ตุลาคม 2549

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
28 ตุลาคม 2549
All Blog
รักต้องห้าม ?
Part : 1


เก็บเอาไว้เถอะเก็บเอาไว้ ยังมีคนต้องการ
ผ่านวันนี้มาจากเมื่อวาน ยังมีวันต่อไป
แอบเอาไว้ เถอะแอบเอาไว้ ดูใจให้นาน นาน
จำเอาไว้ คารม ไอ้ที่หวาน หวาน ปากและใจต่างกัน...


เพลงที่ถูกเปิดซ้ำซากวนกลับไปมาเป็นรอบที่... นับไม่ถ้วน นี่ถ้าหากเป็นเทป ม้วนอาจยืดไปแล้วก็เป็นได้... ครั้งแรกที่ตั้งอกตั้งใจฟัง... มันทำให้หญิงสาวอย่างเธอมีน้ำตา! โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย...

“หึ...” เธอเผลอเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียง... ใช่ นาฬิกามันเคยอยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่ที่มันเคยอยู่ บางที มันอาจจะแค่เปลี่ยนที่ตั้งจาก “หัวเตียงนี้ ไปเป็นหัวเตียงโน้น”

เธอไม่ได้ข่าวคราวคนที่เคยรัก... นับตั้งแต่วันที่ลาจากกัน... มันเป็นความผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยที่สุดในชีวิตหญิงสาวที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาถึงสามสิบปี แต่ “เสียท่า” ให้กับคนที่นอนร่วมเตียงกันทุกคืน... อาจจะเป็นเพียงความบังเอิญ หรืออาจจะเป็นความตั้งใจก็สุดคาดเดา เมื่อเธอพบเขากำลังเดินโอบไหล่สะพายกระเป๋า พะเน้าพะนอคลอเคลียประหนึ่งว่าเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันกับ หญิงสาวร่างเล็ก ตัวสั้น ป้อม ตูดใหญ่ ไหล่กว้าง คนนั้น... เธอคิดในใจ “หมอนี่...ถูกผีเข้าหรือไง” เธอไม่ได้ใช้เวลา “ตั้งสติ” นานนัก... อาชีพทนายความทำให้เธอต้องมีไหวพริบ และ “ทันคน” ใช่... เธอแทบจะ “ทัน” ทุกคนที่เธอเกี่ยวข้องด้วย เพียงแค่อ้าปากเธอก็รู้แล้วว่าประโยคใดที่จะหลุดออกมาจากปากผู้ต้องหา! แต่เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจ ทำให้เธอมอง “ผ่าน” เขาไปอย่างน่าวิ่งเอาหัวชนกำแพงตาย...

เธอเดินตามหลังสองคนเข้าไปในฝูงชน...ถ้าเพียงแต่เขาสังเกตสักนิด ก็จะรู้ว่าเธอกำลังเดินตามเขามาติดๆ เพราะแม้แต่ประโยคสนทนาของเขากับหญิงสาวคนนั้น... เธอยังได้ยินติดหูจนวันนี้...แน่นอนว่ามันเป็นประโยคที่กระชากคอเขาลงนรกชัดๆ เพราะผิดศีลข้อสี่ทุกคำพูดที่ออกมาจากปากเขาเลยทีเดียว... และแล้วก็เหมือนสวรรค์จะเป็นใจ.... ละครฉากหนึ่งจึงเกิดขึ้น

“ขอโทษนะคะ ขอทางนิดหนึ่ง” เธอตั้งใจที่จะเดินให้ชนหญิงสาว ตัวสั้น ก้นใหญ่คนนั้น... แต่ผู้หญิงคนนั้นแทบจะไม่สะเทือนเมื่อโดนหญิงสาวร่างบางดั่งกระดาษเอโฟร์แปดสิบแกรมชนเอา..เขากำลังจะเอ่ยปากต่อว่า... และถ้าหากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่เธอ... บางทีอาจจะไม่ใช่แค่ถูกต่อว่า.. แต่เธออาจจะโดนหมัดดาวเหนือหรือบาทาพิฆาตของเขาก็เป็นได้...

“แหกตาดุซะมั่งสิคุณ นี่คนนะยะ” หญิงคนนั้นแว้ดขึ้น... อาจจะเพราะลืมตัวก็เป็นได้ จึงไม่ทันได้เก็บอาการ...

“อ้าว... คุณ ก็ไหนบอกว่าไปศาล...” เขาเองก็ตกใจที่เห็นเธอ....

ดูเหมือนผู้ชมจะรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติขึ้นแล้ว ทั้งสามคนจึงถูกล้อมไว้ด้วยกลุ่มคน...คลับคล้ายกับสนามมวยลุมพินี นี่หากมีกระโจมอันใหญ่คลุมลงมา คาดเชือกเข้าสี่เสา ก็พอดีเลย...

“เมียน้อยกับเมียหลวงจะตีกัน” เสียงใครคนหนึ่งดังมาเข้าหู...

“เฮ้ย ผัวมันอยู่ตรงนั้นด้วย เอ็งว่ามันจะเข้าข้างใครวะ”

“ข้าว่ามันเข้าข้างเมียน้อยว่ะ”

“แต่งตัวก็ออกจะดี” เสียงจากบรรดากองเชียร์ทำให้น้ำที่กำลังเดือดปุดๆ นั้นยิ่งเดือดจัดยิ่งขึ้นไปอีก...

“ไปแล้วค่ะ กลับมาแล้ว” เธอตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งสีหน้าท่าทางที่แสดงออกได้ราบเรียบเหมือนทะเลไร้คลื่น ซึ่งฝ่ายผู้ชมที่กำลังอยากจะดูคนตบกันนั้นก็คงผิดหวังกันอยู่ไม่น้อย เธอหัวเราะ หึหึ ในลำคอและนึกในใจ “ไม่รู้ซะแล้วว่ามืออาชีพ” ความโกรธที่ถูกข่มอยู่ภายใต้น้ำเสียงอันราบเรียบเหมือนคนซื่อ นั้นทำให้ “กองเชียร์” เห็นใจเธอ... หญิงตูดใหญ่คนนั้นทำหน้างง ฝ่ายชายเองก็ทำหน้าเหมือนถูกต่อย…

เขาไม่เคยทำให้เธอ “จับผิด” ได้สักครั้ง จะว่าไปแล้ว วิชาชีพที่เธอใช้ทำมาหากินตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้คงถึงคราวอวสาน เธอเองก็รู้สึกถึงความล้มเหลวเมื่อไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเธอนั่นเองที่หักหลัง...
เหตุการณ์ดังกล่าวนี่เองทำให้เธอตัดสินใจได้ทันทีว่าเวลาหลายปีที่ใช้มาด้วยกันนั้นถึงวาระสิ้นสุดลงแล้ว

* * * * *

เสียงเพลงยังดังซ้ำไป ซ้ำมาอยู่อย่างนั้น เธอใช้เพลง... เพื่อ “ล้างใจ” ตัวเองให้ไม่เหลือแม้ตะกอนตกค้าง ถึงแม้ในวันนี้เธอจะยังไม่สามารถลืมเขาและเรื่องราวล่าสุดนั้นได้ก็ตาม แต่เหตุการณ์นั้นก็สอนเธอว่า “มันดีแค่ไหนแล้วที่ไม่ยิงทิ้งเสียทั้งคู่ เพราะไม่อย่างนั้นใครจะมาเป็นทนายความแก้ต่างให้เมื่อต้องกลายเป็นจำเลยเสียเอง” เพราะอาชีพที่ต้องพานพบกับเรื่องราวแบบนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเรื่อง “ผัวมีเมียน้อย” จะเกิดขึ้นกับเธอได้...

เขาเป็นชายหนุ่มร่างผอมสูง เรียบร้อย นิสัยดี กตัญญูต่อพ่อแม่ โคตรตรงสเป็กเธอเลยทีเดียว... เธอรู้จักเขามาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เรียนปริญญาตรีปีสุดท้าย ในตอนนั้นเขายังเป็นหนุ่มคณะบัญชี หน้าใส ยิ้มง่ายมีไมตรี ขณะที่เธอเป็นสาวห้าว เก๋ไก๋ไลด์อัพและชาญฉลาด มีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาและคดีความต่างๆ

.... ห้าปีพอดีหากนับจากวันที่รู้จักกันยันถึงวันสุดท้ายที่ “นาฬิกาบนหัวเตียง” ยังอยู่...


Part : 2


ซักวันหนึ่ง คงต้องมา อีกครั้ง ซักวันหนึ่งคงต้องไป
ซักวันหนึ่งถึงแม้บอก ว่ารัก อาจจำต้องแยกย้าย
วันนี้เราเจ็บยังไง วันต่อไปอาจเจ็บกว่านี้
รักเป็นสิ่งที่ดูว่าดี หากว่ามีแต่ความจริงใจ


ก่อนที่เขาจะไป.. ประโยคน้อยเนื้อต่ำใจของเขาทำให้เธอแทบน้ำตาร่วง... และถ้าหากความรักทำให้เธอหูอื้อ หน้ามืด ตามัว เห็นคนชั่วเป็นเทวดา เธอก็คงไม่ยอมให้เขาไป... ถ้าไม่เพราะภาพของหญิงสาวร่างเล็ก ตัวสั้น ป้อม ตูดใหญ่ ไหล่กว้าง คนนั้นต่อยเข้าที่ปลายคางจนเห็นดาว.... เธอคงไม่คิดว่าประโยคของเขาประโยคนี้คือการตอแหลแบบมืออาชีพที่ฝึกฝนมาอย่างดีจนน่าให้ออสการ์เป็นรางวัล

“ผมนึกแล้วว่าคุณไม่เอาผมไว้หรอก.. ที่จริง ผมก็รู้มาตั้งนานแล้วว่าผมไม่เหมาะสมกับคุณเลย คุณเป็นถึงทนายความในบริษัทกฎหมายข้ามชาติ แต่ผมเป็นเพียงพนักงานบัญชีกระจอกๆ ในบริษัทขายรถยุโรปเล็กๆ เท่านั้น... ที่คุณยอมคบกับผมมาถึงวันนี้ก็เป็นบุญของผมนักแล้ว” ใช่... นั่นเป็นอีกประโยคที่จะถีบส่งเขาลงนรกไปปีนต้นงิ้ว ปากเท่ารูเข็ม เพราะนอกจากจะสวมเขาให้เธออย่างพอดิบพอดี ยังกับรู้ว่าเธอเป็นสาวกคาราบาว แล้วเขายังผิดศีลข้อสี่-ที่ “หลวงพี่มีน” เตือนเธอเสมอ ว่า “ลงกระทะทองแดงนะโยม”

“หลวงพี่มีน” ก่อนบวชนั้นเป็นชายหนุ่มหน้าตี๋ ตัวขาวผ่อง ใส่แว่น ยิ้มตาหยี เขาศึกษาพุทธศาสนาอย่างละเอียดจนบารมีแก่กล้าแล้วจึงลาออกจากการเป็นฆราวาสเข้าสู่ร่มกาสาวพัตรตั้งแต่วัยยังไม่ถึงเบญจเพสดี และได้ฉายาว่า “มีนาชยันโตภิกขุ” ซึ่งในอดีตนั้นเขาคือ “มีน” ที่เธอเคยหลงรักจนหัวทิ่ม และเมื่อท่านบวชพระเธอก็ยังไม่คลายสงสัยว่าเป็นเพราะเธอหรือเปล่าที่ทำให้หลวงพี่ท่านชิงลาบวชก่อนถึงวาระอันควร...

“ผิดศีลข้ออื่นน่ะยังลงนรกไปคนเดียว แต่ถ้าผิดข้อสามนี่คือ เกี่ยวก้อยกันลงไปสองคนเชียวนะโยม...” พระท่านว่าอย่างนั้น ในคราวแรกที่จับได้คาหนังคาเขาว่าผัวมีเมียน้อย เธอรู้สึกถึงความมึนงง... เหมือนถูกกระโดดถีบกลางอากาศท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัดจนดอกบานไม่รู้โรยแทบเกรียมแดดตายคาต้น นั้นเธอหันหน้าเข้าหาธรรมะก่อนอย่างอื่น...

อาจเพราะก่อนที่ “มีน” จะกลายเป็น “หลวงพี่มีน” ในวันนี้เธอเคยให้สัญญากับเขาว่า

“จะถือศีลข้อที่ห้าอย่างเคร่งครัด และจะเลิกตบยุง เลิกบี้มด งดตกปลา” เป็นการปวารณาตัวเองเพื่อเป็นธรรมทานถวายหลวงพี่ในคราวนั้น และแน่นอนว่า หลังจากนั้นเธอก็ไสหัวตัวเองออกจากชมรมเมรัยหรรษาเลิกดื่มไฮเนเก้น แอนด์ฮันเดรส ไพเพอร์ส... เลิกตบยุงเว้นถ้าเผลอและหมั่นไส้ที่มันดูดเลือดจนตัวแดงเป่ง... เลิกสังหารหมู่ขบวนมดที่กำลังขนไข่เข้ารังด้วยน้ำเดือดที่เพิ่งยกลงจากเตา... ที่สำคัญคือ เก็บคันเบ็ดพร้อมออปชั่นราคาเหยียบแสน แล้วเขียนจดหมายลา Penn, Abu, Shimano.. และมิตรรักชาว “BP Angler club” อย่างเศร้าสร้อย...

“อาตมาอโหสิ” หลวงพี่มีนจึงเป็นทางเดียวที่นอกจากจะปรึกษาได้แล้วยังไม่ลุกขึ้นมาใช้จระเข้ฟาดหางเมื่อเธอพูดไม่เข้าหู เพราะหลวงพี่สำรวม ใจเย็น และเป็นกลาง...
“ดีแล้วที่โยมไม่วู่วาม แล้วทำอะไรชั่ววูบลงไป ฆ่ามด ฆ่าแมวยังบาปแล้วถ้าได้ฆ่าคนลงไปก็คงไม่ได้ผุดได้เกิด” พร้อมด้วยเทศนาอีกกัณฑ์ใหญ่...

น่าแปลกที่เธอเองก็ชอบฟังหลวงพี่มีนเทศน์ บางคราวเธอขออนุญาตบันทึกเทปการบรรยายในวันสำคัญทางศาสนามาไว้เปิดฟังในยามที่จิตใจเหมือนโดนเผาด้วยเบนซินราดลงไปในกองไม้สักจากลุ่มสาละวิน... เสียงเทศนาของหลวงพี่มีนทำให้เธอใจเย็นขึ้น...


Part : 3

เผื่อเอาไว้ บ้างเผื่อเอาไว้ เตรียมใจไว้สักหน่อย
อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย ในชีวิตคนเรา
เจ็บมาแล้ว ก็เจ็บไปแล้ว เจ็บมาจนเข้มแข็ง
หลับสักตื่นพักฟื้นเอาเรียวเอาแรง ต่อสู้ชีวิตกันใหม่


“หึ...” เธอเพียงหัวเราะในลำคอ เมื่อเนื้อเพลงท่อนนี้วนกลับไปมาอยู่เพียงท่อนเดียวซ้ำๆ อย่างนั้น... เครื่องเล่นซีดีเครื่องนี้ตกรุ่นไปนานแล้ว มันเป็นเครื่องเรือนชิ้นแรก ตอนที่เพิ่งเริ่มทำงานในปีแรกๆ เธอใช้บัตรเครดิตผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เกือบเท่าตัว... ทำยังไงได้ ก็ตอนนั้นดันอยากมีของไฮเทคใช้ ผ่านมาไม่กี่ปี แทบไม่ต้องพูดถึงเงินที่จ่ายไป... เพราะมันซื้อเครื่องรุ่นเดียวกันนี้ได้ถึงสามเครื่อง...

เธอเดินไปปิดเพลง... แล้วกลับมานั่งจัดการเอกสารและเตรียมพร้อมสำหรับขึ้นศาลในพรุ่งนี้...

“เงียบๆ บ้างก็ดี จะได้มีสมาธิทำงาน...” เธอบอกตัวเองอย่างนั้น

ตั้งแต่เขาไม่อยู่ บ้านก็โล่งขึ้น เพราะข้าวของเครื่องใช้ทั้งหลายถูกขนไปเหมือนถูกโจรยกเค้ายังไงยังงั้น ไม่ว่าจะเป็นชุดโซฟา ตู้เย็น เครื่องดูดฝุ่น เตารีด... ที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นเครื่องซักผ้าที่เธอโกรธแทบตามไปจิกผมผู้หญิงคนนั้นมาตบให้หน้าหัน... เขาเองก็ทั้งรู้ว่าเธอเกลียดการซักผ้าด้วยมือเป็นที่สุด ยังทำร้ายกันได้เพียงนี้... แต่เธอก็อดคิดไม่ได้ว่า “ผู้หญิงคนนั้นทำอะไรเป็นบ้าง” ถึงแม้เธอเองจะไม่เป็นแม่บ้านแม่เรือนเอาเสียเลย เสื้อผ้าที่เลือกซื้อ ถ้าไม่เป็นชีฟองแบบไม่ต้องรีดก็เลือกชุดที่ส่งร้านซักรีดได้โดยไม่ต้องกังวลรอยยับ... แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่เคยแช่จานไว้ให้ใครตามล้างทีหลัง...

ถ้าผู้หญิงคนนั้นดีจริง... ทำไมเขาจึงต้องขนข้าวของไปจนเกลี้ยงบ้าน หรือนั่นเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยของสินสอดที่จ่ายมา ซึ่งในความจริงมันควรจะถูกหักลบกลบหนี้กันไปตั้งแต่วันแรกที่เขาเปิดซิงเธอไป... ต่อให้เขาเรียนบัญชีมาก็จริงแต่เขาก็ไม่ใช่คนจุกจิกเรื่องมากขนาดนี้... ที่สำคัญคือ เขาไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเองถึงแม้จะทำงานในบริษัทขายรถ แต่เธอต้องไปส่งเขาที่ทำงานในทุกเช้าก่อนที่เธอจะเข้าสำนักงาน...

อืมม์... ในส่วนนี้ เมื่อไปผนวกเข้ากับเรื่องอื่นแล้วดูเหมือนเธอจะขาดทุน...

และถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มาเจ้ากี้เจ้าการในระหว่างขนย้าย เขาก็คงไม่เอาเครื่องซักผ้าไป... น่าเสียดายที่ตอนเขาแอบมาขนของนั้นเธอกำลังขึ้นศาลหน้าดำคร่ำเครียด เพื่อเป็นทนายแก้ต่างให้กับลูกความที่กำลังเป็นความเรื่องการแบ่งมรดกพอดี..

เธอมองไปรอบๆ ห้องโถง ก่อนจะเดินเข้าครัว ห้องนอน... ที่เหลืออยู่มีเพียงเตียงนอนแบบคู่หลังใหญ่ โน้ตบุ้คส่วนตัวที่เธอติดรถไว้ตลอดเวลา โคมไฟ ตำรากฎหมาย และเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีที่บังเอิญติดตั้งระบบค้นหาแบบ GPS พร้อมกล้อง web camera สำหรับการประชุมทางไกลระหว่างประเทศ และระบบรักษาความปลอดภัยชั้นสูง แต่อาจเพราะเขาใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น... เขาจึงไม่ยกมันไปด้วย... เธอคิดในใจ... “เกือบไปแล้ว”

.... ห้าปีพอดีหากนับจากวันแรกที่แต่งงานกันจนถึงวันสุดท้ายที่ “เครื่องซักผ้า” ยังอยู่...


Part : 4

“รักแล้วไม่อาจอยู่ร่วม จะดิ้นรนให้เจ็บปวดไปทำไม?”

ประโยคที่คมบาดคอ จากปากชายหนุ่มที่เธอหลงรักจนหัวทิ่มก่อนที่เขาจะหนีเธอไปบวชเป็นพระ...

บ่ายนั้น.. หลังจากขึ้นศาล เธอก็บึ่งรถไปยังวัดที่พระมีนาชยันโตภิกขุจำพรรษาอยู่... จอดรถบีเอ็มดับเบิลยูสีเมทัลลิกไว้ใต้ต้นพิกุล เดินเข้าไปไหว้พระในโบสถ์แล้วย้อนออกมากราบหลวงพี่ที่กำลังกวาดใบไม้อันเป็นกิจวัตรประจำวันของสงฆ์

“นมัสการค่ะ หลวงพี่” เธออยากถามต่อว่า “สบายดีไหมคะ” แต่การเข้าวัดหลังจาก “มีน” บวชแล้วทำให้เธอรู้จักกาลเทศะในการเข้าหาพระหาเจ้ามากขึ้นตามลำดับ...

“เจริญพรโยม อะไรทำให้โยมร้อนขนาดต้องมาดับถึงที่นี่หรือ”

“เปล่าหรอกค่ะหลวงพี่เรื่องร้อนน่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่เรื่องที่ดิฉันมาพบหลวงพี่วันนี้เพราะมีเรื่องมาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ”

“สีหน้าเบิกบานดีนี่โยม”

“ค่ะ เพราะตอนนี้ ดิฉันเพิ่งจะว่าความให้ลูกความรายสุดท้ายไป... แล้วก็ว่าจะพักงานสักสองเดือนไปวิปัสสนาในวัดไทยที่ศรีลังกา น่ะท่าน”

“โอ้ เป็นบุญแท้ๆ อนุโมทนาด้วยนะโยมนะ ว่าแต่เรื่องที่โยมบอกว่าจะเล่าน่ะมันเรื่องอะไรรึ”

“อ๋อ... คือ มีคดีที่รับผิดชอบอยู่คดีหนึ่งค่ะ เป็นเรื่องของชายคนหนึ่ง ยิงภรรยาตัวเองด้วยลูกซองเข้าที่หน้าผากสองนัดซ้อน เพราะไปเห็นผู้ตายกำลังนั่นกันกับชายชู้เขาเลยยิงโป้งเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายตัดขั้วหัวใจชายชู้ตายคาเตียงในสภาพที่นั่นยังคาอยู่ในนั้นน่ะค่ะ”

“อ่า โยม... ขอโทษนะอาตมาไม่เข้าใจคำว่า นั่นกัน... ช่วยขยายความทีได้ไหม” เธอหน้าแดง... แล้วอธิบายความเป็นภาษาธรรมะด้วยคำว่า “สังวาส” หลวงพี่จึงได้อ๋อขึ้นมาแต่สีหน้ายังนิ่งคล้ายพระประธานในโบสถ์ เธอดีใจที่หลวงพี่ข้ามพ้นในเรื่องกามะและอินทรียสังวรไปแล้ว

“ค่ะ แล้วหลังจากนั้น ชายคนนั้นก็เข้ามอบตัวพร้อมลูกซองที่หมดกระสุน... พร้อมกับเจาะจงดิฉันให้เป็นทนายความในคดีนี้....และเมื่อได้พบหน้าลูกความดิฉันก็ถามว่าทำไมถึงเลือกใช้บริการบริษัทกฎหมายที่คิดค่าดำเนินการโคตรแพงอย่างบริษัทของดิฉันในเมื่อทนายความเก่งๆ คนอื่นก็ถมเถ แล้วอาจจะจ่ายน้อยกว่าด้วย” หลวงพี่มีนนิ่งฟังอย่างสำรวมสมกับเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ท่านไม่วอกแวก ไม่ทะลุกลางปล้อง และที่สำคัญท่านไม่ขัดแย้ง.... เธอจึงเล่าต่อ เมื่อจังหวะที่หลวงพี่กระชับจีวรให้เรียบร้อยขึ้นเสร็จสิ้นลง

“ชายคนนั้นจึงบอกกับดิฉันว่า... คนที่เป็นชู้กับเมียผม ก็สามีคุณนั่นแหละ และที่ผมรู้ว่าคุณเป็นเมียของหมอนั่นเพราะว่าวันที่ผมเห็นทั้งสองคนเดินในตลาดแล้วคุณเดินตามเข้าไปแกล้งชนเมียผมน่ะ ผมก็ยืนอยู่ไม่ไกล แต่เพราะคนเยอะ เมียผมถึงไม่ได้สังเกตว่าผมอยู่ตรงนั้นด้วย...

นั่นแหละค่ะ ดิฉันจึงได้รับว่าความให้เขาจนรอดพ้นจากการถูกยิงเป้า.... เอ่อ ว่าแต่ไม่ทราบว่ากรณีแบบนี้ดิฉันจะตกนรกขุมไหนเหรอคะหลวงพี่?”

เป็นคำถามที่ยังไม่ทันได้คำตอบจากหลวงพี่มีนท่านเจ้าอาวาสก็ให้สามเณรมาตามหลวงพี่ท่านไปพบเสียก่อน…/



Create Date : 28 ตุลาคม 2549
Last Update : 28 ตุลาคม 2549 13:45:29 น.
Counter : 1033 Pageviews.

10 comments
  
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:13:46:42 น.
  


วันนี้ตั้งใจมาอวยพรวันเกดิดาริกามณีศรีสยาม
มีความสุขมากๆ เลยน้อง
ฉลองกี่ขวดล่ะนั่น.....ขวดน้ำเป-ล่า





ให้โชคดีสุขขีวันเกิด
สิ่งประเสริฐใดหวังตั้งใจ
ให้ได้สมดังฝันใฝ่จิตแจ่มใสทุกวันทุกคืน
ให้ร่ำรวยเงินทองยศศักดิ์
ให้คนรักมากมีดาษดื่น
ทำสิ่งใดจงลุล่วงราบรื่น
อายุยืนปลอดโรคปลอดภัย
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 ตุลาคม 2549 เวลา:14:49:36 น.
  
หนังสือบางเล่มซุกตัวอยู่กล่องเบียร์มุมห้องหลายปีไม่เคยคิดจะหยิบมาปัดฝุ่น
จวบจนเพื่อนมาขอยืมไปอ่าน แค่สองวันเรากระวนกระวายใจอยากอ่านหนังสือเล่มนั้นอีกครั้ง
ไม่รู้เป็นไร เป็นแบบนี้บ่อย
ขอบคุณที่เอามาให้อ่านอีกครั้ง บางประโยคในเรื่องนี้ผมเคยนำมาใช้ในชีวิตจริง
“รักแล้วไม่อาจอยู่ร่วม จะดิ้นรนให้เจ็บปวดไปทำไม?”
โดย: นอกคอก IP: 203.144.226.242 วันที่: 30 ตุลาคม 2549 เวลา:8:40:18 น.
  

สาธุ หลวงพี่มีนค่ะ

ไม่แน่ใจว่าจบหรือยังค่ะ..
โดย: พิม IP: 203.209.25.17 วันที่: 31 ตุลาคม 2549 เวลา:13:50:25 น.
  
สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังจ้า...อายุเท่าไหร่แล้วน้อออ..

มีความสุขสมหวัง ปราศจากโรคภัยเบียดเบียน..เด้อ..
โดย: หมอดาว ศิรินุช คนเดียวกัน (Sirinut ) วันที่: 1 พฤศจิกายน 2549 เวลา:8:20:59 น.
  
That's a great great story naka

Happy birthday ka I've just known from another comment. Is Oct 28 your birthday?
โดย: tuolek IP: 69.153.205.171 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:50:59 น.
  
อ่านแล้วแอบขำ หักมุมดี
โดย: หนูจี้ (JEEZAA ) วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:18:23:06 น.
  
เริ่ดสุดๆ ค่า
ชอบสำนวนเจ็บๆ แบบมีเอกลักษณ์
และวิธีการดำเนินเรื่องฉับไว สะใจ
ดูท่าคนเขียนจะเป็นคนมีความมั่นใจสูงดีนะคะ
โดย: sovo (http://kangalala.spaces.live.com) IP: 218.43.49.9 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:19:53:30 น.
  

เรื่องนี้ ชอบตอนจบ หักมุมดีมาก ๆ เลยค่ะ

เป็นเพราะหันหน้าเข้าหาวัดแท้ ๆ
โดย: พิม ก็ น่ารัก IP: 203.209.25.106 วันที่: 19 ธันวาคม 2549 เวลา:15:01:18 น.
  
อ่านรอบที่ 3 แล้วนะ
เมื่อไหร่เข้ากทม.
คิดถึงดาริฯ จังค่ะ
โดย: ขุนเขาฯ IP: 124.121.30.124 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:10:41:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ