พระเครื่อง : แหล่งข้อมูลบทความพระเครื่อง เครื่องรางของขลัง และวัตถุมงคล
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2557
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 พฤษภาคม 2557
 
All Blogs
 
'บราซิล' ถิ่นมนต์ขลัง ลูกหนังรสเลิศ


ดินแดนแซมบ้า ถูกกล่าวขานมานานในเรื่องของความแตกต่างหลากหลายของทุกเรื่องราว แต่อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกจะมุ่งหน้าสู่ "บราซิล" เพราะมหกรรมลูกหนังโลก ที่ 4 ปีมีครั้ง กำลังจะเปิดฉากขึ้นระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน-13 กรกฎาคมนี้แล้ว แต่กว่าจะถึงเวลานั้น เรามาทำความรู้จักประเทศแห่งนี้ในทุกแง่มุมกันดีกว่า...

 

ประเทศบราซิล

 

มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล (Federal Republic of Brazil) เป็นประเทศใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ โดยเป็นประเทศใหญ่ที่สุดอันดับ 5 ของโลก มีอาณาเขตติดต่อกับหลายประเทศ อาทิ อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย, โบลิเวีย, เปรู, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา, กายอานา, ซูรินาม และ แคว้นเฟรนช์เกียนา ของฝรั่งเศส

สำหรับชื่อ "บราซิล" มาจากต้นไม้ชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า "บราซิลวูด" ซึ่งนำไปใช้ย้อมผ้าด้วยสีแดงจากเปลือกไม้ของมัน "บราซิล" เป็นดินแดนแห่งเกษตรกรรมและป่าเขตร้อน การที่ "บราซิล" มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย และมีแรงงานเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นประเทศที่มีผลิตภัณฑ์มวล
รวมภายในประเทศ (GDP)สูงที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคในปัจจุบัน 

 

ธงชาติบราซิล

 

 

เกร็ดน่ารู้ของ "บราซิล"

- ใช้ภาษาโปรตุเกส เป็นภาษาทางการ

- สกุลเงิน : รีล

- สภาพอากาศ ภาคเหนือ มีสภาพภูมิอากาศเป็นเขตร้อนชื้น ส่วนทางใต้จะมีสภาพอากาศอบอุ่นและหนาว และฤดูกาลจะตรงข้ามกับทวีปยุโรป โดยฤดูหนาวในยุโรปจะเป็นฤดูร้อนในบราซิล และฤดูร้อนในยุโรปจะเป็นฤดูหนาวในบราซิล ซึ่งฤดูหนาวที่บราซิล จะเริ่มตั้งแต่เดือน
มิถุนายน-กันยายน อุณหภูมิจะอยู่ระดับ 17-24 องศาเซลเซียส และฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม-มีนาคม อุณหภูมิจะอยู่ระดับ 23-30 องศาเซลเซียส

- เวลาที่บราซิลจะช้ากว่าไทย 9 หรือ 10 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับการปรับเวลาในฤดูร้อน)

- ระบบไฟฟ้ำและปลั๊กไฟ ใช้ไฟฟ้าสองระบบคือ 110V และ 220V

- นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปบราซิลต้องปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งบทลงโทษกรณีการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถรุนแรงมาก

 

การปกครองออกเป็น 26 รัฐ และ 1 เฟเดอรัลดิสทริกต์ ของ "บราซิล"

 

1.รัฐโรไรมา 2.รัฐอามาปา 3.รัฐอามาโซนัส 4.รัฐปารา 5.รัฐโตกันตินส์ 6.รัฐอาเกร 7.รัฐรอนโดเนีย 8.รัฐมารันเฮา 9.รัฐเปียอู 10.รัฐเซอารา 11.รัฐริโอ กรันเด โด นอร์เต 12.รัฐปาไรบา 13.รัฐเพอร์นัมบูโก 14.รัฐอาลาโกอัส 15.รัฐเซอร์กิเป 16.รัฐบาเฮีย 17.รัฐมาโต กรอสโซ 18.รัฐโกยาส 19.รัฐมาโต กรอสโซ โด ซูล 20.รัฐไมนัส เกไรส์ 21.รัฐเอสปีรีโต ซานโต 22.รัฐริโอ เด จาไนโร 23.รัฐเซาเปาโล 24.รัฐปารานา 25.รัฐซานตา คาตารินา 26.รัฐริโอ กรันเด โด ซูล 27.เฟเดอรัลดิสทริกต์ บราซิเลีย

 

ของดี "บราซิล"

 

ผลผลิตทางการเกษตร : กาแฟ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าว ข้าวโพด อ้อย ส้ม มะนาว เนื้อวัว

อุตสาหกรรม : สิ่งทอ รองเท้า เคมีภัณฑ์ ซีเมนต์ ไม้แปรรูป แร่เหล็ก ดีบุก เหล็ก เครื่องบิน มอเตอร์และชิ้นส่วนยานพาหนะ เครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ

สินค้าส่งออก : อุปกรณ์การขนส่ง แร่เหล็ก ถั่วเหลือง รองเท้า ถุงเท้า กาแฟ รถ

สินค้านำเข้า : เครื่องจักร อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์การขนส่ง เคมีภัณฑ์ น้ำมัน ชิ้นส่วนรถยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิก

 

การเข้าเมือง "บราซิล"

 

- คนไทยที่จะเดินทางไปบราซิลเพื่อการท่องเที่ยวและธุรกิจ สามารถเดินทางเข้าและพักอาศัยได้ไม่เกิน 90 วัน โดยไม่จำเป็นต้องขอรับการตรวจลงตราวีซา เนื่องจากมีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราระหว่างไทย-บราซิล

- บราซิลเป็นเขตติดโรคไข้เหลือง ผู้ที่จะเดินทางไปและมาจากบราซิล จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลืองก่อนเดินทาง 10 วัน

- ผู้ที่จะไปพำนักอยู่ในบราซิลเป็นเวลานาน เช่น แรงงาน และ นักศึกษา ควรขอรับการตรวจลงตราวีซาให้ตรงตามวัตถุประสงค์ และควรเรียนภาษาโปรตุเกสขั้นพื้นฐานไปก่อน

 

ข้อควรกระทำขณะอยู่ใน "บราซิล"

 

- สอบถามจากโรงแรมเรื่องความปลอดภัยของสถานที่ที่ต้องการจะไปท่องเที่ยว

- เก็บสิ่งของมีค่า รวมทั้งเครื่องประดับ เอกสารการเดินทาง และเงินไว้ในตู้นิรภัยของธนาคาร

- ควรมีเพื่อนในการเดินทาง โดยเฉพะเวลากลางคืน

- นำสิ่งของติดตัวเท่าที่จำเป็น หากจะไปเดินชายหาด

 

ข้อที่ไม่ควรกระทำขณะอยู่ใน "บราซิล"

 

- เก็บสิ่งของมีค่าไว้ในกระเป๋าหลัง หรือนอกกระเป๋าเสื้อ หรือนอกกระเป๋าถือ

- แต่งกายด้วยเครื่องเพชรพลอย หรือสิ่งของที่มีราคาแพงเดินตามถนน

- เดินทางไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย หรือไปในพื้นที่เสี่ยงอันตรายเพียงลำพัง

- นำเงินออกมาแสดงให้คนเห็นอย่างเปิดเผย

- นำกล้องถ่ายรูปและสิ่งของอื่นๆ ใส่ไว้ในกระเป๋ากล้องถ่ายรูป หรือแขวนไว้ที่คอ

 

สภาพสนามบินในบราซิล

 

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสนามบินใน "บราซิล"

 

ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าบราซิล ต้องผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และพิธีการทางศุลกากรในเมืองแรกที่เดินทางถึงบราซิล นครเซาเปาโล และนครริโอ เด จาไนโร เป็นสองเมืองหลักที่สายการบินระหว่างประเทศ จะลงจอดเป็นเมืองแรก นอกจากนี้ ผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าบราซิลทุกคน จะต้องนำกระเป๋าออกไปผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งผู้ที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองอื่นๆ ในบราซิล ถึงแม้ว่าสายการบินจะให้ข้อมูลว่า ผู้โดยสารสามารถรับกระเป๋าและผ่านพิธีการศุลกากรที่เมืองปลายทางเลยก็ตาม ที่สำคัญ สนามบินต่างๆ มักจะไม่มีการสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ และใช้เวลามากในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง รอสัมภาระ และผู้โดยสารที่ต่อ
เครื่องบิน มักจะต้อง check-in กับสายการบินอีกครั้ง ดังนั้นหากจำเป็นต้องเดินทางต่อโดยเครื่องบิน ควรเผื่อเวลาในการต่อเครื่องบินไว้ไม่ต่ำกว่า 2-3 ชั่วโมง

ข้อพึงระวัง เที่ยวบินในประเทศของบราซิล มักเปลี่ยนประตูขึ้นเครื่อง (gate)บ่อยครั้งโดยไม่ประกาศให้ทราบ หรือประกาศเป็นภาษาโปรตุเกส ผู้โดยสารควรตรวจสอบหมายเลขประตูขึ้นเครื่องเป็นระยะระหว่างที่นั่งรอเวลาเครื่องขึ้นจากจอภาพ และสอบถามเจ้าหน้าที่สนามบิน
ก่อนขึ้นเครื่อง 

 

อาชญากรรมใน "บราซิล"

 

เฉพาะนครเซาเปาโล, นครริโอ เด จาไนโร, เมืองซัลวาดอร์ และกรุงบราซิเลีย มักปรากฏข่าวอาชญากรรมรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของการปล้นจี้ ลักขโมย และแม้กระทั่งการลักพาตัว นอกจากนี้ ในเขตย่านชุมชนแออัดโดยเฉพาะที่นครริโอฯ มักปรากฏข่าวการปะทะกัน
รุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มอิทธิพล ขบวนการค้ายาเสพติด ฯลฯ

 

อาชญากรรมในบราซิล มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

 

 

วิธีการใช้โทรศัพท์ใน "บราซิล"

 

รหัสประเทศของบราซิล คือ 55 รหัสนครริโอฯ คือ 21 รหัสนครเซาเปาโล คือ 11 รหัสกรุงบราซิเลีย คือ 61 ส่วนโทรศัพท์สาธารณะ (Orelhão) จำเป็นต้องซื้อบัตรโทรศัพท์ (cartões telefônicos) ซึ่งมีขายตามร้านขายหนังสือตามหัวมุมถนนและที่ทำการไปรษณ์ทั่วไป ราคาตั้งแต่ 5-50 รีล สามารถใช้โทรได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

สำหรับวิธีการใช้โทรศัพท์โทรถึงหมายเลขโทรศัพท์ในเมืองเดียวกัน กดหมายเลขโทรศัพท์แปดหลักได้เลย ส่วนการโทรระหว่างรัฐกด (021) (รหัสเมือง) (หมายเลขโทรศัพท์แปดหลัก) หากจะโทรไปต่างประเทศกด (0021) (รหัสประเทศ) (รหัสเมือง) (หมายเลขโทรศัพท์) ตัวอย่าง โทรไปกรุงเทพฯ กด 0021 66 2 หมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก นอกจากนี้ยังสามารถใช้โทรศัพท์สาธารณะแบบเรียกเก็บเงินปลายทางภายในบราซิล โดยไม่ต้องใช้บัตรโทรศัพท์ได้ ดังนี้ หากโทรถึงหมายเลขโทรศัทพ์ภายในนครริโอฯ กด 9090 - หมายเลขโทรศัพท์แปดหลัก หากโทรถึงหมายเลขโทรศัพท์ระหว่างรัฐ กด 90 - รหัสเมือง - หมายเลขโทรศัพท์แปดหลัก ขณะที่โทรศัพท์มือถือ ควรเปิด roaming มาจากประเทศไทย เนื่องจากชาวต่างชาติจะซื้อซิมการ์ดประเภทเติมเงินได้ยากในบราซิล เนื่องจากกฎหมายระบุให้ผู้ซื้อต้องแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี 

อนึ่ง ในกรุงบราซิเลียไม่มีเครือข่ายรองรับผู้ใช้เครือข่าย Dtac หมายเลขติดต่อ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบราซิเลีย เวลาราชการ +55 61 3224 6943 เฉพาะกรณีฉุกเฉินนอกเวลาราชการ +55 61 9919 8763 หากโทรศัพท์จากตู้โทรศัพท์สาธารณะ ในกรณีฉุกเฉินสามารถยกหูแล้วกด 90 61 9919 8763 ได้เลย เพื่อโทรแบบเรียกเก็บเงินปลายทางจากสถานเอกอัครราชทูตฯ

 

สีสันเหลืองอร่าม

 

 

อาหารใน "บราซิล"

 

- อาหารที่เป็นนิยมของชาวบราซิลคืออาหารประเภทบาร์บีคิว (churassco) โดยเน้นเนื้อวัวและไก่  ส่วนอาหารมื้อหลักประจำวันมักประกอบด้วยข้าวราดถั่วดำต้ม รับประทานกับอาหารชนิดอื่นๆ ผักผลไม้ส่วนใหญ่เป็นชนิดเดียวกันกับที่มีในประเทศไทย

- ร้านอาหารประเภทบริการตนเอง คือเลือกและตักอาหารด้วยตัวเอง แล้วจึงนำไปชั่งเพื่อจ่ายค่าอาหารตามน้ำหนักที่ตักมา ได้รับความนิยมสูงทั่วบราซิล โดยมีราคาแตกต่างกันไปตามคุณภาพ และสถานที่ตั้งของร้านอาหาร

- นักท่องเที่ยวควรรับประทานอาหารในร้านอาหารหรือโรงแรม ซึ่งจะสะอาดและปลอดภัยกว่าอาหารที่ขายตามท้องถนน ควรดื่มน้ำที่บรรจุขวด ไม่ควรดื่มน้ำจากก๊อกน้ำโดยตรง

 

วิถีชีวิตชาวบราซิลยามนี้

 

 

สถานที่ท่องเที่ยวสุดเร้าใจ ไม่มาไม่ถึง "บราซิล"

 

- หุบเขาโลกพระจันทร์  หรือ "the valley of the moon" เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศบราซิล โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ผ่านมา

 

หาดโคปาคาบานา สวยงามติดอันดับโลก

 

 

- หาดโคปาคาบานา เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด อยู่ที่เมืองริโอ ในย่านชายหาดนี้ถือเป็นย่านหรูของเมือง มีโรงแรมห้าดาว มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ มากมาย ชายหาดโคปาคาบานานี้เป็นชายหาดที่ยาวกว่า 4 กิโลเมตร มีทางเดินเลียบชายหาดสไตล์โปรตุเกสที่ปูกระเบื้องเป็นรูปคล้ายลอนคลื่นในทะเล ซึ่งทิวทัศน์รอบข้างยังมีทิวเขาสูงสลับซับซ้อนมองดูสวยงามยิ่งนัก หากมองลองมาจากด้านบนจะเห็นหาดโคปาคาบานาเป็นชายหาดโค้งรับกับหาดทรายขาวและน้ำทะเลสีฟ้าสดใส โดยสีสันที่ขาดไม่ได้คือ สาวๆ หุ่นสะบึมนอนอาบแดดบนชายหาดในชุดบิกินี รวมไปถึงวอลเลย์บอลและฟุตบอลชายหาดก็เป็นกิจกรรมที่นิยมไม่แพ้กัน

- หาดอิปาเนมา เริ่มมีความนิยมขึ้นมาใกล้เคียงกัน ชายหาดอาจจะแคบกว่าหาดโคปาคาบานา แต่ก็มีร้านค้าน่ารักๆ ให้เดินเล่นอยู่มากเช่นกัน 

- ฟาเวลา เป็นบ้านเรือนปลูกไล่กันไปบนภูเขาหลายร้อยหลายพันหลัง ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนมากคนที่มาเที่ยวที่นี่มักจะซื้อทัวร์มา หรือมากับไกด์ทัวร์ เพราะจะปลอดภัยที่สุด แม้จะเป็นถิ่นอันตราย แต่สุดยอดนักเตะอย่าง โรนัลโด และ โรนัลดินโญ ก็เติบโตมาจากที่นี่ 

- เขื่อนอิไตปู เป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองริโอ ในอดีตเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่เขื่อนสามหุบเขาของจีนจะแล้วเสร็จ เขื่อนอิไตปูสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1984 แล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1988 คำว่า อิไตปู แปลว่า "เสียงเพลงจากก้อนหิน" มาจากภาษากวารานิ ของชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม โดยเขื่อนอิไตปู กั้นแม่น้ำปารานา บริเวณเขตแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศปารากวัย จึงทำให้เขื่อนนี้เป็นทั้งผนังกันน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า และเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสองประเทศอีกด้วย เขื่อนอิไตปูเป็นเขื่อนคอนกรีตชนิดเขื่อนแบบกลวง มีขนาดความสูง 180 เมตร มีความยาวกว่า 8 กิโลเมตร ใช้คอนกรีตในการสร้างกว่า 28 ล้านตัน สามารถสร้างสนามฟุตบอลได้ถึง 210 สนาม และใช้เหล็กมากขนาดสร้างหอไอเฟลได้ถึง 380 หอเลยทีเดียว เมื่อสร้างเสร็จ ด้านเหนือเขื่อนจึงเกิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 1,550 ตารางกิโลเมตร ระยะทางยาวลึกขึ้นไปทางเหนือเขื่อนอีกกว่า 160 กิโลเมตร มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 18 เครื่อง มีกำลังการผลิต 12,600 เมกะวัตต์ จึงสามารถจ่ายไฟให้กับประเทศปารากวัยได้ทั้งประเทศ รวมทั้งเมืองใหญ่ของบราซิล ทั้งเซาเปาโล และนครริโอฯ ได้อย่างสบาย แต่ภายหลังมีโครงการเพิ่มเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเป็น 20 เครื่อง ภายในปี 2550 และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 14,000 เมกะวัตต์

- ยอดเขาซูการ์ โลฟ สูง 1,400 เมตร ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนปลายแหลมปากอ่าวกวานาบาราอันสวยงาม มีทิวทัศน์อันสวยงามของชายหาดโคปา คาบานา ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีชายหาดยาวถึง 4 กิโลเมตร ซึ่งในฤดูร้อน ผู้คนทั้งชายหญิงจะแต่งกายใส่ชุดว่ายน้ำ และบิกินี่มาเล่นกีฬาจนเต็มชายหาด และบ้านเรือนของชาวเมืองริโอ

- เกาะซันตา คาตารีนา ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศบราซิล มีชายหาดที่สวยงาม ซึ่งมักจะมีการจัดกิจกรรมการแข่งขัน การเล่นกระดานโต้คลื่นนานาชาติ สามารถดำน้ำชมความงามของประการังดินแดนใต้ ตื่นตาตื่นใจกับปลาสวยงามน้อยใหญ่นานาชนิด

- แม่น้ำแอมะซอน หรือ แม่น้ำอะเมซอน เป็นแม่น้ำในทวีปอเมริกาใต้ มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเปรู และไหลออกมหาสมุทรที่ประเทศบราซิล มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 6,800 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของประเทศบราซิล ถือเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดในโลก เพราะได้มีการพบจุด
ต้นน้ำใหม่ที่มีความยาวกว่าเดิม ซึ่งอยู่บริเวณทางใต้ของประเทศเปรู เป็นแม่น้ำสายที่มีปริมาณน้ำมากที่สุด ปริมาณน้ำที่ไหลออกยังมหาสมุทรแอตแลนติก มากถึง 300,000 ลูกบาสก์เมตรต่อวินาที ในช่วงฤดูฝนของบราซิล จนได้รับฉายาให้เป็น King of The River ปริมาณน้ำจืด 1 ใน 5 ของโลก ก็มาจากแม่น้ำอะเมซอน ซึ่งมีสาขาประมาณ 1,100 สาย และในจำนวนนี้มี 17 สาย ที่ยาวกว่า 1,000 ไมล์

- น้ำตกอีกวาซู แปลว่า "สายน้ำอันยิ่งใหญ่" ชาวอินเดียนแดงเผ่าดั้งเดิม น้ำตกอีกวาซูตั้งอยู่บริเวณรอยต่อพรมแดนระหว่างประเทศบราซิลกับประเทศอาร์เจนตินา เป็นน้ำตกใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ และขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลกโดย ใหญ่กว่าน้ำตกไนแอการาประมาณ 30 เท่า อย่างไรก็ตามขนาดของน้ำตกใกล้เคียงกับน้ำตกวิกตอเรียในทวีปแอฟริกา สำหรับน้ำตกอีกวาซู เกิดจากแม่น้ำอีกวาซู ซึ่งไหลมาจากที่ราบสูงปารานา ตกจากขอบที่ราบสูงขนาดใหญ่ลงสู่พื้นที่ราบต่ำกว่า จึงกลายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่เป็นแนวยาวกว่า 4 กิโลเมตร สูงกว่า 269 ฟุต ประกอบด้วยน้ำตกน้อยใหญ่อีก 275 แห่ง บริเวณรอบๆ น้ำตกจะเกิดละอองน้ำอยู่ตลอดเวลา และมีเสียงดังไปไกลกว่า 24 กิโลเมตร บนฝั่งประเทศบราซิล จะมองเห็นน้ำตกได้ทั่วถึงและงดงาม แต่ทางฝั่งประเทศอาร์เจนตินา สามารถเข้าชมน้ำตกได้ใกล้กว่า

-ริโอ เดอ จาไนโร หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ริโอ” ที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณปากอ่าวกวานาบารา อันกว้างใหญ่ไพศาล เดินทางลัดเลาะชายฝั่งทะเลสู่ภูเขาคอร์โควาโด ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศบราซิล เป็นที่สถิตย์รูปสลักขนาดใหญ่ของพระเยซู ตั้งสูงตระหง่านอยู่บนยอดเขา อันเป็นสัญลักษณ์ของเมืองริโอฯ จะมีรถรางไฟฟ้าไต่ระดับความสูงกว่า 700 เมตร ผ่านอุทยานติฮูกา ซึ่งเป็นต้นไม้ที่ปลูกด้วยฝีมือมนุษย์ แต่มีความร่มรื่นคล้ายป่าดงดิบ จากนั้นจะได้ถ่ายรูปกับ "พระคริสต์ผู้ไถ่บาปแก่มนุษย์" ที่สูงตระหง่านถึง 38 เมตร ซึ่งมีความหมายถึงพระคริสต์ผู้ไถ่บาปให้กับชาวริโอ บนจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของตัวเมืองได้ทั้งหมด

-ขบวนพาเหรด คาร์นิวัล งานมหกรรมรวมสุดยอดแฟนซีแสงสีตระการตา ซึ่งเป็นงานประเพณีเก่าแก่ดั้งเดิมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่นครริโอฯภายในงานนี้มีขบวนพาเหรดยาวเหยียดที่ขนแสงสีเสียงสุดตระการตา คละเคล้าไปด้วยความสนุกสนานของผู้คนที่มาร่วมเดินขบวนที่ต่างแต่งชุดเป็น แฟนซีต่างๆ โดยงานเทศกาลนี้จะจัดประมาณเดือนกุมภาพันธ์ หรือ มีนาคม ของทุกปี




Create Date : 29 พฤษภาคม 2557
Last Update : 29 พฤษภาคม 2557 1:30:21 น. 0 comments
Counter : 3290 Pageviews.

amulet108
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 96 คน [?]








Friends' blogs
[Add amulet108's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.