"แซมบ้า" ทีมชาติบราซิล เกือบเสียฟอร์มต่อหน้าแฟนๆ ของตัวเอง เมื่อเปิดรังเป็นฝ่ายต้องไล่ตามตีเสมอ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ 2-2 ในเกมเปิดใช้งานสนาม "ชามอ่างยักษ์" มาราคานา สเตเดียม หลังปรับปรุงใหม่ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ศึกคอนเฟดเดเรชันส์คัพจะเริ่มขึ้นในช่วง กลางเดือนนี้...

การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรทีมชาติ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. คู่บิ๊กแมตช์เป็นเกมที่ขุนพล "เซเลเซา" ทีมชาติบราซิล แชมป์โลก 5 สมัย เปิดสนาม "ชามอ่างยักษ์" เอสตาดิโอ โด มาราคานา รับการมาเยือนของ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ

บราซิลเกมนี้ นำทัพมาโดย เนย์มาร์ ว่าที่สตาร์รายใหม่ของทีม "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ลงปั้นเกมรุกร่วมกับ ฮัล์ค, ออสการ์ สนับสนุน เฟร็ด ที่ทำหน้าที่กองหน้าตัวเป้า ส่วนอังกฤษใช้ เวย์น รูนีย์ เป็นหัวหอกคนเดียวขนาบข้างด้วย ธีโอ วัลคอตต์ กับ เจมส์ มิลเนอร์ โดยมี แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นจอมทัพในแดนกลาง

เริ่ม เกมครึ่งแรกเป็นบราซิลที่ขึงบอลบุกเข้าใส่อังกฤษตามฟอร์ม ก่อนได้ลุ้นประตูเน้นๆ ครั้งแรกในนาที 18 ดาเนียล อัลเวส วางบอลยาวข้ามแนวรับเลยไปเสาไกลให้ เนย์มาร์ พักบอลลง แล้ว เกล็น จอห์นสัน เข้ามาสกัดวืด เปิดทางให้ เนย์มาร์ ได้ดวลเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท แต่ยิงไปติดตัวอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นยังเป็นบราซิลที่รูปเกมดูดี กว่า และได้โอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง ขณะที่โอกาสเน้นๆ ของอังกฤษต้องรอจนถึงท้ายครึ่งแรกนาที 40 จอห์นสัน เติมเกมตัดเข้าในก่อนจ่ายหักข้อให้ วัลคอตต์ วิ่งสอดเข้าไปสับไกยิงเน้นๆ แต่ ชูลิโอ เซซาร์ ยังป้องกันไว้ได้ สุดท้ายหมดครึ่งแรกไม่มีประตู สกอร์ยังคง 0-0

ครึ่ง หลังยังเป็นบราซิลที่พยายามเปิดเกมรุกบดเข้าใส่ ก่อนมาได้ประตูออกนำจนได้ในนาที 57 เฮอร์นาเนส ตั้งป้อมยิงปั่นโค้งจากนอกกรอบบอลย้อยชนคาน แต่ยังกระเด้งมาเข้าทาง เฟร็ด ที่ยืนรอกางมุ้งอยู่โล่งๆ ยิงซ้ำดาบสองไม่เหลือ แข้งแซมบ้าออกนำ 1-0

หลัง โดนยิง อังกฤษพยายามดันเกมขึ้นมาตอบโต้ และมาตีเสมอได้ในนาที 67 จากจังหวะเคาะกันตามช่องมาถึง รูนีย์ ไหลคืนให้ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงมา วิ่งเข้าซัดเรียดระยะ 20 หลาส่งเบียดโคนเสาซ้ายมือเข้าไป ไล่เป็น 1-1

เท่า นั้นไม่พอ มาถึงนาที 79 อังกฤษมาแซงขึ้นนำได้ด้วย จากจังหวะโต้กลับ มิลเนอร์ ไหลทะลุให้ รูนีย์ ลากพาบอลขึ้นมาก่อนได้โอกาสส่องระยะ 25 หลาส่งบอลโค้งมุดเข้ากระแทกตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม ผู้มาเยือนขึ้นนำบ้าง 2-1

แต่ดีใจได้เดี๋ยวเดียว บราซิลมาตีคืนทันควันเหมือนกันในนาที 82 จากการเลื้อยทางขวาของ ลูคัส มูลา เปิดไปหน้าประตูมาจุดนัดพบให้ เปาลินโญ ที่ยืนอยู่โล่งๆ เอี้ยวตัววอลเลย์เสียบมุมแบบคมกริบ สกอร์กลับมาเท่าอีกครั้ง 2-2

ช่วงที่เหลือบราซิลยังพยายามบุกหนัก แต่ขึ้นนำอีกครั้งไม่สำเร็จ จบเกม บราซิล เสมอกับ อังกฤษ ไปอย่างสนุก 2-2

ส่วน ผลอีกคู่น่าสนใจ "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมนี ที่ยังคงไม่มีแข้งตัวหลักจาก บาเยิร์น มิวนิค และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยกพลบุกพ่ายทีมชาติสหรัฐฯ 3-4 โดยสหรัฐฯได้ประตูจาก โจซีย์ อัลติดอร์ นาที 13, มาร์ค-อังเดร สเตเกน ทำเข้าประตูตัวเองนาที 16 และ คลินท์ เดมพ์ซีย์ เหมารวดเดียวสองลูกนาที 60 และ 64 ส่วนเยอรมนีเอาคืนได้จาก ไฮโค เวสเตอร์มันน์ นาที 51, แม็กซ์ ครูส นาที 79 และ จูเลียน แดร็กซ์เลอร์ นาที 81