วันหนึ่งผมได้ไปเยี่ยมคุณป้าวัย ๖๐ ปีท่านหนึ่ง ที่เพิ่งฟื้นตัวจากโรคอัมพฤกษ์ ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เมื่อ ๒ เดือนก่อน อยู่ๆคุณป้าซึ่งมีสุขภาพแข็งแรงดีมาตลอดเกิดมีอาการแขนขาซีกขวาอ่อนแรงไปซีกหนึ่งสามีซึ่งเป็นอดีตนายทหารได้พาคุณป้าเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ๔-๕วันแล้วกลับมาพักฟื้นที่บ้านทางโรงพยาบาลได้ส่งทีมงานมาทำการฟื้นฟูร่างกายด้วยกายภาพบำบัดคุณป้าที่บ้านจนอาการค่อยๆดีขึ้นวันที่ผมไปเยี่ยมคุณป้าสามารถเคลื่อนไหวได้เกือบปกติดีแล้ว คุณป้าเล่าว่า "ดิฉันไม่เคยเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลมาก่อนเลยแต่เข้าโรงพยาบาลคราวนี้นอกจากตรวจเจอว่ามีอาการแขนขาอ่อนแรงซีกหนึ่งจากหลอดเลือดสมองตีบแล้วคุณหมอยังแถมโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง มาให้ครบเครื่องดิฉันไม่เคยเป็นโรคเหล่านี้มาก่อนเลย ทำไมอยู่ๆก็เกิดขึ้นพร้อมกันคราวนี้ก็ไม่รู้..." "แล้วคุณป้าเคยตรวจเช็กสุขภาพมาก่อนหรือไม่" ผมซักไซ้ "ในช่วง ๑๐๐ปีมานี้ไม่เคยหาหมอเลยเพราะแข็งแรงดีไม่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ต้องหาหมอก็เลยไม่ได้ไปตรวจเช็ก... " คุณป้าตอบตรงไปตรงมา ตามหลักทางการแพทย์โรคหลอดเลือดสมองตีบตันจะเกิดขึ้นจากการที่ผนังหลอดเลือดมีตะกรันไขมันเกาะและพอกหนาตัวขึ้นทีละน้อย ใช้เวลา ๑๐-๒๐ ปีกว่าหลอดเลือดจะตีบตัน ระหว่างนี้นผู้ป่วยจะไม่รู้ตัวว่าผนังหลอดเลือดภายในร่างกายของตนมีตะกรันไขมันเกาะ เพราะจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ให้สังเกตเห็นได้จนกระทั่งตะกรันหนาจนรูของหลอดเลือดตีบตัน เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ก็จะเกิดเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต (แขนขาอ่อนแรงซีกหนึ่ง)ขึ้นอย่างฉับพลันทันทีสร้างความแตกตื่นโกลาหลให้กับตนเองและผู้คนในบ้านที่ต้องพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เปรียบง่ายๆเหมือนท่อน้ำทิ้งในห้องครัว ที่อยู่ๆ ก็เกิดการอุดตันทำให้น้ำระบายออกไม่ได้ เมื่อเปิดท่อดูก็พบว่ามีตะกรันไขมันเกาะเป็นก้อนอุดคารูท่อไว้ ตะกรันไขมันในท่อน้ำทิ้งก็ใช่ว่าจะกลายเป็นก้อนอุดท่อได้ภายในไม่กี่วันหากแต่จะค่อยๆ เป็นตะกรันเกาะผนังท่อซึ่งพอกพูนขึ้นทีละเล็กละน้อยใช้เวลาสั่งสมนับเป็นแรมปีหรือหลายๆ ปีกว่าจะกลายเป็นก้อนอุดรูท่อน้ำจนน้ำระบายไม่ได้ ภาวะตะกรันไขมันเกาะผนังหลอดเลือด (หรือท่อน้ำทิ้งในห้องครัว)เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเงียบกริบและใช้เวลายาวนานกว่าจะทำให้เกิดอาการผิดปกติให้เห็นอย่างฉับพลันทันที เรียกได้ว่าเป็น "ภัยเงียบ" ที่แฝงเร้น สำหรับภาวะตะกรันไขมันเกาะผนังหลอดเลือด (พบได้ทุกส่วนของร่างกายที่สำคัญได้แก่ สมอง หัวใจ ไต ตา ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ โรคหัวใจขาดเลือดไตวาย ตามัวตาบอด) อาจเกิดจากปัจจัยตั้งแต่เรื่องของอายุ (ชาย ๕๕ ปีขึ้นไปหญิง ๖๕ ปีขึ้นไป) พันธุกรรม(มีญาติสายตรงเป็นโรคอัมพาตหรือโรคหัวใจขาดเลือด) การสูบบุหรี่ดื่มสุราจัด ความอ้วน โรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้น ที่น่าสนใจคือ ทั้งโรคเบาหวาน ความดันสูง เเละไขมันในเลือดสูงซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม(ส่วนน้อยเกิดจากการบริโภคเกินจนน้ำหนักเกินหรืออ้วน)และเริ่มเป็นตั้งแต่อายุ ๓๐-๔๐ ปีขึ้นไปนั้นล้วนไม่มีอาการปรากฏให้ผู้ป่วยรู้สึกได้เป็นส่วนใหญ่ส่วนน้อยที่เป็นมากแล้วเท่านั้นที่จะมีอาการปวดศรีษะ มึนศรีษะ(สำหรับความดันสูง) หรือปัสสาวะออกมากและบ่อย กระหายน้ำบ่อย หิวข้าวบ่อย(สำหรับโรคเบาหวาน) ทั้ง ๓ โรคนี้จึงจัดว่าเป็น "โรคภัยเงียบ"เพราะไม่มีอาการแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดตะกรันไขมันเกาะผนังหลอดเลือดของผู้ป่วยซึ่งก็เป็น "ภัยเงียบ" เช่นเดียวกัน หากไม่เคยตรวจเช็กสุขภาพ(เช่นกรณีของคุณป้าดังกล่าวข้างต้น)ก็จะไม่ทราบว่ามีโรคพวกนี้แฝงอยู่และคอยบ่อนทำลายหลอดเลือดอย่างเงียบกริบจนเกิดเป็นอัมพาต พิการ หรือการเจ็บป่วยร้ายแรง (เช่น โรคหัวใจวายกะทันหันไตวายที่จำเป็นต้องฟอกไต ตาบอด) ในที่สุด ถ้าหากเข้าใจเส้นทางเดินของ "ภัยเงียบ" ดังกล่าว เราก็สามารถป้องกันและควบคุมให้เกิดความปลอดภัยได้มากขึ้น เริ่มตั้งแต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นก็ต้องมองดูว่าเป็นคนที่เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังยอดฮิต (เบาหวาน ความดันสูงไขมันสูง) หรือไม่ ถ้ามีพันธุกรรมของโรคเหล่านี้หรือมีน้ำหนักเกินก็จัดว่าว่ามีความเสี่ยงต้องรีบควบคุมอาหารและน้ำหนักออกกำลังกาย เมื่ออายุ ๓๐-๔๐ ปีหรือเป็นกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงแม้ว่ารู้สึกสบายดีก็ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพถ้าพบว่าเป็นโรคเหล่านี้ก็จะต้องรับการดูแลจากแพทย์อย่างจริงจัง และควบคุมอาหาร ออกกำลังกายลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงอารมณ์เครียดเลิกเสพสุราและยาสูบซึ่งเป็นปัจจัยเสริมให้โรคกำเริบและเกิดภาวะตะกรันไขมันเกาะผนังหลอดเลือด ผู้ป่วยจะต้องตระหนักว่าเพราะความที่เป็นภัยเงียบของโรคเหล่านี้ถึงแม้จะรู้สึกสบายดีไม่มีอาการผิดปกติก็ยังจำเป็นต้องทำการรักษาโรคพวกนี้อย่างจริงจังและต่อเนื่องตลอดไปจะได้ควบคุมโรคให้ได้ผลซึ่งสามารถป้องกันไม่ให้มีตะกรันไขมันเกาะผนังหลอดเลือดจนเกิดโรคร้ายแทรกซ้อน หรือพิการได้และช่วยให้มีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพเต็มเปี่ยมเฉกเช่นคนปกติทั่วไป ก็ขอฝากให้ช่วยกันสร้างความรู้ความเข้าใจและความตระหนักในโรคภัยเงียบยอดฮิตแห่งยุคปัจจุบันให้เกิดขึ้นโดยทั่วกัน
ขอบคุณ หมอชาวบ้าน
Create Date : 23 มีนาคม 2555 |
Last Update : 23 มีนาคม 2555 14:16:11 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1025 Pageviews. |
|
|