ตุลาคม 2549

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
21 ตุลาคม 2549
All Blog
รักลองใจ
คนที่กำลังนอนหลับคุดคู้อย่างมีความสุขบนเตียงนอน รู้สึกคล้ายๆ เหมือนมีอะไรสักอย่างมารบกวนแถวๆจมูก

“ฮัดเช้ย…”เสียงจามที่ดังขนาดทำให้คนที่ยืนอยู่ข้างเตียงสะดุ้ง และคนที่นอนหลับอุตุเมื่อครู่ก็แทบจะหายง่วงหากพอลืมตาและรู้ว่าคนแกล้งเป็นใครแล้วก็ล้มตัวลงนอนอย่างเดิม แถมเอาผ้าห่มคลุมโปงซะอีกแน่ะ
แต่สักพัก…คราวนี้มีอะไรเย็นๆ ที่เท้า

“เฮ้ย..น้ำแข็ง” ไม่พูดเปล่าซ้ำยังกระโดดผลุงลงจากเตียง

“ยายเปี๊ยก รบกวนการนอนซะจริง” บ่นได้เท่านั้นแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวหายเข้าห้องน้ำไป ได้ยินเพียงเสียงฮัมเพลงผสานกับเสียงน้ำจากฝักบัว พักใหญ่จึงออกจากห้องน้ำมาในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว

“จะไปเขียนรูป ไปด้วยกันมั้ย” คนตัวเล็กยื่นข้อเสนอที่แน่ใจว่าจะไม่ถูกปฏิเสธ

“ที่ไหน” ถามพลางเช็ดผมให้แห้งหลังอาบน้ำเสร็จ

“วัดไชยวัฒนาราม” เจ้าตัวเล็กรีบตอบทันที

“หันหลัง จะแก้ผ้า ไปไม่ได้วันนี้มีธุระ” คำพูดแรกเสียงดัง-แกล้งขู่ แต่ข้อความหลังเบา…เพราะรู้ ‘ยายเปี๊ยก’ ไม่อยากได้ยิน

แล้วก็เป็นอย่างที่คิด.. ร่างเล็กเดินช้าๆ ออกประตู ไม่มีคำกล่าวลา ไม่หันหลังกลับมามอง คนยืน ‘ส่ง’ ได้แค่มองตามหลังรถออสตินมินิสีชมพูแปร๋นไปจนลับสายตา..

แต่พอถึงพรุ่งนี้ ก็จะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
‘ยายเปี๊ยก’ เป็นอย่างนี้เสมอ เธอจะไม่มีวัน ‘รื้อ’ เรื่องที่ผ่านไปแล้วมาพูดให้เสียความรู้สึก ความตั้งใจที่ถูกปฏิเสธ เจ็บปวด เสียใจ แต่ ‘ยายเปี๊ยก’ เก็บมิดชิดจนไม่แน่ใจว่าเธอเอาความรู้สึกดังกล่าวไปไว้ตรงไหนของใจ
* * * * * *

ความรู้สึก ‘เหมือนมีอะไรในใจ’ ของชายหนุ่ม ทำให้สายนที ‘ก้าว’ เข้ามาทำความรู้จัก และเธอก็ได้รู้จักครูสอนเขียนรูปคนนี้ เขาเคยเรียนมหาวิทยาลัย..แต่ไม่จบ ดูเหมือนจะอหังการ์หรืออุดมการณ์ อะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆ คือ เพราะเขาไม่ชอบการเรียนที่มีแต่ทฤษฎีและท่องจำ

“โหย พีชคณิต วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ประวัติศาสตร์โรมัน ได้ใช้สักอย่างมั้ย ไม่เลย เสียเวลา เรียนไปก็ติดเอฟเปล่าๆ” และนั่นเองที่ทำให้เขากลายมาเป็นคนที่กินอุดมการณ์เป็นอาหารหลักอย่างเต็มตัว

“อดมั่งกินมั่ง ธรรมดาแหละ แหมรสชาดของชีวิต” เหมือนจะไม่ไยดีนัก หากแท้จริงแล้ว ‘อะไรในใจ’ ของเจ้าตัวรวดร้าวเสียยิ่งกว่าสิ่งใดในชีวิต พี่ชายคนโตเป็นหมอ พี่สาวคนรองเป็นอาจารย์และพี่ชายคนถัดมาเป็นวิศวกร…น้องคนสุดท้องคือเขา

“แหกคอก” คำพูดจากบิดาบังเกิดเกล้า เมื่อได้คำตอบว่าลูกชายคนเล็กลาออกจากการศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยเหตุผลว่า “ไม่ชอบบริหารธุรกิจ อยากเรียนวาดรูป” ความคิดที่จะให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมารับช่วงกิจการต่อเป็นอันล้มเหลว

“แล้วแก..ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” นั่นเองที่ทำให้เขาเดินออกจาก ‘บ้านที่เคยอบอุ่น’ และไม่กลับไปอีก

“เกิดเป็นน้องคนเล็กก็งี้แหละ” ยายเปี๊ยกเคยเย้าเล่นเมื่อเขาเล่า ‘นิทานชีวิต’ ให้ฟัง..เจ้าตัวเล็กคงลืมไปว่าตัวเองก็น้องคนเล็กเหมือนกัน
****

เมื่อความตั้งใจไม่เป็นไปอย่างที่หวัง เจ้าของออสตินมินิสีชมพูก็กลับบ้าน… หญิงสาวร่างผอมสูงขาวราวนางแบบ และที่สำคัญคือสวย นอนอ่านแม็กกาซีนแฟชั่นต่างประเทศอยู่ใต้ต้นชมพู่ เมื่อเห็นน้องสาวเดินหน้ามุ่ยลงมาจากรถก็อดที่จะทักอย่างสงสัยไม่ได้

“ไหนว่าจะไปอยุธยา?”

“ไม่ไปแล้ว จะย้ายมะลิวัลย์ลงดิน” ดอกไม้กระถางที่ได้มาไม่นาน เพิ่งมีโอกาสลงดิน…ก็ตอนนี้ หน้าบ้านซึ่งเป็นสวนกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย มีสระเลี้ยงปลา และแปลงปลูกผักสวนครัว พื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านเป็นสวน ส่วนตัวเรือนจะอยู่หลังสวน หน้าบ้านและด้านขวามือของบ้านติดกับถนนใหญ่ บ้านนี้จึงอยู่มุมหนึ่งของสี่แยก ใครๆ ผ่านไปมามักสงสัยในตำแหน่งของเรือนที่ไป ‘แอบ’ อยู่หลังสวน หากเจ้าของบ้านจะบอกเสมอว่า “มองไปหน้าบ้านเห็นป่าดีกว่าเห็นตึก” แม้บ้านจะอยู่ชานเมือง แต่ความเจริญก็คืบก้าวเร็วเสียจนเหลือบ้านเพียงไม่กี่หลังในละแวกที่ยังไม่กลายเป็นตึก

คนตัวสูง ผมยาว สวมเสื้อม่อฮ่อมตัวหลวมโคร่งกับกางเกงยีนส์สีเดียวกันกดกริ่งที่ประตูรั้ว ‘ข้างบ้าน’ ซึ่งอยู่ติดกับถนน

“อ้อ นายบุรินทร์” คคนางค์เปิดประถตูรั้วให้ เพราะคนที่มา คุ้นเคยกับน้องสาว

“หวัดดีเจ๊ น้ำล่ะ” เขาถามถึง ‘ยายเปี๊ยก’ ลูกศิษย์อย่างไม่เป็นทางการของเขา

“ใครเป็นเจ๊นาย ชั้นมีน้องคนเดียวย่ะ โน่น หน้าบ้าน” บุรินทร์ไม่สนทนากับเธอมากกว่านั้น เขาไม่ชอบผู้หญิงสวยแต่ปากจัด แล้วกับพี่สาวของยายเปี๊ยกไม่มีครั้งไหนที่เจอกันแล้วไม่มีเรื่อง อันที่จริงเขาก็ไม่อยากจะทะเลาะกับผู้หญิงนักหรอก เขาเพียงแต่ไม่ค่อยชอบหน้า…

“อ้าว พี่ริน เสร็จธุระแล้วเหรอคะ” คนที่กำลังง่วนกับการกลบดินปลูกต้นไม้ พอเห็นร่างสูงยืนเดินมาใกล้ ก็ทักทายอย่างสนิทสนม

“ฮื่อ นั่นทำอะไร ให้ช่วยมั้ย” บุรินทร์ไม่อธิบายว่า ‘ธุระ’ ที่ว่านั้นคือการนัดบอก ‘เลิก’ ของนินัญญา เธอมาหาเขาแล้วบอกเพียงว่าดีใจที่เคยได้รักเขา…เท่านั้นเอง

“ไม่เป็นไรค่ะเสร็จแล้ว” เธอพูดด้วยรอยยิ้ม

“จะมาชวนไปอยุธยา” เขาบอกตรงๆ แล้วทั้งสองคนก็กลับไปยังแคร่ใต้ร่มชมพู่ที่พี่สาวของสายนทีนั่งอยู่ก่อน และทันทีที่สองคนไปถึง คคนางค์ก็กระวีกระวาดถามบุรินทร์

“เอาน้ำอะไรดี มะตูม กระเจี๊ยบ ลำไย หรือว่าใบบัวบกดี” คคนางค์ใจดีจนน้องสาวสงสัย ร้อยวันพันปีพี่สาวจะพูดดีและทำดีกับ ‘ครู’ ของเธอ แต่สองคนกลับรู้กัน โดยเฉพาะคคนางค์ที่เพิ่งวางหูโทรศัพท์จาก
นินัญญา เพื่อนสาว ‘ก๊วน’ เดียวกัน

“อะไรเข้าสิงเหรอพี่ฟ้า ถึงได้ใจดี… ผิดปกติ” น้องสาวมองด้วยหางตา สงสัย

“ขอบคุณ ผมว่าน้ำเปล่าจะดีที่สุด แต่ได้แอลกอฮอล์ก็ดีนะ ล้างแผล สะอาดไม่มีเชื้อโรค” คำพูดประชดประชันที่รู้กันสองคนทำให้คคนางค์โกรธจนหน้าเขียว

“อ๋อ นายว่าเพื่อนชั้นเป็นเชื้อโรคเหรอ นายสิ คนไม่มีหัวใจ ถึงว่าสิยายนัญถึงได้บอกเลิก”

“แน่ใจเหรอว่าเพราะผม ถามเพื่อนคุณดูก่อนเถอะว่าทำไมเขาถึงเลิกกับผม แล้วคุณค่อยมาว่าผม” เท่านั้นเองแล้วบุรินทร์ก็เดินหนีไปดื้อๆ เขาตั้งใจจะมาหาสายนทีเพื่อที่จะไปอยุธยากับเธอ..บางที การได้ไปที่ไหนบ้างก็อาจจะทำให้หายเครียด เขาไม่อยากฟุ้งซ่านจึงต้องหาอะไรสักอย่างทำ แต่พอเจอกับคคนางค์ก็ไม่ต่างจากถูกน้ำมันราดลงกองไฟ

“พี่ฟ้า นี่มันเรื่องอะไรกันคะ พี่รินเดี๋ยวก่อนค่ะอย่าเพิ่งกลับ” สายนทีลังเล ข้างหนึ่งก็พี่สาว อีกข้างหนึ่งเธอก็นับเขาเป็นพี่ชาย ทั้งคู่มีเรื่องกันอีกแล้ว

“พี่ริน ใจเย็นก่อนสิคะ ไหนว่าจะไปอยุธยากับน้ำไง” เธอขวางทางเขา บุรินทร์เพิ่งนึกได้ เขาใช้อารมณ์มากเกินไป
จนลืมว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม

“ไปเอารถมา พี่จะรออยู่ตรงนี้” เขาเผด็จการ เพราะไม่อยากเจอหน้ายายพี่สาวตัวร้ายของสายนที

“ไม่เอาค่ะ เข้าบ้านก่อน คุยกันดีๆ มันเรื่องอะไรอยู่ๆ ถึงได้ลุกมาทะเลาะกันยังกับเด็กๆ” สายนทีเป็น ‘กรรมการห้ามมวย’ ของทั้งคู่เสมอ จนเธออ่อนใจ วันไหนพี่สาวอยู่บ้านแล้วบุรินทร์มาที่บ้านเป็นอันว่าเธอ ต้องได้สงบศึกของทั้งสองคนจนระอา

“น้ำไปเอารถมาเถอะ ให้พี่สาวน้ำเค้าใจเย็นกว่านี้ก่อนแล้วค่อยคุย” บุรินทร์รู้ ถึงจะคุยกับคคนางค์ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเพราะผู้หญิงขี้โมโหอย่างคคนางค์ก็คงไม่ยอม ‘ลง’ ง่ายๆ

“น้ำก็คิดย่างนั้น” เพราะรู้จักพี่สาวดีว่าถ้าได้โกรธแล้วเธอก็จะพาล จนกว่าอารมณ์จะเย็นลงแล้วก็กลับเป็นคคนางค์คนเดิมที่ร่าเริง ยิ้มแย้มและช่างพูดช่างคุย แต่กับบุรินทร์ คคนางค์จะเหมือนโกรธกันมาสักชาติทั้งๆ ที่สายนทีเองก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไม?

แล้วทั้งสองคนก็ไปที่วัดไชยวัฒนาราม สายนทีเขียนรูปสีน้ำโดยมี ‘ครู’ ดูแลอยู่ใกล้ๆให้คำแนะนำและเป็นเพื่อนคุย

บุรินทร์นอนหนุนแขนตัวเอง ใช้หมวกปิดหน้า อยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในวัดโดยมีสายนทีคอยสะกิดให้ลุกขึ้นมาดูผลงาน นานๆ เธอจะชวนเขาคุยสักทีหนึ่ง

“พี่ฟ้าโกรธพี่ริน เรื่องพี่นัญหรือเปล่า?” สายนทีถาม เธอไม่แน่ใจว่าจะได้คำตอบ และไม่แน่ว่าจะถูกดุ

“ฮื่อ เลิกกันแล้ว” บุรินทร์คิดไม่นานและตอบคำถามโดยที่คนถามก็ ‘จับน้ำเสียง’ ไม่ได้ว่าคนพูดรู้สึกอย่างไร

“ทำไม บอกน้ำได้มั้ย”

“จะรู้ไปทำไม เรื่องของผู้ใหญ่”

“งั้นเหรอ ไม่บอกก็ไม่เป็นไร” แล้วเธอก็เงียบ ความเงียบที่ครอบคลุมนานทำให้บุรินทร์เองที่เป็นฝ่ายอึดอัด สงสัยยายเปี๊ยกคงจะงอน

“เค้าไปมีคนอื่นแล้ว เพราะเรามันไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไร หมายความว่ายังไง” สายนทีกระตือรือร้น อยากรู้

“ก็รถยนต์คันโก้ บ้านโตสูงใหญ่ เงินทองมากมาย.. ฉันไม่ใช่ผู้วิเศษ ร่ำรวยจ่ายเงินเร็วร้อนแรง ไม่มีฤทธิ์เดช ประหนึ่งเจ้าชายจะสำแดง” ประโยคลงท้ายเป็นบทเพลงเพลงหนึ่ง..สายนทีรู้ความหมายนั้น

“แต่พี่ริน..มีหัวใจ”

“เฮ้อ หัวใจ มันกินแทนข้าวได้หรือยังไงล่ะน้อง เก้าในสิบคน..เชื่อไหม ไม่มีใครยอมอดเพราะรัก”

“น้ำเป็นหนึ่งในสิบ”

“คิดดีนี่ แต่ไว้ถึงเวลาจริงๆ แล้วจะรู้ หนูเอ๋ย สมัยนี้ความรักอย่างเดียวน่ะอยู่กันไม่ยืดหรอก”

“พี่รินมองโลกในแง่ร้ายชะมัด”

“ไม่งั้นพี่ก็คงนอนตีพุงสบายโก๋อยู่บ้าน ไม่ต้องมานั่งแบกกระเพาะให้หิวท้องกิ่วอย่างนี้หรอก”

“พี่รินหิวเหรอ ไปทานข้าวกันดีมั้ย ข้าวเย็น ไม่ต้องกลับไปกินที่บ้านอีกไง ก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่อร่อยไม่แพ้ที่รังสิตเลยนะ” สายนทีนอกเรื่อง เพราะรู้ว่าถ้ายังคุยกันเรื่องนี้..จะไม่มีวันจบ บุรินทร์เหมือนน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง แต่เขาก็ไม่เคยท้อจนถอย เธอจึงเลี่ยงที่จะพูดให้เขาต้องเป็นทุกข์

“ก็ดี เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องอื่นไว้ทีหลัง” ความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูก ‘บอกเลิก’ ไม่ใช่ว่าจะทำใจให้ยอมรับได้ง่ายๆ ภายนอกบุรินทร์เข้มแข็งเขาไม่อยากแสดงออกให้ ‘ลูกศิษย์’ เห็นความอ่อนแอ

เพราะสายนทีเห็นเขาเป็น ‘ฮีโร่’ และเขาเองก็ภูมิใจในความเป็นฮีโร่ดังกล่าว.. การได้รับยอมรับจากใครเพียงสักคนเดียวก็ทำให้มีความมั่นใจในชีวิตเพิ่มขึ้นอีกตั้งมาก

สายนทีกับบุรินทร์กลับไปถึงบ้านมืดแล้ว และคคนางค์ก็ไม่อยู่บ้าน นอกจากโน้ตที่ติดไว้หน้ากระจก “ไปข้างนอกกับณัฐ” คนรักของคคนางค์ ฐานะดี การศึกษาดี หน้าตาดี
“หน้ามือกับหลังมือ”บุรินทร์เปรียบเทียบกับตัวเองกับเจ้าของเบ็นซ์คันโตที่มารับคคนางค์อยู่ทุกบ่อย เขาเคยคุยกับผู้ชายคนนั้นขณะที่เขาสอนสายนทีเขียนรูป แล้วคนรักของคคนางค์มาหา หมอนั่นมองเขาอย่างสมเพช กึ่งเวทนาที่ตัวเองมี ‘ภาษี’ ดีกว่า และเขาก็อดหมั่นไส้ยายฟ้าไม่ได้ที่… ‘เชิดจนคอตั้งบ่า’ แล้วมองเขาด้วยหางตา.. เหมือนนินัญญาไม่มีผิด แล้วบุรินทร์อดจะเปรียบเทียบกับเด็กสาวที่ เป็น ‘ลูกศิษย์’ ไม่ได้ สายนทีแม้จะไม่แตกต่างจากพี่สาวในเรื่องรูปร่างหน้าตาแต่นิสัยใจคอนั้นต่างกันราวฟ้าดิน บุรินทร์เคยพูด.. “พี่กับน้องต่างกันจังเลย” เขาได้คำตอบที่ปนเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของสายนทีว่า

“เพราะพี่รินมีอคติกับพี่ฟ้าต่างหาก ถ้าพี่รินมองข้ามในบางอย่างไป แล้วคิดอย่างที่พี่รินคิดกับน้ำ พี่ฟ้าก็ไม่ต่างจากน้ำเท่าไหร่หรอกค่ะ” เธอเข้าข้างพี่สาวเสมอ นั่นเองที่ทำให้บุรินทร์ชอบเด็กสาวคนนี้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่สายนทีจะพูดถึง ‘เรื่องของคนอื่น’ ให้เขาได้ยิน
“คงยาก” บุรินทร์คิดอย่างนั้น

“ถ้าพี่รินรู้จักพี่ฟ้าดีกว่านี้ พี่รินอาจจะชอบพี่ฟ้า” น้ำเสียงคำพูดประโยคหลังเบาเหมือนคนพูดจะฝืนใจพูดออกมา

“พี่ก็ว่าน่าจะลองทำความรู้จักให้มากกว่านี้ เผื่อบางทีพี่อาจจะมองยายสายฟ้าฟาดในแง่ดีกว่านี้บ้าง”

“พี่รินพูดจริงเหรอ?”

“ก็จริง”

“งั้นน้ำจะช่วย” เธอเต็มใจในสีหน้า แต่แววตา…บุรินทร์ดูไม่ออก

“ต้องผ่านด่านนายกฤษณัฐ” บุรินทร์หมายถึงคนรักของคคนางค์

“พี่ณัฐ ไม่เคยรักใครนาน” แล้วเรื่องราวบางอย่างก็ ‘หลุด’ จากปากสายนที

“แล้วน้ำบอกฟ้าหรือเปล่า”

“พี่ฟ้ารั้นค่ะ นิสัยอย่างหนึ่งของพี่ฟ้าคือต้องการเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง”

“นั่นก็แปลว่าเค้าไม่ฟังที่น้ำเตือน”
“มันก็ไม่แน่ บางทีพี่ณัฐอาจจะดี..ขึ้น” สายนทีเล่าเท่านั้น

แล้วหลังจากนั้นก็เหมือนโลกหมุนกลับ ทุกอย่างเปลี่ยนไป บุรินทร์มาที่บ้านของสองสาวบ่อยครั้งกว่าแต่ก่อน หลังจากสอนเขียนรูปให้สายนทีเสร็จก็อยู่ ‘คลุกคลี’ จนจากที่เคยทะเลาะกันทุกครั้งกับคคนางค์ เขาใจเย็นขึ้น ไม่ต่อล้อต่อเถียงและพยายาม ‘ตีสนิท’ จนคคนางค์เองก็แปลกใจในความเปลี่ยนแปลงของบุรินทร์ และมองเขาในแง่ดีขึ้น ประกอบกับมีสายนทีคอยเปิดทางให้และ ‘เป็นใจ’ ไปเสียทุกเรื่อง คคนางค์จึงอยากรู้… เพราะอะไร วันหนึ่งเธอจึงชวนเขาไปเที่ยวกันสองคน

“นายชอบฉันเหรอบุรินทร์” เธอถามตรงๆ เมื่ออยู่กันสองคน

“หรือคิดว่าผมชอบน้ำ”

“มันน่าจะเป็นอย่างนั้นมากกว่า”

“เพราะอะไร”

“นายเคยรู้อะไรไหม เกี่ยวกับเรื่องของฉันกับณัฐ” คคนางค์ไม่ตอบคำถามแต่พูดถึงเรื่องของตัวเอง

“จะแต่งงานในไม่นานนี้แล้ว”

“ก็นั่นนะสิ แล้วทำไมนายยังคิดจะแย่ง.. ขอโทษใช้คำแรงไปหน่อย ฉันหมายความว่านายก็รู้ว่าฉันมีแฟนแล้ว” คคนางค์เป็นคนตรงไปตรงมา และพูดอย่างที่คิด

“งั้นคุณเคยรู้ไหม เรื่องของผมกับน้ำ”

“ฉันรู้น่าว่าน้องฉันคิดกับนายยังไง ฉันจะเล่าเรื่องณัฐให้ฟังเอาไหม?”

“ก็คงดีกว่าอยู่เงียบๆ” บุรินทร์ยักไหล่ อันที่จริงเขาอยากรู้ว่าสายนทีคิดยังไงกับเขามากกว่า เรื่องนาย กฤษณัฐกับคคนางค์เขาไม่ได้ใส่ใจนัก

“เมื่อก่อนณัฐเขาชอบน้ำ” พอคคนางค์พูดถึงตอนนี้ บุรินทร์ชักสนใจขึ้นมา เพราะเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้

“ข้อมูลใหม่แฮะ” เขาเปรย

“ณัฐมาที่บ้านบ่อยมาก และสนิทกับทุกคนในบ้าน ช่วงนั้นน้ำเค้าต้องอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์ เวลาไม่ค่อยมี ณัฐมาฉันก็พาไปเที่ยว ความคุ้นเคยทำให้เกิดความไว้วางใจ ฉันรู้สึกผิดนะ แต่เรื่องของหัวใจ บังคับกันไม่ได้ ห้ามปรามยิ่งไม่ได้”

“คุณสองคนรักกัน” บุรินทร์เดาเรื่องได้

“มันเป็นอย่างนั้น ฉันถึงแปลกใจ น้องฉันกำลังทำอะไรอยู่”

“ผมเดา..มีสองอย่าง คือลองใจผมกับคิดจะให้กฤษณัฐกลับมาคืนดี ถ้าผมรักกับคุณ”

“คิดเหมือนฉันเลย เออ…ฉันก็เพิ่งรู้ว่ายายน้ำก็มีลูกเล่นกับเขาด้วย”

“ผมก็อยากรู้…เขาคิดอะไรอยู่” แล้วทั้งคู่ก็ซ้อนแผนโดยดึงเอากฤษณัฐมาร่วมด้วย

“ใจร้าย” ทันทีที่กฤษณัฐรู้เรื่องว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรอยู่เขาก็โพล่งขึ้นมาทันที

“แต่ก็ยังดีกว่าที่จะไม่รู้อะไรเลยไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยเราทั้งสามคนก็ได้รู้ ยายน้ำยังรักคุณอยู่หรือรักบุรินทร์กันแน่” คคนางค์เป็นคนพูด

“ถ้าน้ำยังรักผมอยู่ล่ะ”

“คุณก็ยกเลิกการแต่งงานได้เลย ฉันรักน้อง”

“แล้วถ้าเป็นบุรินทร์” กฤษณัฐยังอยากรู้

“ก็แฮปปี้”

“ผมภาวนาขอให้เป็นอย่างหลัง” บุรินทร์พูด
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตาม ‘แผน’ บุรินทร์บอกกับสายนทีในวันหนึ่งว่าเขาชอบคคนางค์ และกฤษณัฐก็ทำท่าเหมือนจะคืนดีกับสายนที

“พี่ณัฐ เป็นอย่างที่น้ำคิดจริงๆ ด้วย พี่ณัฐไม่ได้รักพี่สาวของน้ำจริงๆ พี่ณัฐหลอกพวกเราทำไม พี่ณัฐใจร้าย” นั่นเป็นข้อแสดงให้เห็นว่าสายนทีไม่ได้มีใจให้กฤษณัฐ ซึ่งหมายถึงหัวใจของสายนทีคือบุรินทร์ วันที่เธอเรียนเขียนรูปกับเขาเป็นวันสุดท้ายก่อนที่เขาอ้างว่าจะเลิกสอนเพราะไม่มีอะไรจะสอนแล้ว บุรินทร์แกล้งถามถึงความรู้สึก

“ขอบใจน้ำนะ เรื่องของพี่กับฟ้า ถ้าไม่ได้น้ำพี่คงไม่ได้
คบกับฟ้าหรอก” บุรินทร์เล่นละคร

“น้ำเองต่างหากต้องขอบคุณพี่รินที่สอนวาดรูปให้น้ำ แล้วก็อะไรอีกหลายอย่างที่ไม่คิดว่าจะรู้” เธอเสียงหม่น

“อาทิ อะไรล่ะ” เขายังเล่น

“ความรักค่ะ…แต่ช่างมันเถอะค่ะเพราะพี่รินก็ไม่ใช่คนแรก น้ำจะเล่าอะไรให้ฟัง.. พี่รินจำพี่ณัฐได้ใช่ไหมคะ”
“ฮื่อ แฟนเก่าของน้ำ” บุรินทร์รู้..สายนทีจะพูดเรื่องอะไร แต่เขาแสร้งไม่รู้

“แฟนเก่าพี่ฟ้าค่ะ” สายนทีย้ำ

“น้ำสิ ไม่ใช่ฟ้า เพราะเขาเป็นแฟนคนปัจจุบันของฟ้า”

“พี่รินรู้เรื่องด้วยเหรอคะ” สายนทีแปลกใจที่บุรินทร์รู้เรื่องของเธอกับกฤษณัฐ

“โธ่เอ๊ย ยายเปี๊ยก เราน่ะ เจ้าเล่ห์นักนะ เที่ยวจับคู่ลองใจคน ไม่กลัวว่าเค้าจะรักกันจริงๆ เหรอ ถ้าพี่กับฟ้ารักกันจริงๆ เรานะจะเป็นคนร้องไห้ขี้มูกโป่ง”

“ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอคะ จะได้รู้ใจคนและที่แน่ๆ จะได้รู้ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยหรือเปล่า”

“โฮะ ขอโทษ กระผมรักใครรักจริงครับ”

“พี่นัญก็เถอะ..”

“อ๋อ แน่นอน พี่น่ะรักเค้าแต่เค้าไม่ได้รักพี่แล้ว จบ เอนดิ้ง ตอนนี้หัวใจผมว่างจะมีใครบ้างจับจอง เปิดโอกาสให้คุณครอบครอบมาจับมาจองหัวใจผมได้…” แล้วก็ลงท้ายด้วยการร้องเป็นเพลง สายตาของบุรินทร์ตอนนี้ทำเอาสายนทีหน้าแดงจัด… /





Create Date : 21 ตุลาคม 2549
Last Update : 23 ตุลาคม 2549 5:44:37 น.
Counter : 1016 Pageviews.

3 comments
  
บอกตรงๆ นะ

ชอบตอนต้นจนถึงตอนที่ยายเปี๊ยกขับรถกลับบ้าน

หลังจากนั้นเฉยมากจนถึงเกือบไม่ชอบเลยอ่ะ
โดย: อาร์ต IP: 124.120.15.114 วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:17:55:56 น.
  
ชอบทุกตัวอักษรที่เธอเขียน
โดย: รัน IP: 124.121.184.49 วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:20:27:22 น.
  
คิดว่าจบเร็วไปหน่อยค่ะ


แต่ชอบตรงที่ฟ้าถามตรงๆกับบุรินทร์ว่า"นายชอบฉันเหรอบุรินทร์" ในโลกของเราจริงๆจะมีสักกี่คนนะ ที่ถามอะไรตรงๆแบบนั้น
โดย: PANDIN วันที่: 14 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:33:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ