สิงหาคม 2554

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
 
All Blog
เรื่องสั้นวันแห่งความรัก : หาคู่ไปดูหนังฟรี
เรื่องนี้ตีพิมพ์ใน รวมเรื่องสั้น "ขณะหนึ่งของความคิดถึง" สำนักพิมพ์ปีกฝัน พิมพ์ปี ๒๕๔๙ ใช้นามปากกา "ศิรัฐ" ในเล่มเขียน ๒ เรื่อง, อีกเรื่องคือ กุมภาพันธ์ พระจันทร์เต็มใจ



----------------------





“มัทนา” ออดิเตอร์สาว (เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชี) โสด อายุ… เลขสองปีสุดท้าย ได้ตั๋วหนัง ฟรีสองใบจากการส่งชิงโชคตั๋วหนัง ในเทศกาลหนังรักกับคลื่นวิทยุแห่งหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่า “ต้องไปกับคนรักเท่านั้น” มัทนามองความรักเป็นเรื่องของการฆ่าตัวตาย และผู้ชายคือนรกที่เดินได้ เธอทำงานในบริษัทตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศที่มั่นคง และทั้งสำนักงานไม่มีผู้ชายเลยแม้แต่คนเดียว (นั่น แปลว่า มัทนาจะติดสินบนเพื่อนร่วมงานชายให้สวมรอยไปเป็นแฟนเธอเพื่อดูหนังไม่ได้เลยเด็ด ขาด)

หนังรักอเมริกัน ที่ไม่มีฉายในโรงหนังทั่วไป แต่เป็นการฉายรอบพิเศษในวันแห่งความรัก เพื่อคู่รัก… แน่นอน... มัทนาเป็นนักดูหนังตัวเป้ง และไม่เคยพลาดหนังดีที่หาดูยากแม้แต่เรื่องเดียว ปัญหาจึงมีอยู่ว่า มัทนาต้องหา “คู่รัก” เพื่อที่จะไปควงไปดูหนัง (ฟรี) ในวันแห่งความรักที่จะถึงอีกไม่กี่วันข้างหน้า….

“ฉันเกลียดวันที่ 14 เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี… ทำไม มันไม่ 12, 13 แล้วข้ามไป 15, 16,
17 เลยก็ไม่รู้”
มัทนาบ่นกับเพื่อนร่วมงานที่แต่งงานแล้ว

“ยืมสามีฉันก่อนก็ได้นะ…”
เพื่อนสาวหวังดี (อย่างจริงใจหรือเปล่าก็ไม่รู้)

“ขอบใจจ้ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนั้น…เขาควรจะอยู่กับเธออย่างโรแมนติก..”

“งั้นเธอก็ต้องหา… คู่รักให้ได้แล้วล่ะ ถ้าไม่อยากพลาดหนังดี…”

“เฮ้ย แฟนนะ… ไม่ได้หากันง่ายๆ เหมือนซื้อถั่วฝักยาวในตลาดนะเธอ”

“งั้นก็ คืนตั๋วเค้าไปซิ”
เพื่อนสาวเสนอแนะ แบบเย้ยหยันเพราะรู้ดีว่ามัทนาไม่ทำอย่างนั้นเป็นอันขาด... เรื่องอะไร ของฟรีมีบ่อยๆ ซะที่ไหน...

“ไม่มีทาง…”
มัทนายืนยัน

“อย่ายกให้ฉัน ขอร้อง ฉันไม่ชอบดูหนัง”
เพื่อนสาวปฏิเสธและลุกหนีตั๋วหนังสองใบอย่างรังเกียจ และด้วยความอยากดูหนังฟรี มัทนาจึงโทรศัพท์ถึง “ผู้ชาย” ที่เธอรู้จักในชีวิต (นับดูนะว่ามีกี่คน..)

“เฮ้.. ปฏิพันธ์ นายจะ… มาดูหนังกับเราไหม เรามีตั๋วฟรีให้นายใบหนึ่ง หนังดีนะ ไม่มีฉายใน เมืองไทย เพราะเป็นหนังที่ฉายเฉพาะกิจ.. น่า นะ เราเลี้ยงข้าวนายด้วยเอ้า พลีส”
ทั้งออดอ้อน และขอร้องด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารแล้วเพื่อนผู้เป็น “ญาติน้ำหมึก” ก็ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามด้วยเหตุผลว่า…

“กันต้องนอนกอดน้องรีเจนซี่ในคืนวันที่ 13 และวันที่ 14 ก็มีงานชุมชุมนักเขียน, ไปไหม ไปด้วยกัน เธอก็เป็นนักเขียนคนหนึ่งนี่นา… งานนี้น่าสนุกจะตาย เจ้าของสำนักพิมพ์ ลงทุนทำขนมจีนแกงเขียวหวานมาล่อแล้วเชียวนะ กันว่าอาจจะดีกว่าไปดูหนังก็ได้ บางทีเธออาจะพบรักกับนักเขียนสักคนก็ได้นะ”
ปฏิพันธ์ ชายหนุ่มนักเขียนจากภาคเหนือเชื้อสายชาวเขาเผ่าปะหล่อง เขารักเผ่าพันธุ์พอๆ กับรักน้องรีเจนซี่ และไม่เคยเคืองโกรธหากใครจะเรียกเขาด้วยชื่อ “ปะหล่อง”

“ไม่มีทางหรอกปฏิพันธ์ เราไม่ใช่สาวสวยสมองดีที่ใครจะมาเดินสะดุดตกหลุมเพราะซุ่มซ่าม ง่ายๆ หรอก และที่แน่ๆ เราไม่อยากได้อะไรที่เราก็เป็นอยู่แล้ว.. อย่างเช่น การมีแฟนเป็นนักเขียน โอ.. นายคิดดูว่าถ้าหาเราสองคนเหงาพร้อมกัน เวลานั้นคงเหมือนอยุ่ในป่าช้าวัดดอนเมื่อหลายสิบปีก่อนแน่ๆ...”

“ก็สุดแต่แม่นางจะครุ่นคิด”
นั่นดูเหมือนหมอนี่จะถูกผีขี้เมาสวมวิญญาณนักเขียนเข้าสิง...

“ตกลงนายจะไม่ไปดูหนังกับเรา.. โอ เค เพื่อน ซึ้ง”

“ขอให้โชคดี”
เขายังหวังดีอวยพร...

มัทนาไม่ได้โกรธปฏิพันธ์ที่เห็นน้องรีเจนซี่ดีกว่าเธอ เพียงแต่เธอต้องหา “รายต่อไป” ต่างหาก…

“จุฑา คือ พี่ได้ตั๋วหนังมาสองใบ แบบฟรีน่ะ แต่เขาให้ไปดูกับคนรัก แล้ว… พี่ไม่มีเพื่อนไปดู แฮ่ๆ จุฑา ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ….”
ชายหนุ่มอายุย่าง 27 ที่มีเพื่อนสนิทเป็นเกมออนไลน์และหนังสือการ์ตูน มัทนาไม่ได้หวังกับหนุ่มน้อยคนนี้นัก แต่เขาเป็นหนึ่งในบรรดาชายหนุ่มไม่กี่คนที่เธอรู้จัก!

“จุล ไม่ว่างเลยพี่… เอาไว้คราวหน้าได้ไหม”

“เหตุผลล่ะ”

“จุลก็มีนัดมั่งดิพี่มัท วันวาเลนไทน์ ใครๆ เขาก็ต้องมีคนรักทั้งนั้นแหละ”
น้ำเสียงของน้องชายที่พูดว่า “ใครๆ เขาก็ต้องมีคนรักทั้งนั้นแหละ” นั่นคล้ายดั่งดาบแหลมเสียบตัดขั้วหัวใจ มัทนาเลยทีเดียว.... แล้วเจ้าจุลก็รอดตัวไป…

“พี่ทำไมไม่ชวนคนนั้นล่ะ อีตาขนมจีบไงพี่"
ว่าจบก็หันไปเล่นแร็คนาร็อคต่ออย่างเอ็นจอย มัทนานึกถึง “อีตาขนมจีบ” เขาเป็นชายหนุ่มที่เดินผ่านหน้าตึกที่มัทนาทำงาน ทุกวัน เขาและ เธอจะเดินสวนทางกันทุกวัน เมื่อก่อนมัทนาก็ไม่ได้สังเกตว่าเดินสวนทางกับเขาเพราะคนที่ “เดินสวนทาง” กันแต่ละวันนั้นไม่ได้มีคนเดียว และเขาก็ไม่ได้มีอะไรเป็นที่น่าสังเกต และ น่าจดจำเลย แต่มีอยู่วันหนึ่งที่มัทนารีบเดินจ้ำอ้าวมาทำงาน เพราะนาฬิกาตอกบัตรกำลังจ้องจะกินตับอยู่…

มัทนาเดินหลบคนอีกคนเลยชนโครมเข้ากับผู้ชายคนนั้น… และมันเป็นความบังเอิญเพียงครั้ง เดียวที่เขาอาจจะลืมไปแล้ว เพราะมันไม่ได้ทำให้เขาเสียการทรงตัวจากการถูกชน นอกจากถุงขนมจีบที่ถืออยู่นั้นหมุนติ้วเล็กน้อย แน่นอนว่าสาวขี้อายอย่างมัทนา พูดคำว่าขอโทษในลำคอพร้อมกับการ “เผ่น”

ค่ะ, เธอวิ่งหนี…

มัทนาแน่ใจว่าเขาต้องจำเธอไม่ได้… แต่เธอก็หลีกเลี่ยงเส้นทางนั้น จนเวลาผ่านไปหลายเดือน เธอจึงกลับมาใช้เส้นทางเดิม.. หลังจากนั้นเป็นต้นมา มัทนาก็กลายเป็นหญิงสาวช่างสังเกตขึ้นมาทันที ….

ทุกเช้าก่อนจะถึง “ที่เดิม” ที่ต้องเดินสวนทางกับเขา มัทนาจะทายในใจว่าวันนี้ผู้ชายคนนั้นจะ ใส่เสื้อสีอะไรมาทำงาน บางวันก็เป็นสีเขียวเข้ม สีน้ำเงินเข้ม สีฟ้าอ่อน สีครีม แต่ทุกวันเขาจะมีถุง “ขนมจีบ” ถืออยู่ในมือเสมอ…

ทำไมมัทนารู้ว่าเป็นขนมจีบนะเหรอ? นั่นเพราะมีอยู่วันหนึ่งที่มัทนามาทำงานก่อนเวลา ซึ่งมันจะทำให้เธอและเขาไม่ได้ “เดินสวนทาง” เธอจึงเดินย้อนจากตึกที่เธอทำงาน ไปอีกทางเพื่อ ให้ “สวนทาง” ถ้าถึงเวลาที่เขามาทำงาน แต่ปรากฎว่าวันนั้นเธอเห็นเขายืนซื้อขนมจีบอยู่ที่ร้านป้าตรงมุมตึกถัดไป…หลังจากนั้นวันไหนที่มัทนา มาทำงานแต่เช้าเธอจะเดินย้อนไปที่ร้านขายขนมจีบซาลาเปาป้าคนนั้นเพื่อที่จะซื้อซาละเปา (ถึงจะไม่อยากกินเลยก็ตาม) มันเป็นความสุขอย่างหนึ่งก่อนที่มัทนาจะเข้าออฟฟิศ และทำงานอย่างเคร่งเครียด… ไม่เท่านั้นนะ ทุกวัน… วันไหนที่เธอเจอเขา เธอจะเขียนลงไปในสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่ง ว่า “วันนี้เขาใส่เสื้อสีอะไร” มัทนาเริ่มเขียนตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน ปีที่แล้ว ถึงตอนนี้ก็ 3
เดือนกว่าๆ แล้วล่ะ.. มัทนาเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนชื่อ “นที” ฟัง เขาแนะนำอย่างติดตลกว่า

“สะกดรอยตามขึ้นสะพานลอยไปเลย แล้วสะกิดสีข้างถามเลยว่าพี่ๆ ขนมจีบนี่ซื้อมาจากไหน ขอซื้อต่อได้ไหม เท่านั้นแหละเขาก็จะจำเธอได้ขึ้นใจเลย…”
มันเป็นมุขที่ขำดีนะ… ว่าไหม แต่มัทนาไม่กล้าทำอย่างนั้นหรอก ขนาดเดินบนทางเดินเธอยังเดินก้มหน้า โดยมีประวัติอันน่า ประทับใจว่า เคยเดินชนตู้โทรศัพท์สาธารณะไป 3 ครั้ง ชนถังขยะเขียวไปอีก 2 ครั้ง ชนม้านั่ง (ที่ก่อปูนยึดกับพื้นไว้) อีก 3 ครั้ง ชนรถยนต์ที่จอดอยู่เฉยๆ อีก 5-6 ครั้ง แน่นอน เธอยังเคยเดินชนหมาด้วย นี่ไม่นับชนคนนะ….

เพื่อนที่ทำงานคนหนึ่งก็แนะนำว่า “แกล้งทำผ้าเช็ดหน้าหล่นสิ…” เป็นแผนที่เชยดี แต่มัทนาไม่พกผ้าเช็ดหน้า เลยอดใช้แผนนี้….

อีก 4 วันเท่านั้นก็จะถึงวันวาเลนไทน์ วันที่… มัทนาจะต้องมี “คนรัก” ควงไปดูหนัง (ฟรี)

“จุล พรุ่งนี้พี่จะทักเขาให้ได้แล้วพี่จะบอกเขาอย่างนี้นะ… อ่า ขอโทษนะคะ, คือ ฉันอยากจะขอคุยด้วยหน่อยได้ไหมคะ สักไม่กี่นาที, แบบว่าเดินไปคุยไปก็ได้ค่ะ คือ ฉันอยากเป็นเพื่อนกับคุณ คือฉันเจอคุณบ่อยค่ะ แต่ไม่กล้าทัก วันนี้ฉันเลยทัก เพราะฉันไม่แน่ใจว่า ฉันจะมีชีวิตอยู่ถึงพรุ่งนี้เพื่อที่จะทักคุณไหม… คือ ฉันคิดว่าถ้าเราอยากเป็นเพื่อนกับใคร เราควรเป็นคนเดินไปทักเขาก่อน คือ.. เฮ้อ ทำไมมันยากจังวะ..”
น้องชายที่กำลังสนใจในเกมหันหน้ามาแล้วบอกว่า

“พี่มีคำว่า คือ มากเกินไป มันทำให้พี่รู้สึกประหม่าและไม่มั่นใจในตัวเอง… ถ้าเป็นจุล จุลคงคิดว่าพี่เป็นผู้หญิงที่ผิดปกติทางจิต อ่อ.. แล้วก็มุขพรุ่งนี้จะตายเนี่ย เชยระเบิดไปเลยพี่ นิยายมาก ไปคิดมุขใหม่เหอะจุลขอร้อง…”
ชายหนุ่มหน้าตาดี และ ปากดี พูดอย่างนั้น มันทำให้มัทนาต้องเรียบเรียงคำพูดใหม่…

พรุ่งนี้วันอังคาร… มะรืนนี้วันพุธ พฤหัส และศุกร์ มัทนาชักท้อแท้ เพราะเธอไม่รู้จักผู้ชายคนไหนที่พอจะให้ “สวมรอย” เป็นคู่รักเพื่อไปดูหนังฟรีเลย… บางทีเธออาจจะสละสิทธิ์ ไม่เห็นเป็นไรเลย ก็แค่หนังเรื่องเดียว สักวันก็คงได้ดู… มัทนาปลอบใจตัวเอง และคิดจะล้มเลิกการ “หาคู่ไปดูหนังฟรี”

มัทนาไม่ได้อยากมีคนรัก ที่เป็นตัวตนเป็นๆ อย่างที่เกริ่นไว้แต่แรกว่า เธอแอนตี้การแต่งงานเพราะนั่นจะทำให้ชีวิตอันเสรีของเธอต้องผันผวนรวนเรแปรปรวนเหมือนคลื่นลมในทะเล…

“ฉันไม่มีทางให้ใครมาคอนโทรลชีวิตฉันเป็นอันขาด น่าเบื่อตายเลย”
มัทนาบ่นกับเพื่อนสาว (คนเดิม)

“แต่เธอก็เคยมีแฟนนี่นา…”

“จริงๆ ก็มีได้นะ แบบว่า มันก็ทำให้ชีวิตสดใสดี แต่ฉันชอบอยู่คนเดียว และฉันก็มีความสุขดีแล้ว ที่ไม่ต้องขออนุญาตใครถ้าต้องไปไหน ฉันอาจจะไม่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตเป็นคู่ก็ได้… อ่อ ที่แน่ๆ ฉันไม่ใช่นางงาม ฉันไม่รักเด็ก และบางที… ฉันอาจจะกลัว เหมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เพราะการแต่งงานที่ล้มเหลว มันคงไม่ใช่เรื่องที่งามเท่าไหร่นัก”

“งามสิมัท งามหน้าไง โฮ่ๆ”
เพื่อนร่วมงานแต่ละคน ปากคอ อย่างนี้ทั้งนั้นแหละ..ปกติค่ะ

“เอ้า… แล้วพ่อหนุ่มขนมจีบ ของเธอล่ะ ไปทักเขาหรือยัง”

“ไม่อ่ะ, ไม่กล้า และคิดว่าคงไม่กล้า และจะไม่กล้า.. ช่างเถอะ แค่คนเดียว”

“เธอนี่… บทจะทิ้งอะไรง่ายๆ ก็ทิ้ง เธอนี่ แปลกคนจัง”

“ปัญหาคือ ฉันจะทำยังไงให้มีคนควงไปดูหนังในวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ช่วยคิดหน่อยสิ” มัทนาพูดอย่างปลงตก... /



Create Date : 28 สิงหาคม 2554
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 23:49:38 น.
Counter : 1598 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดาริกามณี
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 25 คน [?]



Just Do it :


* มีอีกชื่อว่า หญ้าเจ้าชู้

* เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์บทประพันธ์
รักข้ามรั้ว (หญ้าเจ้าชู้)
ลุ้นสุดฤทธิ์ พิชิตรัก (หญ้าเจ้าชู้)
ภารกิจรักพิทักษ์เธอ (หญ้าเจ้าชู้)
ปีกแห่งฝัน (ดาริกามณี)

* เป็นสาวก 'รงค์ วงษ์สวรรค์
* เป็นแฟน คาราบาว
* เป็นกิ๊ก เฉลียง
* ฝืนอะไรที่เป็นอื่น ฝืนอัตตา
สูงเทียมฟ้าก็มิเท่า เป็นเราเอง

* การปรากฎตัวของคนคนหนึ่ง
อาจเปลี่ยนใครอีกคนไปทั้งชีวิต

* หากต้องการอ่านนิยายที่ใส่รหัส,
รบกวน "ฝากข้อความหลังไมค์" จ่ะ