข้าไปซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงหรือเฉื่อยชา หลังการกินอาหาร ซึ่งพบว่าข้าวก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มและลดระดับน้ำตาลในเลือด ได้อย่างรวดเร็วด้วย



แต่อาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ค่อนข้างต่ำ คืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน รวมทั้งผัก ขนมปังธัญพืช ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ซึ่งพบว่าอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำนี้กลับจะให้พลังงานแก่ร่างกาย ได้ในระยะยาว คุณจะมีพลังงานที่มีประสิทธิภาพอยู่ไปได้ทั้งวัน นักวิชาการยังได้แนะนำอีกว่าการกินอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและมี ไขมันต่ำด้วยแล้ว จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน และป้องกันอาการเฉื่อยชา ง่วงงุนหลังอาหารเที่ยงได้อย่างดีอีกด้วย อีกทั้งอาหารแบบนี้ยังจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันและโรค อ้วนด้วย





ระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ
เป็นที่ชัดแจ้งว่าระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ มีผลต่อระดับการสำรองพลังงานของคนเรา รวมทั้งความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหรือเซื่องซึม อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ซึ่งโดยปกติร่างกายของเราจะมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่ระหว่าง 70-110 มิลลิกรัม แต่ในคนที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป (Hypoglycemia) เป็นเพราะกินคาร์โบไฮเดรตประเภทของหวานและน้ำตาล แอลกอฮอล์ในปริมาณสูง แต่กินผัก ผลไม้ และธัญพืชในปริมาณต่ำ ซึ่งการกินอาหารลักษณะนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลและพลังงานขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์และสมาธิก็แกว่งไกวไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกิดความไม่สมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนี้สัญญาณของระดับน้ำตาลในเลือดต่ำอีกอย่างคือ ความรู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน หัวงงๆ อาจเป็นลม ใจสั่น มีเหงื่อนออกมาก กระวนกระวาย ฉุนเฉียวหงุดหงิด เหตุผลของทั้งปวงมาจากสมองเป็นส่วนที่ไวต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และกลูโคสคือหลักสำคัญของพลังงานของสมองนั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้มีพลังตลอดวันโดยไม่ง่วงควรเลือกกินอาหารที่รักษาระดับ น้ำตาลในเลือดได้สม่ำเสมอ ด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และโปรตีนไขมันต่ำ ในปริมาณที่พออิ่ม



ควรจะกินอย่างไรให้ได้พลังงานทั้งวันและไม่ง่วงซึม
กินอาหารเช้าให้ถูกหลัก คือกินภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน อาหารเช้าที่ดีจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุลไปตลอดวัน แถมด้วยอาหารประเภทโปรตีนไขมันต่ำปริมาณเล็กน้อยในตอนเช้า และทุกมื้อระหว่างวัน เพราะจะให้พลังงานได้ยาวนาน เช่น ไข่ นมสักแก้ว โยเกิร์ต กับขนมปังธัญพืชปิ้งสักแผ่น



กินอาหารเที่ยงที่ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งโปรตีนจะกระตุ้นสารในสมองคือ catecholamines ที่จะทำให้คุณกระฉับกระเฉง ลองเลือกไก่(ต้องทำให้สุกๆ ก่อน) อาหารทะเล เนื้อ เต้าหู้ ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ผักต่างๆ เช่น บล็อกโคลี ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง และผลไม้สัก 1 ส่วน



เลี่ยงสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน บุหรี่ เพราะเป็นตัวทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งไกว การดื่มกาแฟยังทำให้ปัสสาวะบ่อยด้วยซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายสูญเสียน้ำและ ระดับเกลือแร่



ดื่มน้ำเปล่า เพราะน้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่ ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล แต่จะช่วยระบบการเผาผลาญไขมัน และฟื้นชีวิตชีวาคืนพลังงานให้กับร่างกายด้วย น้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ลำเลียงออกซิเจน ฮอร์โมน สารอาหาร ภูมิต้านทาน และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็นต่อระบบเมธาบิลิซึมด้วย



หยุดแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกเซื่องซึม เหตุผลคือร่างกายสูญเสียสารอาหารโดยเฉพาะวิตามินบี (ไธอามีนและโฟเลท) ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่สมองต้องการ



เลือกกินเมื่อรู้สึกหิว ถ้าคุณรู้สึกเพลียให้กินผลไม้หรืออาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชต่างๆ แทน การกินของขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลจะทำให้คุณกระชุ่มกระชวยเพียงชั่ววูบแล้วก็จะ หมดแรงลงอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงโซดาหรือน้ำหวานในช่วง ของขบเคี้ยวแก้หิวเพื่อสุขภาพที่ขอแนะนำ เช่น คุ้กกี้ที่ผสมผลไม้ คุ้กกี้ผสมข้าวโอ้ต องุ่นสักพวง โยเกิร์ต แครอท เซเลอรี่ ถั่วอัลมอนด์ เป็นต้น



หลับตาสักงีบ ถ้าคุณรู้สึกว่าง่วงมากจริงๆ อย่าเลือกที่จะดื่มกาแฟ แต่ลองหลับตาหรืองีบสัก 10-15 นาที ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก



อยู่ห่างๆ อาหารไขมันสูง เช่น ชีส เนย มาการีน ครีม อาหารทอดทั้งหลาย เพราะจะมีแคลอรี่สูงร่างกายต้องใช้พลังงานเผาผลาญมาก และจะทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชา



ออกกำลังกาย เป็นทางที่ดีที่จะชาร์ตแบตเตอรี่คืนมาอีกครั้งให้ร่างกายตื่นตัว เมื่อรู้สึกเหนื่อยจนเอนดอร์ฟินหลั่งในระดับสูง ก็จะช่วยให้อัตราการเผลาผลาญของร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งก็จะช่วยฟื้นพลังงานให้คุณ ลองง่ายๆ เดินรอบๆ สำนักงานสัก 10 นาที นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วยืดกล้ามเนื้อ บิดบริหารร่างกายสักครู่ก็จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้คุณได้พอควร

ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2551
2 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2551 5:12:58 น.
Counter : 1267 Pageviews.

 

ขอบคุณข้อมูลดีดีค่ะ มิน่าล่ะทานข้าวมื้อใหญ่ๆ แล้วง่วงตลอดเลย อิอิ

 

โดย: ลูกตาลเบอรี่ 10 ตุลาคม 2551 6:19:37 น.  

 

ง่วงเป็นประจำ
ชั่วโมงบ่ายหลับตลอด

 

โดย: redclick 10 ตุลาคม 2551 8:20:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

tanas251235
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]






space
space
[Add tanas251235's blog to your web]
space
space
space
space
space