บังยี วรวีร์ มะกูดี ยืนยันชัดเจน ฟีฟ่า บังคับให้การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลไทยคราวนี้ต้องยึดตามธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่าเท่านั้น ไม่มีทางเลี่ยงไปเป็นอื่น พร้อมระบุ 72 เสียงที่มีสิทธิลงคะแนน เป็นโครงสร้างที่ฟีฟ่าเข้ามาศึกษาข้อมูลของสมาคมลูกหนังไทยอย่างละเอียดแล้ว ก่อนจะกำหนดออกมาอย่างที่เห็น ตัวเองไม่ได้เป็นคนดำเนินการตัดสินใจอย่างที่หลายคนกำลังเข้าใจผิด การันตีธรรมนูญมาตรฐานฟีฟ่าทันสมัย เป็นประชาธิปไตย และโปร่งใสกับวงการฟุตบอลไทยมากที่สุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดเผยถึงปัญหาความขัดแย้งของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ยังหาบทสรุปไม่ได้ว่าจะเลือกตามธรรมนูญใหม่ที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ฟีฟ่า มีคำสั่งมา ให้ลดจำนวนเสียงเหลือเฉพาะสโมสรที่มีส่วนได้เสียในวงการฟุตบอลอย่างชัดเจนเหลือ 72 เสียง หรือเลือกตามข้อบังคับเก่าที่มีจำนวนสโมสรสมาชิกมากถึง 184 เสียงในปัจจุบัน
ล่าสุด บังยี เปิดใจว่า ถึงตอนนี้การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการรับรองธรรมนูญใหม่ของสโมสรสมาชิกตามที่ฟีฟ่าได้มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรมาอย่างชัดเจนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 30 ก.ย. โดยที่ผ่านมาฟีฟ่าได้ส่งตัวแทนมาอธิบายให้สโมสรได้ทำความเข้าใจอย่างนุ่มนวล และชี้ให้เห็นถึงผลดี-ผลเสียกันอย่างละเอียดไปแล้ว โดยเฉพาะการเลือกตั้งตามธรรมนูญใหม่จะต้องมีคณะกรรมการกลาง เหมือน กกต.ขึ้นมาดูแลควบคุมการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม โปร่งใส และเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด
นายวรวีร์กล่าวต่อไปว่า ความจริงแล้วการดำเนินการปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อบังคับให้สอดคล้องกับธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่านั้น ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยไม่ได้เพิ่งมาเริ่ม แต่เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 อย่างเป็นขั้นเป็นตอนมาตลอด มาจนถึงปีนี้จึงต้องประกาศบังคับใช้เพราะเป็นเดตไลน์ของทางฟีฟ่าที่ทุกชาติสมาชิกต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อยกเว้น
ขณะเดียวกันเรื่องของจำนวนเสียงที่ลดเหลือ 72 เสียงนั้น ประมุขลูกหนังไทยเผยว่า เป็นสิ่งที่ทางฟีฟ่าได้เข้ามาศึกษารายละเอียดโครงสร้างของสมาคมลูกหนังไทยอย่างดีแล้ว และเห็นว่าต้องใช้โครงสร้างใหม่ที่ 72 เสียงจึงจะเหมาะสมที่สุด โดยตนไม่ได้เป็นคนเสนอไปเองอย่างที่หลายคนกำลังใจเข้าใจผิด เพราะก่อนหน้านี้สิ่งที่ตนเสนอฟีฟ่าไปก็คืออยากจะให้สิทธิของทั้ง 84 ทีมในลีกภูมิภาคได้เลือกตั้งทั้งหมด ไม่ใช่ตัดเหลือตัวแทนภาคละ 5 ทีมอย่างที่เห็น ซึ่งเป็นการตัดสินใจของทางฟีฟ่า
นอกจากนี้ นายกยี ยังตอบโต้การให้สัมภาษณ์ของนายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่อ้างว่าตอนนี้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็น สุญญากาศ เพราะนายกสมาคมฯ หมดวาระไปแล้ว ดังนั้น ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท.ต้องเข้ามาจัดการให้มีการเลือกตั้งว่า "ตนอยากให้นายวิรัชไปดูข้อบังคับให้ดีๆเพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้ชัดเจนว่านายกสมาคมฯ และสภากรรมการบริหารชุดเดิมจะต้องปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าจะได้นายกสมาคมฯ คนใหม่และคณะกรรมการบริหารที่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ดังนั้น ตอนนี้ตนและสภากรรมการไม่ใช่แค่รักษาการแต่ยังมีอำนาจเต็มในการทำหน้าที่เป็นนายกทีมฟุตบอลฯ อย่างถูกต้องตามกฎหมายและข้อบังคับทุกอย่าง"