เกมฟาดแขงฟุตบอลโลก 2014 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 นัดสุดท้ายของกลุ่ม จี. สหรัฐอเมริกา พบ เยอรมนี เกมฟาดแข้งกันที่สนาม อาเรน่าเปร์นัมบูกู เมืองเรซิเฟ่ ประเทศบราซิล เมื่อคืนวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา

 ทั้งสหรัฐและเยอรมัน ต้องการเพียงหนึ่งคะแนน ก็จะกอดคอกันเข้ารอบ แม้กระนั้นต่างฝ่ายยังยืนยันต้องเล่นเพื่อชัยชนะ และศักดิ์ศรีเอาใจแฟนบอลของตน ขณะเดียวกัน เจอร์เก้น คลินส์มันน์ กุนซือทีม"พญาอินทรี"สหรัฐ ก็เป็นชาวเยอรมันและเป็นเจ้านาย ของ โยอาคิม เลิฟ กุนซือ"อินทรีเหล็ก"เยอรมันมาก่อนอีกด้วย สมัยเมื่อครั้งคุมทีมชาติเยอรมันในอดีต

 ก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มเกิดมีพายุใหญ่จนมีข่าวลือทำท่าว่า เกมอาจต้องเลื่อนจากกำหนดเดิม ทว่าในที่สุดทุกอย่างยังคงสามารถแข่งขันกันได้ตามกำหนดเดิม

 สำหรับ 11 รายชื่อผู้เล่นมีดังนี้

 สหรัฐ : ทิม ฮาวเวิร์ด,แมตต์ เบสเลอร์,โอมาร์ กอนซาเลซ,ดามาร์คัส บีสลีย์,ฟาเบียน จอห์นสัน,แบรด เดวิส,เจอร์เมน โจนส์,ไมเคิล แบรดลีย์,แบรด เดวิส,เกรแฮม ซูซี่,ไคล์ เบเกอร์แมน,คลินต์ เดมพ์ซีย์

 เยอรมนี : มานูเอล นอยเออร์,เยอโรม บัวเต็ง,เบเนดิกท์ โฮเวเดส,ฟิลิปป์ ลาห์ม,มัตส์ ฮุมเมิลส์,เพอร์ แมร์เตซักเกอร์,เมซุต โอซิล,โทนี่ โครส,บาเตียน ชไวน์สไตเกอร์,โธมัส มุลเลอร์,ลูคัส โพโลสกี้

 โดยทางอเมริกามีการปรับผู้เล่น 2 ตำแหน่ง ส่ง โอมาร์ กอนซาเลซ ลงมาแทน เจฟฟ์ คาเมรอน และ แบรด เดวิส แทน อเลฮานโดร เบโดยา ขณะที่เยอรมัน ส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แทน มาริโอ เกิดเซ่ และ ลูคัส โพโดลสกี้ แทน ซามี่ เคดิร่า

 เริ่มเกมแข่งขัน เยอรมันมาในชุดสีดำแถบแดง ขณะที่สหรัฐสวมชุดขาว และเขี่ยบอลก่อนบุกจากซ้ายไปขวา เพียงอึดใจ โพโดลสกี้ก็ได้สับไกตรงเส้นกรอบแต่บอลออกหลังขึ้นอัฒจันทร์เป็นการทักทายก่อน เยอรมันยังคงโหมบุกเข้าใส่เป็นระลอก บอลขึ้นมาทางกราบซ้ายจากโพลดี้ กองหน้าอาร์เซนอล ก่อนจ่ายเข้ากลางให้มุลเลอร์ แต่บอลลึกผ่านมือผู้รักษาประตูสหรัฐ เป็นจังหวะหวุดหวิดเกือบเสียประตูของนักเตะแยงกี้ 

  จังหวะสวนกลับเร็ว นาทีที่ 11 เยอรมันต้องหยุดเกมทำฟาว์ล โดย โฮเวเดสโดนใบเหลืองประเดิมเป็นคนแรกของเยอรมัน จากจังหวะไปเกี่ยวเท้า ปาเบียน จอห์นสัน ที่พาบอลจะเข้ากรอบเขตโทษอยู่แล้ว  

  ผ่านไป 15 นาทีเกมบุกยังเป็นของอินทรีเหล็กอย่างเห็นได้ชัด นานครั้งสหรัฐจะได้จังหวะพาบอลขึ้นไปในแดนคู่แข่งบ้าง แต่ก็ถูกสวนกลับเร็ว นาที 17 ชไวนี่วิ่งฉีกเข้าตรงกลางก่อนแทงทะลุให้มุลเลอร์ แต่กลายเป็นลูกล้ำหน้าไปซะก่อน  

  เกมผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง สหรัฐได้ทีโต้กลับเร็ว ลากบอลถึงเส้นหลัง ทว่า เจอร์เมน โจนส์ วิ่งทะเล่อทะร่าไปชนผู้ตัดสินถึงกับล้มหงายผลึ่งเสียจังหวะเข้าชาร์จในแดนเยอรมันไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะถัดมา โจนส์ได้บอลโยนเกือบจะหลุดทะลุแนวรับเยอรมันขึ้นมาบ้าง แต่จังหวะสุดท้ายบอลลึกไปเข้าซอง นอยเออร์ ผู้รักษาประตูอินทรีเหล็กเข้าเสียก่อน 

 เยอรมันยังคงโหมบุกขึ้นทางกราบขวาริมเส้นก่อนตัดเข้ากลางหน้าประตูให้ เมซิลได้ตวัดยิงด้วยเท้าซ้ายแต่ ทิม โฮเวิร์ด ล้มตัวสกัดบอลกระดอนออกมาได้หวุดหวิด เกมเริ่มผลัดกันรุกรับมากขึ้นแม้ทั้งสองทีมยังไม่สามารถจบสกอร์ได้ 

 นาที 37 ผู้เล่นสหรัฐโดนใบเหลืองบ้าง จากจังหวะ โอมาร์ กอนซาเลซ ตัดเกม โพโดลสกี้ ตรงเส้นกลางสนาม นาทีถัดมาเยอรมันฉกบอลคืน พร้อมจ่ายทะลุช่องขึ้นทางกราบซ้าย โพโดลสกี้หวดเต็มเหนี่ยวแต่บอลยังคงติดมือ ทิม โฮเวิร์ด ไว้ได้เช่นเคย นาทีถัดมาสหรัฐได้ลูกเตะมุมบ้าง แต่บอลก็เลยเสาสองออกไปแบบเสียของไม่มีลุ้น 

    เริ่มครึ่งหลัง เยอรมันเปลี่ยนแผน ส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ลงแทน ลูคัส โพโดลสกี้ ขณะที่อเมริกายังไม่มีการเปลี่ยนตัว รูปเกมยังคงเป็นเยอรมันที่โหมโยนบอลเข้าใส่ทั้งกราบซ้ายและขวา โอซิลได้โขกเต็มแรงแต่บอลข้ามคานออกไปอีก ชไวสไตเกอร์ตักบอลโค้งมาเสาสองให้ โคลเซ่ เทกตัวขวิดบอลได้ไม่เต็มหัว ลูกแฉลบออกข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

  หลังจากบอมชุดใหญ่อยู่นาน จนถึง นาที 55 ความพยายามของเยอรมันก็สัมฤทธิ์ผล จากจังหวะ โยนบอลเข้ากรอบเขตโทษ ทิม โฮเวิร์ด พุ่งปัดบอลออกมาเข้าทาง โธมัส มุลเลอร์ ซึ่งตามมาแถวสอง ก่อนวิ่งแปด้วยเท้าขวาปั่นไซด์โค้งเข้าไปตุงตาข่ายให้ อินทรีเหล็กขึ้นนำ 1-0 นาทีถัดมา เยอรมันเกือบจะได้ประตูที่สอง 

  นาที 59 "ฉลามขาว"คลินส์มันน์ กุนซือมะกันทัพปรับแผนส่ง อเลฮานโดร เบโดยา ลงแทน แบรด เดวิส ช่วงครึ่งหลังผ่านไปไม่นาน เยอรมันครองบอลไว้ได้มากกว่าถึง 61 เปอร์เซ็นต์ เกมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ไคส์ เบเกอร์แมน ของสหรัฐ เตะกวาด ชไวน์สไตเกอร์ร่วงเอาดื้อๆ จึงโดนใบเหลืองไปอีกคน เยอรมันเติมเกมรุกเข้าใส่อีก แต่โดนสวนกลับเร็ว เจอร์เมน โจนส์ กระชากบอลหลุดเดี่ยวทะลุแผงหลังขึ้นมา ทว่า นอยเออร์ ผู้รักษาประตูเยอรมันวิ่งออกมาเคลียร์บอลพ้นอันตรายจากการหลุดเดี่ยวไว้ได้อย่างหวุดหวิด 

 จังหวะสวนกลับเร็วของสหรัฐหลายครั้งทำเอา นอยเออร์ ต้องวิ่งออกมานอกกรอบตัวเองเพื่อเคลียร์บอลให้พ้นอันตราย ทีมอินทรีเหล็กเริ่มผ่อนเกมหันมาต่อบอลง่ายๆบ้าง แต่สหรัฐก็ยังคงพยายามแย่งบอลเปิดเกมโต้กลับหวังตีเสมอให้ได้ นาที 69 สหรัฐได้เตะมุม สายฝนเริ่มกระหน่ำลงมาอีกครั้งหลังจากซาไปในช่วงหมดครึ่งแรก 

 ผ่านไป70 นาที เยอรมันหันมาตั้งรับแนวลึกบ้าง เปิดโอกาสให้สหรัฐเร่งเกมบุกได้มากขึ้น คลินต์ เดมพ์ซีย์ กองหน้าสหรัฐพาบอลลุยขึ้นมาบ้างแต่ก็โดนเบียดกระแทกเสียบอลไปอีก 

 เกมหยุดไปครู่ใหญ่จากจังหวะปะทะกันเองของผู้เล่นสหรัฐเจอร์เมน โจนส์ ถึงกับเลือดกำเดาไหลต้องเปลี่ยนเสื้อแข่ง ขณะที่เยอรมันเปลี่ยน มาริโอ เกิตเซ่ ลงมาแทน ชไวน์สไตเกอร์ เกมรับกลับเป็นฝ่ายเยอรมันบ้าง ที่เน้นครองบอลทำชิ่งเป็นส่วนใหญ่ จนผู้เล่นอเมริกันแทบหาบอลไม่เจอ 

 เกิตเซ่ของเยอรมันลากบอลขึ้นมาทางกราบขวาเกือบถึงเส้นหลังแม้ถูกสกัดออกได้เตะมุม แต่ก็ยังโยนบอลให้ยิงนอกกรอบแต่บอลยังติดมือ ทิม ฮาวเวิร์ดอยู่ดี มาถึงช่วงสิบนาทีสุดท้ายเกมชักเนือยลงไปดื้อๆ จู่ๆเยอรมันได้บอลทะลุจากการทำชิ่ง ถึงกรอบโทษสหรัฐ แต่จังหวะสุดท้ายก็เกิดล้มลงไปเอง ถึงนาที 83 สหรัฐเปลี่ยน เดอันเดร เยดลิน ลงแทน เกรแฮม ซูซี่ 

  ท้ายเกมทดเจ็บออกไป 4 นาที ท้ายเกมสหรัฐเกือบจะได้ประตูตีเสมอจากจังหวะต่อบอลสุดสวยจนถึงหน้าประตูเยอรมัน แต่จังหวะ เบโดยา สับไกยิง แต่บอลถูกแนวรับอินทรีเหล็กสไลด์ขวางทางบอลออกไปอย่างฉิวเฉียด จบเกม เยอรมนี เฉือนชนะ สหรัฐ 1-0 แต่ทั้งสองทีมยังคงกอดคอกันเข้ารอบ เพราะประตูได้เสียสหรัฐนั้นดีกว่าโปรตุเกส 

 ขณะที่โธมัส มุลเลอร์ ฮีโร่ของอินทรีเหล็กในเกมนี้ ทำผลงานยิงไป 4 ประตู จาก 3 นัด