วินฟรีด เชเฟอร์ รู้สึกเป็นเกียรติได้โอกาสทำหน้าที่กุนซือทีมชาติไทย เผยซาบซึ้งในพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ของปวงชนชาวไทย กระตุ้นแข้ง "ช้างศึก" รวมพลังบุกคว่ำมาเลเซีย 9 ธ.ค.นี้ เพื่อถวายชัยแด่ในหลวงของเรา...
วันที่ 4 ธ.ค.ว่า "โค้ชวินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเยอรมนี ยอมรับว่า ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาทำหน้าที่กุนซือทีมฟุตบอลทีมชาติไทย พร้อมปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณและพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อพศกนิกรปวงชนชาวไทยทุกคน
เชเฟอร์ กล่าวว่า "ผมได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับประเทศไทยครั้งแรกเมื่อตอนอายุ 10 ขวบ ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนปี 1960 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จมาเยือนประเทศเยอรมนี โดยที่พวกเราชาวเยอรมัน ประทับใจและเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มีโอกาสเห็นท่านทั้งสองในทีวีและหนังสือพิมพ์ที่นั่น และในวันนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้มาทำหน้าที่เฮ้ดโค้ชของทีมชาติไทย"
พร้อมกันนี้ เชเฟอร์ ยังได้กระตุ้นให้ลูกทีม "ช้างศึก" ทำหน้าที่เพื่อชาติอย่างเต็มที่และสมศักดิ์ศรีในการลงเล่นรอบรองชนะเลิศ นัดแรก ซึ่งทีมจะต้องบุกไปเยือน "เสือเหลือง" มาเลเซีย ที่สนาม บูกิต จาลิล เนชั่นแนล สเตเดียม ซึ่งจุแฟนบอลได้มากถึง 1 แสนคน วันที่ 9 ธ.ค.นี้ เพื่อนำชัยชนะมาถวายแด่ในหลวง เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 5 ธ.ค.นี้ ให้ได้
กุนซือวัย 62 ปี กล่าวว่า "ทีมชาติไทย, พวกเราคือทีมช้างศึก ผู้ต้องสู้เพื่อชาติและตอนนี้เราภูมิใจและถึงเวลาแล้วที่จะได้รับใช้ชาติในวันพ่อนี้ เราจะให้นักเตะได้กลับไปใช้เวลากับครอบครัว และในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ พวกเราจะร่วมกันเดินทางไปถวายพระพรต่อท่าน และขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง"
"ช้างศึกคือผู้ที่ต่อสู้อย่างไร้ความกลัว และวันที่แข่งกับมาเลเซียนี้ ต่อหน้ากองเชียร์มาเลเซียเป็นแสน พวกเราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวและต่อสู้อย่างสมศักดิ์ศรีของชื่อทีมช้างศึกและนำชัยชนะกลับมาให้ประชาชนไทยทุกคนและถวายให้ในหลวงของเรา" เชเฟอร์ กล่าวอย่างมุ่งมั่น