ฟุตบอลโลก 2014 กลุ่ม อี ที่สนามอาเรน่า ฟอนเต้ โนวา เมืองซัลวาดอร์ ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นัดที่สอง กลุ่ม อี ทีม“แดนนาฬิกา”สวิตเซอร์แลนด์ และ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เกมนี้ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือใหญ่ปรับทัพคนเดียว ส่งโอลิวิเยร์ ชิรูด์ กองหน้ารจากอาร์เซนอลลงเป็นตัวจริงคู่กับ คาริม เบนเซม่า โดยถอด อองตวน กรีซมันน์ เป็นตัวสำรอง 

 ขณะที่ ทีมจากแดนนาฬิกา มีกุนซือเฒ่าชาวเยอรมันวัย 65 ปี อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ เป็นตัววางเกม

 ผลงานนัดแรก สวิตเซอร์แลนด์ ชนะ เอกวาดอร์ 2-1 ขณะที่ฝรั่งเศส มี 3 แต้มเท่ากันแต่ประตูได้เสียดีกว่า หลังถล่ม ฮอนดูรัส 3-0 

 สรุปรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีมมีดังนี้

 สวิตเซอร์แลนด์ -: ดิเอโก้ เบนากลิโอ,สเตฟาน ลิกต์สไตเนอร์,โยฮัน ฌูรู,สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น,ริคาร์โด้ โรดริเกซ,วาลอน เบห์รามี่,โกคาน อินแลร์,เซอร์ดาน ชาคิรี่, กรานิต ซาคา, อัดเมียร์ เมห์เมดี้,แฮริส เซเฟโรวิช

 ฝรั่งเศส : ฮูโก้ โยริส, มาติเยอ เดอบูชี่ , พาทริซ เอวร่า,ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก้, โยฮัน กาบาย, มาติเยอ วัลบูเอน่า, มุสซ่า ซิสโซโก้, แบลส มาตุยดี้, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, คาริม เบนเซม่า 

 ฝรั่งเศสลงสนามในชุดสีขาวกางเกงน้ำเงิน ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์มาในชุดสีแดงล้วน

 เกมผ่านไปอย่างคู่คี่อยู่ที่แดนกลางของสนาม นาทีที่ 5 ฝรั่งเศสเปิดเกมรุกขึ้นทางริมเส้นกราบขวา ก่อนโยนเข้ากรอบให้ เบนเซม่าตวัดยิงด้วขวาปั่นไซด์โค้งบอลลอยเฉียดสามเหลี่ยมออกนอกกรอบ เป็นการทักทายครั้งแรกของฝรั่งเศส 

 จังหวะถัดมา โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ของฝรั่งเศส ยกเท้าสูงเต็มหน้า สตีฟ ฟอน เบอร์เก้น ของสวิตที่พุ่งเข้ามาสกัดถึงเบ้าตาแตกได้เลือดลงไปนอนกอง ต้องหยุดเกมเล่นต่อไม่ได้และประคองออกมา พร้อมเปลี่ยน ฟิลิปป์ เซนเดรอส ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 9

 เกมกลับมาเล่นกันต่อ ยังคงเป็นฝรั่งเศสที่เข้าชาร์จบอลแรง หยุดเกมทำให้ไม่ต่อเนื่องหลายครั้ง ทีมตรงไก่ยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง โยฮัน กาบาย ลองยิงไกลบ้างแต่บอลก็จุดพลุโด่งออกหลังไปแบบไม่มีลุ้น นาทีที่ 15 บูเอน่า เปิดบอลจากกราบขวาเข้ากลางให้ เบนเซม่า เข้าชาร์จ แต่นาที 17 จากจังหวะลูกเตะมุม มาติเยอ วัลบูเอน่า เปิดลูกเตะมุมจากกราบขวาเข้ามาให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์เทกตัวโหม่งย้อยเสียบสามเหลี่ยมเป็นประตูให้ 

 ฝรั่งเศสขึ้นนำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 100 ของทีมชาติฝรั่งเศสในฟุตบอลโลกอีกด้วย

 ถัดมาเพียงนาทีเดียว ฝรั่งเศสก็ได้ประตูที่สองอย่างรวดเร็ว จากจังหวะผิดพลาดของสวิตเซอร์แลนด์เขี่ยบอลกลับหลังถูก แต่เบนเซม่าฉกบอลมาให้ แบลส มาตุยดี้ ลากบอลเข้ามาทางกราบซ้ายก่อนยิงยัดเสาแรกมุมแคบบอลเสียบตุงตาข่าย ให้ทีมตรงไก่ขึ้นนำ 2-0 

 หลังนำห่างฝรั่งเศสยังได้ลูกฟรีคิกบอมเข้าใส่อีกแต่เป็นลูกล้ำหน้าบอลเลยออกเส้นหลังไป 

 เกมรุกของฝรั่งเศสยังคงสร้างจังหวะวูบวาบ มีโอกาสบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง สวิตเซอร์แลนด์พยายามเปิดเกมโตกลับขึ้นทางริมเส้นกราบขวา และได้ฟรีคิกโยนเข้าหน้าประตู ช่วงนาที 27 บอลถูกโหม่งสกัดออกมาเข้าทาง ให้กรานิต ชาคา ตวัดบอลเข้าประตูบ้าง แต่ทว่าเป็นจังหวะยืนล้ำหน้าสวิตเซอร์แลนด์จึงไม่ได้ประตู 

 นาทีถัดมาสวิสน่าได้ประตูอีกครั้ง จากจังหวะยิงไกลของเซเฟโรวิสปัดโดนปัดมา ชาคิรี่ตวัดซ้ายยิงอีกที แต่บอลถูกปัดปลายมือโยริสออกไปน่าเสียดาย

 นาที 32 จังหวะสวนกลับฝรั่งเศสได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะลากบอลเข้าในกรอบเกือบถึงเส้นหลังของเบนเซม่า แต่ถูก โยฮัน ฌูรู จิ้มสกัดจนล้ม ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ให้เบนเซม่า รับหน้าที่สังหารเอง ทว่าเบนากลิโอ ผู้รักษาประตูล้มตัวเซฟไว้ได้บอลกระดอนออกมาให้ โยฮัน กาบาย เข้าชาร์จซ้ำระยะเผาขนอีกครั้ง ทว่าบอลกลับโดนคานกระดอนออกไปอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ทีมตราไก่พลาดโอกาสได้ประตูที่สามอย่างน่าเสียดาย ถึงนาที 40 สวิตเซอร์แลนด์ได้เตะมุมบ้าง แต่โดนฝรั่งเศสสกัดออกมา พร้อมจ่ายทะลุช่องให้ชิรูด์กระชากหลุดเดี่ยวขึ้นทางกราบซ้ายก่อนจ่ายไปเสาสองให้ วัลบูเอน่า เข้าชาร์จโล่งๆตุงตาข่ายกลายเป็นสกอร์ให้ ฝรั่งเศสนำห่างเป็น 3-0 จนจบครึ่งแรก 

 ก่อนเริ่มครึ่งหลัง สวิตเซอร์แลนด์เปลี่ยน เบลริม เซไมลี่ ลงแทน วาลอน เบห์รามี่ ในแดนกลาง นาที 52 นักเตะแดนนาฬิกาได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้าย เข้ามาเสาแรก แบลส มาตุยดี้ สกัดบอลออกเส้นหลังไป จังหวะถัดมา ชาคิรี่ ได้จังหวะจับบอลอีกครั้งก่อนยิงไกลแต่บอลก็เลยเสาสองออกหลังไปอีก เกมรุกยังคงเป็นของสวิตอย่างต่อเนื่อง ชาคิรี่จ่ายเข้ากลางให้ เบลริม เซไมลี่ หวดเต็มข้อบ้างแต่บอลก็พุ่งเฉี่ยวข้ามคานออกไปนิดเดียว

 นาที 60 เป็นโอกาสของทีมตราไก่สวนกลับเร็ว และทำชิ่งมีเวลาแต่งบอลสับไกยิงตรงกรอบบ้างแต่บอลเลยข้ามคานไปนิดเดียวเช่นกัน นาที 63 ฝรั่งเศสตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่น ส่ง พอล ป๊อกบา ลงมาแทน โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เพื่อเสริมแดนกลางให้แน่นขึ้น เกมรุกและโอกาสใกล้เคียงจะได้ประตูตีไข่แตกของสวิตเกิดขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถพังประตูได้เลย ฝรั่งเศสหันมาเปลี่ยนผู้เล่นอีกครั้งส่ง โลร็องต์ กอสเซียลนี่ แทน มามาดู ซาโก้ ถัดมาไม่ถึงนาที

 ในนาที 67 กองเชียร์ตราไก่ก็เฮลั่นอีกครั้ง เมื่อป๊อกบาโยนบอลเข้ากรอบเขตโทษให้เบนเซม่าพลิกตัวยิงบอลลอดขา เบนากลิโอ ผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่ายเป็นสกอร์ให้ ฝรั่งเศสนำห่างถึง 4-0

 สวิตฯปรับแผน ส่ง โจซิป เดอร์มิช ลงแทน แฮริส เซเฟโรวิช ในแดนหน้า และได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา ชาคิรี่เปิดโด่งมาหน้าประตูแต่บอลถูกสกัดออกหลังกลายเป็นลูกเตะมุมอีกครั้ง นาที 70 ชาคา ขึ้นโหม่งเฉี่ยวเสาสองออกไปหวุดหวิด 

 จากนั้นนาที 73 ฝรั่งเศสก็ได้ประตูที่ 5 จากการยิงโล่งๆของ มุสซ่า ซิสโซโก้ กองหน้าจากนิวคาสเซิล ทำให้ทีมตราไก่นำโด่งเป็น 5-0 แม้จะนำห่างฝรั่งเศสยังคงโหมบุกถล่มเข้าใส่อย่างต่อเนื่องหวุดหวิดจะได้ประตูที่หกหลายครั้งหลายหน 

 แต่แล้วในนาที 81 จังหวะสวิตฯได้ลูกฟรีคิก เบลริม เซไมลี หวดบอลเรียดลอดขากำแพงเข้าไปตุงตาข่าย กลายเป็นลูกตีไข่แตกของสวิตเซอร์แลนด์ไล่มาเป็น 1-5 นาทีถัดมาฝรั่งเศสเปลี่ยนผู้เล่นคนสุดท้ายส่ง อองตวน กริซมันน์ ลงแทน วัลบูเอน่า    

 นาทีที่ 87 สวิตเซอร์แลนด์ยิงเพิ่มอีกลูก จากกรานิต ชาคา จากจังหวะอินแลร์เปิดบอลยาวให้ชาคาหลุดกับดักล้ำหน้าหลุดไปยิงหนีมือโยริสเข้าประตู สวิตฯไล่มาเป็น 2-5 

 ช่วงท้ายเกม ยิงเพิ่มกันไม่ได้ หมดเวลา ฝรั่งเศสถล่มสวิตเซอร์แลนด์ 5-2 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 แต้ม ผ่านเข้ารอบสอง