"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังคงไร้มนต์ขลังกับเกมในบ้านหลัง ทำได้แค่เพียงเสมอ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เหลือ 10 คน ท้ายเกมไป 1-1 โดยได้ หลุยส์ ซัวเรส ช่วยยิงประตูกู้หน้า หลังจากที่โดนขึ้นนำไปก่อนในครึ่งแรก...

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เกมไฮไลท์ของวันเป็นการพบกันของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 12 ของตาราง เปิดรังแอนด์ฟิลด์ รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมอันดับที่ 10

เกมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคงมีปัญหาด้านนักเตะบาดเจ็บ ที่ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ในการจัดทีม ซึ่งเกมนี้ก็เรียกใช้งาน แบร็ด โจนส์ นายด่านสำรองลงเฝ้าเสาเป็นนัดที่ 3 ติด ขณะที่กองหน้ามี หลุยส์ ซัวเรส ล่าตาข่าย โดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นตัวหนุน ด้านสาลิกา ภายใต้การนำของ อลัน พาร์ดิว ได้ เดมบา บา กลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ ปาปิสส์ เดมบา ซิสเซ ขณะที่ ชีค ติโอเต ยังติดโทษแบนหมดโอกาสเล่นนัดนี้

โดยก่อนการแข่งขันทาง ลิเวอร์พูล ก็ได้มีการมอบถ้วยให้กับ สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิดล์กัปตันทีมที่ได้ลงสนามช่วยทีมมาจนครบ 600 นัด

เริ่มการแข่งขัน ลิเวอร์พูลเริ่มต้นได้สวยจนมีโอกาสลุ้นประตูถึงสองครั้ง จังหวะแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 7 หลุยส์ ซัวเรส เปิดบอลให้ ซูโซ แข้งดาวรุ่งฝ่าเข้าไปยิงจากมุมขวา แต่บอลหลุดออกหลังไป และหลังจากนั้น 3 นาที ราฮีม สเตอร์ลิง ได้โอกาสซัดนอกกรอบแต่บอลพุ่งถากเสาไปนิดเดียว

นาทีที่ 21 แฟนบอลเจ้าถิ่นหวิดได้เฮ หลัง หลุยส์ ซัวเรส สบช่องกระชากเข้ากรอบเขตโทษไปซัดด้วยขวาแต่คราวนี้ ทิม ครูล ใช้เท้าป้องกันประตูไว้ได้ และหลังจากนั้น 5 นาที นิวคาสเซิล ก็ต้องเปลี่ยนตัว ส่ง แดนนี ซิมพ์สัน ลงแทน เจมส์ เพิร์ช ที่มีอาการเจ็บ

ลิเวอร์พูล เดินเครื่องพับสนามบุกแหลก แต่ก็ยังไม่มีประตู จนเข้าสู่ท้ายเกมครึ่งแรกนาทีที่ 42 นิวคาสเซิล ก็ฉวยโอกาสขึ้นนำ จากจังหวะสวนกลับ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา พาบอลลุยขึ้นมาทางขวาหนีตัวประกบของลิเวอร์พูล ก่อนจะเปิดไปที่เสาไกลให้ โยฮัน กาบาย ดูดบอลลงหวดด้วยขวาแสกหน้า แบร็ด โจนส์ เข้าตาข่าย พา นิวคาสเซิล ขึ้นนำ ลิเวอร์พูล ไปก่อนในครึ่งแรก 1-0

กลับมาต่อในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นฝ่ายครองบอลขณะที่ นิวคาสเซิล มีการเปลี่ยนตัวคนที่สองส่ง แซมบา อเมโอบี ลงแทน เดมบา บา ในนาทีที่ 50 ซึ่งหลังจากนั้น 8 นาที ลิเวอร์พูล ก็หวิดจะได้ประตูตีเสมอจากลูกยิงในกรอบเขตโทษของ หลุยส์ ซัวเรส แต่ ทิม ครูล เซฟไว้ได้ และถัดมานาทีเดียว หงส์แดงก็ได้ลุ้นอีกครั้งจากจากจังหวะที่ นูริ ซาฮิน หลุดเข้ากรอบเขตโทษแต่ยิงถากเสาออกหลังไป

และแล้วในนาทีที่ 67 แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮทั้งสนาม จากจังหวะโต้กลับ โฆเซ เอ็นริเก เปิดยาวจากกลางสนามให้ หลุยส์ ซัวเรส วิ่งเบียด ฟาบริซิโอ โกลอชชินี เข้ามาพักบอลก่อนจะแตะหลบมือ ทิม ครูล จิ้มเข้าตาข่ายไปอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ไล่ตีเสมอเป็น 1-1

หลังจากได้ประตูตีเสมอ ลิเวอร์พูล ก็ฮึดบุกหนักจนเกือบจะมีประตูที่สองในนาทีที่ 76 หลุยส์ ซัวเรส จ่ายออกซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่เจ้าตัวดันยิงพลาดแฉลบกองหลังนิวคาสเซิลออกหลังไป หลังจากนั้น 3 นาที นิวคาสเซิล ก็สวนกลับจนมีลุ้นในจังหวะที่ ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา เลี้ยงจี้มาทางขวา ก่อนจะหักเข้ากลางเขตโทษ แต่ยิงติด แบร๊ด โจนส์

ท้ายเกมนาทีที่ 83 นิวคาสเซิล ต้องเหลือ 10 คน หลัง ฟาบริซิโอ โกลอชชินี โดนใบแดงไล่ออกจากสนามในจังหวะยกเท้าเข้าใส่ หลุยส์ ซัวเรส ทางด้านหลัง และหลังจากนั้น ทีมเจ้าถิ่นก็อาศัยความได้เปลี่ยนบุกทวงประตูชัยแต่ก็ทำไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอ นิวคาสเซิล 1-1 แบ่งแต้มกันไปคนละแต้ม

ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ ควีนส์ ปาร์คเรนเจอร์ส เสมอ เรดดิง 1-1.