"อัซซูรี"ทีมชาติอิตาลี โชว์เกมรับอันเหนือชั้นยื้อยุด "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน จนจบเกม 120 นาทีเสมอกันที่สกอร์ 0-0 ทำให้ต้องมาวัดด้วยการดวลจุดโทษตัดสินแต่เทพีแห่งโชคก็เข้าข้าง สเปน หลัง เลโอนาร์โด โบนุชชี ที่ยิงเป็นคนที่ 7 ซัดข้ามคานก่อนที่ เฆซุส นาบาส จะสังหารช่วย สเปน เอาชนะไป 7-6 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศคอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ 2013...

ศึกลูกหนัง คอนเฟดเดอเรชันส์ คัพ 2013 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิ.ย. ณ สนาม เอสตาดิโอ คาสเตเลา เมืองฟอร์ตาเลซา ประเทศบราซิล "กระทิงดุ"ทีมชาติสเปน แชมป์ของกลุ่มบี ลงสนามพบกับ"อัซซูรี"ทีมชาติอิตาลี รองแชมป์ของกลุ่มเอ

สเปน ภายใต้การนำของ บิเซนเต เดล บอสเก ไม่มีการปรับทัพไปจากเดิมมากนัก ขาดแต่เพียง เชส ฟาเบร์กัส ที่มีอาการบาดเจ็บจำต้องส่ง ดาบิด ซิลบา ลงมาประจำตำแหน่งแทน ขณะที่แนวรุกมี เฟอร์นันโด ตอร์เรส ดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ในขณะนี้ลงเล่นเป็นตัวจริง

ด้าน เซซาเร ปรันเดลลี เทรนเนอร์ของ อิตาลี จำต้องมีการปรับทัพหลายจุดเนื่องจาก มาริโอ บาโลเตลลี หัวหอกดาวรุ่งมีอาการบาดเจ็บจนต้องถอนตัวเช่นเดียวกับ อินญาซิโอ อบาเต แบ็กขวา แต่ยังดีที่ อันเดรีย ปีร์โล มิดฟิลด์คนสำคัญกลับมาลงสนามได้

เริ่มเกมก็เป็นสเปนที่เปิดฉากบุกใส่ แต่ก็เจอแนวรับของอิตาลีขัดขวางไม่ให้เล่นสะดวก พร้อมหาโอกาสสวนกลับจนเกือบมีลุ้นประตูในนาทีที่ 15 คริสเตียน มาจโจ ลากบอลสุดเส้นฝั่งขวา ก่อนจะผ่านเข้ากรอบเขตโทษให้ อัลแบร์โต จิลาร์ติโน ยิงแต่ไม่เข้าเป้า

และหลังจากนั้นเพียง 2 นาที อิตาลี ก็เกือบจะมีประตูอีกครั้ง อันเดรีย ปีร์โล วางยาวให้ คริสเตียน มาจโจ หลุดเข้าไปโขกบอลลงพื้นแต่ อีเกร์ กาซียาส ยังไวตามมาสกัดได้ทันก่อนจะเป็นประตู

เกมผ่านไปครึ่งชั่วโมง "กระทิงดุ" ยังคงเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า แต่ก็เจอแผงแนวรับของ "อัซซูรี" ปิดตายจนเมื่อมาถึงนาทีที่ 37 สเปน ก็มีโอกาสได้ลุ้นบ้าง เฟอร์นันโด ตอร์เรส พลิกบอลหลบ อันเดรีย บาร์ซาญี ก่อนจะเข้าไปยิงด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ น่าเสียดายที่บอลหลุดเสาออกหลังไป และหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ยังทำประตูกันไม่ได้จบครึ่งแรก สเปน เสมอ อิตาลี ไป 0-0

กลับมาต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 49 สเปน ก็มีลุ้นก่อน อันเดรส อิเนียสตา ทำชิ่งกับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ก่อนจะหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ไม่เข้าเป้าออกหลังไปเยอะ และในนาทีที่ 58 ตอร์เรส ก็มีโอกาสได้ไหลให้ เฆซุส นาบาส ซัดระยะ 18 หลา แต่ก็ยังไม่ผ่านมือ จานลุยจิ บุฟฟอน

มาถึงนาทีที่ 73 อิตาลี มีโอกาสลุ้นจากลูกเตะมุม อันเดรีย ปีร์โล โยนไปทางเสาสองให้ จอร์โจ คิเอลลินี โขกแต่บอลลอยไปตกหลังตาข่าย และในช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมก็ยังยิงประตูกันไม่ได้จบการแข่งขัน สเปน เสมอ อิตาลี 0-0 ต้องไปแข่งกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ 30 นาที

ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 93 อัซซูรี พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดายหลัง เอมานูเอล จัคเครินี ได้โอกาสยิงทางฝั่งซ้ายของเขตโทษแต่บอลพุ่งชนเสาอย่างจัง

จากนั้นก็เป็นสเปนที่พับสนามบุกใส่จนน่าจะได้ใส่สกอร์สุดๆ ในนาทีที่ 155 ชาบี เออร์นันเดซ สับไกนอกกรอบบอลพุ่งเข้าสามเหลี่ยมแต่ บุฟฟอน ปัดโดนเสาลูกกระดอนมาเข้าทาง ฆาบี มาร์ติเนซ ตัดสินใจซัดสวนเข้าไปแต่บอลไม่ตรงกรอบ หมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที สเปน ยังคงเสมอ อิตาลี ที่ 0-0 ต้องดวลจุดโทษตัดสิน

ผลปรากฏว่าเป็นฝั่งของ สเปน ที่แม่นกว่าซัดเข้าตาข่ายรวดเดียว 6 คน ขณะที่ อิตาลี มาพลาดเสียโอกาสหลัง เลโอนาร์โด โบนุชชี ที่ยิงข้ามคานออกไป ก่อนที่ เฆซุส นาบาส จะมาซัดปิดท้าย ช่วย ให้ สเปน เอาชนะ อิตาลี ไป 7-6 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ บราซิล ซึ่งจะลงเตะกันในวันที่ 30 มิ.ย.นี้.