ทูตเนเธอแลนด์โต้บวรศักดิ์:กฎหมายหมิ่นฯยุโรปไม่เหมือนของไทย
โดย TJACO VAN DEN HOUT
ที่มา: Bangkok Post ลงเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2552 แปลโดย bbb ลงที่ประชาไทโดยคุณพาลีตรีเพชร 22 พฤษภาคม 2552
กฏหมายหมิ่นฯของยุโรปและเสรีภาพทางความคิดเห็น
สามบทความที่น่าสนใจลงในหนังสือพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ที่มีหัวข้อเกี่ยวกับ กฎหมายหมิ่นฯซึ่งเขียนโดย ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ (7, 8, 9 เมษายน 2552). ถึงแม้ว่าจะครอบคลุมเนื้อหาอย่างกว้างขวางอย่างน่าชมเชย ผมขอตั้งข้อสังเกตว่าผู้เขียนได้มองข้ามความจริงสองประการในการอธิบาย สถานการณ์ในยุโรป
ประเด็นแรกคือการใช้กฎหมายหมิ่นฯและหลักการของการตัดสินของศาลบนพื้นฐานของกฏหมายนั้น
ประเด็นที่สองคือสถาบันกษัตริย์ของยุโรปที่ผู้เขียนอ้างอิงถึงในบทความล้วนอยู่ร่วม ในอนุสัญญาแห่งยุโรปว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน (European Convention for the Protection of Human Rights and Fundamental Freedoms ("ECHR"). ผลกระทบจากกฎหมายที่มาจากคดี (case law) ECHR ต่อขบวนการยุติธรรมของคู่สนธิสัญญาไม่ควรถูกประเมินต่ำ
กฎหมายจากคดีท้องถิ่นในยุโรป (case law)
ในขณะที่ดร.บวรศักดิ๋ นำเสนอบทอธิบายโดยสรุปเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของยุโรปบางสถาบันอย่างชาญ ฉลาดรวมถึงกฏหมายหมิ่นฯของประเทศนั้นๆ มันสำคัญเช่นกันที่จะต้องตระหนักว่าในประเทศที่เขากล่าวถึง กฎหมายดังกล่าวแทบจะไม่เคยนำมาใช้และถึงแม้ว่าจะใช้ บทลงโทษส่วนใหญ่จะเบามาก ยกตัวอย่างเช่นในการวิเคราะห์ case law ของ Dutch เผยว่ามีการตัดสินคดีว่าผิดและคดีดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีการปรับเพียงเล็กน้อย
ในสหราชอาณาจักรกฎหมายตกอยู่ในสภาพเลิกใช้แล้วและระยะหลังๆก็ไม่มีตัวอย่างของ คดีเช่นนี้ในประเทศเดนมาร์คและนอร์เวย์เช่นกัน เมื่อหนังสือแมกกาซีนล้อเลียนของเสปนถูกสั่งให้จ่ายเงินจำนวน 3,000 ยูโร จากการละเมิดกฏหมายหมิ่นฯเมื่อปี 2550 สมาชิกของรัฐสภายุโรปได้เรียกร้องให้การหมิ่นฯถูกกฏหมาย
หลักกฎหมายของ Strasbourg
ถึง แม้ว่าไม่มีคดีหมิ่นฯดังกล่าวในศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรปในเมือง Strasbourg แต่มีสองกรณีที่ควรแก่การรับรู้เมื่อมีการถกกันเกี่ยวกับบทลงโทษของการ หมิ่นฯที่เกี่ยวกับเสรีภาพทางการแสดงออกที่รับรองโดยมาตราที่ 10 ของอนุสัญญาแห่งสหภาพยุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ในคดีของ Colombani และคนอื่นๆ V France 2002 นักข่าวสองคนถูกตัดสินว่าผิดและต้องจ่ายค่าเสียหาย 5,000 ฟรังค์ และ 10,000 ฟรังค์ตามลำดับ จากการหมิ่นประมุขของรัฐ กษัตริย์ Hassan แห่งโมร็อคโค
ตอนแรกศาลชี้ว่าการปกป้องผู้นำของรัฐต่างชาติจาก การถูกตำหนิเพราะเหตุผลเรื่องหน้าที่หรือตำแหน่งของเขาอย่างเดียวนั้น"ถือ เป็นการให้สิทธิพิเศษแก่พวกเขาอย่างที่ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติในยุค ปัจจุบันและความคิดทางการเมือง"
นอกจากนั้น ศาลยังชี้แจงอย่างแจ่มแจ้งว่าการมีกฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดานั้น"เพียงพอต่อ การปกป้องประมุขของรัฐและพลเมืองสามัญเช่นกันจากการกล่าวคำที่มีผลเสียหาย ต่อเกียรติยศหรือชื่อเสียงของพวกเขาหรือการหมิ่นประมาทพวกเขา" ถึงแม้ว่าการตัดสินคดีนี้เกี่ยวกับการหมิ่นประมาทประมุขของรัฐต่างประเทศมัน บ่งบอกว่าศาลพิจารณาว่าการลงโทษต่อการหมิ่นประมาทประมุขของรัฐนั้นมัน "ไม่จำเป็นในสังคมประชาธิปไตย" และมันขัดต่อสิทธิเสรีภาพทางการแสดงออกซึ่งรับรองโดยมาตรา 10 ของ ECHR มันสำคัญที่จะตั้งข้อสังเกตว่าโดยความเห็นของศาลนั้นแม้กระทั่งการที่ศาล แพ่งจะบังคับให้มีการจ่ายค่าเสียหายต่อการหมิ่นประมาทอาจละเมิดสิทธิของ เสรีภาพการแสดงออกที่รับรองโดยมาตรา 10 ของ ECHR. โดยเฉพาะถ้าจำนวนเงินนั้นมากเกินไป ในคดีของ Pakdemirli V Turkey 2005 สมาชิกสภาได้ถูกสั่งโดยศาลแพ่งให้จ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวน 60,000 ยูโรจากการหมิ่นประมาทประธานาธิบดีของตุรกี
ประการแรกแรก ศาลพิจารณาว่ามันน่าตกใจที่การตัดสินของศาลแพ่งแสดงถึงความวิตกที่มากเกินไป ต่อตำแหน่งประธานาธิบดี ประการที่สอง ในการอ้างอิงถึงการตัดสินของคดี Colombani ศาลชี้ว่าถึงแม้ว่าโดยหลักการแล้วการปกป้องโดยกฎหมายหมิ่นฯไม่ขัดกับ เจตนารมณ์ของอนุสัญญา แต่กฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดาก็ "เพียงพอต่อการปกป้องประมุขของรัฐและพลเมืองสามัญเช่นกันจากการกล่าวคำที่มี ผลเสียหายต่อเกียรติยศหรือชื่อเสียงของพวกเขาหรือการหมิ่นประมาทพวกเขา"
บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของ Mr. Van den Hout ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเอคอัครราชฑูตเนเธอร์แลนด์ประจำราชอาณาจักรไทย
จบกฎหมายมาจากมหาวิทยาลัย Lieden
เขียนเปเปอร์ เขียนบทความ ลงวารสารกฎหมายบ่อยๆ เขียนวิจารณ์ประเด็นกฎหมายที่อยู่ในสถานการณ์ตามหน้า นสพ บ่อยๆ งานเด่นๆเน้นๆ ก็เกี่ยวกับ การแก้ไขความขัดแย้งในข้อพิพาทระหว่างปะรเทศ
ปี ๑๙๙๙ ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการ Permanent Court of Arbitration ปี ๒๐๐๔ ก็ได้รับเลือกเป็นต่ออีกวาระหนึ่ง
ได้รับเชิญไปบรรยายวิชากฎหมายตามมหาวิทยาลัยบ่อยๆ
Commentจากอ.สมศักดิ์ เจียมธีรกุล : ประเด็นที่บวรศักดิ์ อ้างรัฐธรรมนูญประเทศยุโรปที่มีกษัตริย์บางประเทศ ที่มีข้อความว่า "ละเมิดมิได้" (inviolable) อยู่ด้วย ซึ่ง บวรศักดิ์ ต้องรู้ดีว่า การอ้างเพียงเท่านี้ เป็นการบิดเบือน (misleading) เพราะใน รธน. ไทย นั้น มีมากกว่า involable ซึ่งหมายความว่า "ฟ้องร้องไม่ได้" (นี่เป็นการอธิบายคำinviolable นี้ของบวรศักดิ์เอง ในบทความ ใน วารสาร นิติศาสตร์ มธ. เกี่ยวกับ รธน.2522) ซึ่งในแง่นี้ ก็จริงทีว่า หลายประเทศ ไม่อนุญาตให้ ฟ้องร้อง ประมุข (ในระหว่างดำรงตำแหน่ง)
แต่ของไทย ไม่ใช่ inviolable เท่านั้น คือ ไม่ให้ฟ้องร้องเท่านั้น แต่ระบุว่า "เป็นที่เคารพสักการะ" หรือ sacred ด้วย ไอเดียนี้ (sacred) ซึ่งเป็นไอเดียแบบ "เทวสิทธิ์" ดังที่ บวรศักดิ์ รู้ดี เป็นไอเดีย ที่ลอกมาจากรัฐธรรมนูญสมบูรณาญาสิทธฺราชย์ ของ ญี่ปุ่น (รธน.เมจิ) ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้วนับแต่หลังสงครามโลก
Create Date : 22 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 22 พฤษภาคม 2552 18:15:11 น. |
|
1 comments
|
Counter : 445 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พลอยไพลิน IP: 114.128.214.2 วันที่: 23 พฤษภาคม 2552 เวลา:14:55:24 น. |
|
|
|
| |