ประโยชน์ของหญ้าหนวดแมว
นิยมนำทั้งราก ต้น และใบ มาใช้ประโยชน์เป็นยาสมุนไพร
โดยนำส่วนต่างๆไปล้างให้สะอาด
แล้วนำไปผึ่งในที่ร่มให้แห้ง นำมาชงกับน้ำเดือด ดื่มคล้ายน้ำชา
หรือนำมาต้มกับน้ำรับประทานก่อนอาหาร
มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคไต ขับปัสสาวะ รักษาโรคกระษัย
รักษาโรคปวดตามสันหลัง ไขข้ออักเสบ
รักษาโรคนิ่ว รักษาโรคเยื่อจมูกอักเสบ
ลดความดันโลหิต รักษาโรคเบาหวาน
งานศึกษาที่เกี่ยวข้อง
- โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
นายแพทย์ วีรสิงห์ เมืองมั่น และคณะ
ได้ทำการศึกษากับผู้ป่วยโดยใช้ยาชงจากหญ้าหนวดแมว
ชงกับน้ำเดือด ให้กับผู้ป่วย
รับประทานแทนน้ำ ผลที่ได้พบว่า ผู้ป่วยปัสสาวะคล่อง
และใส่ขึ้น อาการปวดนิ่วลดลงได้
นิ่วมีขนาดเล็กลงและสามารถหลุดออกมาเองได้
กองวิจัยทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
รายงานเรื่องพิษเฉียบพลันว่าไม่มีพิษ
- รศ.นพ.อมร เปรมกมล ได้ทำการศึกษาผลของหญ้าหนวดแมว
ในการลดขนาดนิ่วไต พบว่า
หญ้าหนวดแมว สามารถลดขนาดนิ่วได้
และผู้ป่วยนิ่วที่มีอาการเรื้อรัง
ได้แก่อาการแน่นท้อง ปวดเอว ปวดข้อ เมื่อยเพลีย
ปวดศีรษะ แสบร้อนสีข้าง ปวดขา
หลังให้การรักษาด้วยหญ้าหนวดแมว พบว่า
อาการดังกล่าวลดลง เกือบจะหมด
และยังทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น สามารถทำงานได้มากขึ้นอีกด้วย
- ในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย
ใช้ใบของหญ้าหนวดแมว สำหรับชงดื่ม
เพื่อรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาหวาน
โรคความดันโลหิตสูง และโรคไต
- ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการวิจัยเกี่ยวกับการนำใบหญ้าหนวดแมว
มาชงเป็นชารับประทาน
ผลการวิจัยที่ได้ คือ ขับปัสสาวะ ขนาดนิ่วลดลง
และสามารถหลุดอกมาได้เอง
เช่นเดียวกับการศึกษาวิจัยในประเทศไทย
ข้อควรระวัง
1. ควรใช้ใบตากแห้ง เพราะใบสดจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และหัวใจสั่น
2. ไม่ควรใช้หญ้าหนวดแมวร่วมกับแอสไพริน
เพราะสารจากหญ้าหนวดแมวจะทำให้
ยาจำพวกแอสไพรินไปจับกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น
3. คนที่เป็นโรคหัวใจ ห้ามรับประทาน
เพราะมีสารโปตัสเซียมสูงมาก ซึ่งทำให้เกิดโทษ
ต่อร่างกายอย่างร้ายแรง ถ้าหากร่างกายขับออกมาไม่ได้
4. ไม่ควรใช้การต้ม ให้ใช้การชง และควรใช้ใบอ่อน
เพราะใบแก่จะมีความเข้มข้นอาจทำให้มีฤทธิ์กดหัวใจ
อย่างไรก็ตามทางที่ดีที่สุดควรปรึกษาแพทย์
หรือเภสัชกรก่อนที่จะตัดสินใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
เนื่องมาจากพระราชดำริฯ
#RamaChannel