เอฟวัน ยังไม่ล้ม เดินหน้าหาจุดเหมาะสม ทั้งสถานที่แข่งขัน และเรื่องเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายสูงถึงกว่า 2 พันล้านบาท เชื่อหากให้ภาครัฐจ่ายอาจไม่เหมาะนัก มีแนวทางใหม่ ประสานงานกับทางกระทรวงการคลัง หาเอกชนร่วมมือ รวมถึงการก่อสร้างสนามที่อาจจะแพ็กรวมกับการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในอนาคต เบื้องต้นมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการกับทาง รมต.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ไว้บ้างแล้ว
จากการที่ประเทศไทยเตรียมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน หรือ เอฟวัน ซึ่งทางสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) กำหนดไว้ให้ไทยเป็นหนึ่งในสนามตั้งแต่ปี 2015 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า โดยได้มีการเตรียมการหาสถานที่แข่งขันมาเป็นลำดับ จากเดิมที่จะแข่งในเมืองหลวงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ แต่ถูกต่อต้านและขยับไปหาที่แข่งในต่างจังหวัด มุ่งเน้นในเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ และมีการเตรียมที่จะเสนอแผนงานเพื่ออนุมัติงบประมาณจากทางคณะรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งเวลาก็ล่วงมานานแล้ว จนเริ่มมีกระแสว่าอาจจะต้องล้มเลิกไป
ในเรื่องดังกล่าว ดร.สุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยว่า เรื่องของ เอฟวัน ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่ได้ล้มโครงการแต่อย่างไร ซึ่งบรรดาเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในข่ายก็ยังไม่มีการตัดทิ้ง เพียงแต่ยังหาจุดที่เหมาะสมในด้านต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องของงบประมาณที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ค่าธรรมเนียมอย่างเดียวที่ต้องจ่ายให้สหพันธ์ก็ปาเข้าไป 2-3 พันล้านบาทแล้ว ตรงนี้หากทำแผนเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี ก็ดูว่าจะเหมาะสมหรือไม่
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวต่อว่า ทุกฝ่ายก็เห็นว่า เอฟวันเป็นเรื่องดีที่มีประโยชน์ แต่งบประมาณรวมทั้งการก่อสร้างสนาม หากจะให้เป็นภาระของภาครัฐอย่างเดียวแล้วก็แปลก ๆ อยู่ ซึ่งก็มีความเห็นว่า คงต้องมีแนวทางให้ภาคเอกชนเข้ามา ร่วมสนับสนุน ทั้งในส่วนของค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้สหพันธ์ และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสนามแข่งขัน หากเอกชนมาร่วมในส่วนนี้ได้ ก็จะเป็นเรื่องดีมาก และเชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุน
นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวออกมาว่า ได้มีการหารือกับทาง รมต.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในเบื้องต้นที่ขอความช่วยเหลือเพื่อประสานกับภาคธุรกิจเอกชนรายใหญ่ ให้เข้ามาร่วมแบ่งเบาภาระของภาครัฐ และมีแนวทางที่อาจจะร่วมกับแผนงานที่ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในโอกาสต่อไป ที่จะต้องมีการก่อสร้างทั้งสนามและที่พักนักกีฬา หากรวมเอาทั้งสองส่วนมาเป็นแผนงานร่วมกัน และสอดคล้องกัน ก็น่าจะดึงดูดความสนใจให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำประโยชน์ได้ ซึ่งคงจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้.