การกินเจในปัจจุบันเปลี่ยนไปจากการกินเจในอดีต
โดยอาหารเจในปัจจุบันจะเน้นหนัก
อาหารเจที่มัน ๆ ทอด ๆ
ใช้น้ำมันราดจนเยิ้ม และอาหารเจปรุงสำเร็จ
ที่ขายกันอยู่ในท้องตลาด มักจะใช้ หมี่กึง
ซึ่งเป็นแป้งทำเลียนแบบเนื้อสัตว์
ทำให้หลายคนมีข้อสงสัยว่า
กินเจแล้วดีต่อสุขภาพจริงหรือ?
จริง ๆ แล้ว หากเรากินเจอย่างถูกต้อง
จะส่งผลดีต่อสุขภาพ
เพราะการงดเนื้อสัตว์ทุกชนิด
ใช้โปรตีนจากถั่ว และอาหารธรรมชาติชนิดต่าง ๆ แทน
จะช่วยให้กระเพาะอาหารได้พักจากภารกิจ
การย่อยเนื้อสัตว์ที่ทำประจำอยู่
นอกจากนี้ อาหารเจ ซึ่งเต็มไปด้วยผักผลไม้ ธัญพืช
และอาหารจากธรรมชาติ ล้วนให้คุณค่าสารอาหาร
ที่ต่างกันออกไป หากเรารู้จักเลือก
และผสมผสานวัตถุดิบในการประกอบอาหารให้เหมาะสม
ก็จะทำให้ได้รับสารอาหารที่หลากหลาย
และสมดุลมีคุณค่าทั้งเสริมสร้าง ส่งเสริม
และซ่อมแซมสุขภาพกินเจอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ
ระมัดระวังอาหารประเภทแป้งและไขมัน
ควรเน้นผักผลไม้ให้มาก ๆ
เพราะถ้าเผลอรับประทานอาหารที่ปรุงสำเร็จ
ซึ่งมักจะใช้ หมี่กึง รับรองความอ้วนมาเยือนแน่ ๆ
ควรเลือกอาหารที่ปรุงด้วยผัก เต้าหู้ และโปรตีนเกษตร
ไม่ควรรับประทานอาหารเจที่มีรสเค็มเกินไป
เพราะอาหารเจในปัจจุบันมีการนำเครื่องปรุงรส
เช่น ซอส เต้าหู้ เต้าเจี้ยว เกลือ
ที่มีเกลือเป็นส่วนประกอบค่อนข้างมาก
ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
อาหารเจส่วนใหญ่เป็นประเภทผัดและทอด
ซึ่งจะมีน้ำมันมาก ก็ไม่ควรรับประทานเยอะ
ไม่อย่างนั้นพอหมดช่วงกินเจ
รอบเอวจะเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ควรเลือกรับประทานอาหารเจประเภทต้มหรือนึ่ง
จะดีกับสุขภาพมากกว่าอาหารทอด ๆ
ที่สำคัญอย่าลืมขยับกาย
เคลื่อนไหวให้เหงื่อออกทุกวัน
กินเจอย่างไรให้ได้คุณค่าอาหารครบถ้วน
ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ถั่ว เป็นหนึ่งในเมนูสำคัญ
ที่นำมาใช้ประกอบอาหารในช่วงกินเจ
เพื่อให้ได้โปรตีนมาทดแทนเนื้อสัตว์ที่ขาดหายไป
ซึ่งถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีไม่แพ้เนื้อสัตว์
และไม่มีคอเลสเตอรอล
เห็ด ปัจจุบันเห็ดเป็นเมนูฮิตของทุกคนในครอบครัว
เพราะนอกจากจะนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู
และมีรสชาติอร่อยถูก ปากแล้ว
เห็ดถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีไม่แพ้เนื้อสัตว์และถั่ว
แม้ปริมาณจะไม่มากเท่าเนื้อสัตว์
แต่เห็ดมีกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องการครบถ้วน
เมื่อเทียบกับผักชนิดอื่น และที่สำคัญ
เห็ดยังเป็นแหล่งที่ดีของวิตามิน แร่ธาตุ รวมทั้งธาตุเหล็ก
และซีลีเนียมซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วย
ซึ่งเห็ดที่นิยมนำมาปรุงอาหาร เช่น เห็ดออรินจิ เห็ดหอม
เห็ดเข็มทอง เห็ดโคน เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู
และสารพัดเห็ดต่าง ๆ
ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งสิ้น
โดยเมนูเห็ดยอดนิยม ได้แก่ ยำเห็ดญี่ปุ่น
เต้าหู้ตุ๋นเห็ดหอม สเต๊กเต้าหู้ราดซอสเห็ดเจ
หรือ สปาเกตตีซอสเห็ด เป็นต้น
นอกจากเห็ดที่นำมาปรุงอาหารแล้ว
ยังมีเห็ดบางชนิดที่ไม่ได้มีเพียงคุณค่าทางโภชนาการ
แต่ยังมีประโยชน์ต่อการรักษาโรคและเสริมภูมิคุ้มกัน
ได้แก่ เห็ดทางการแพทย์
หรือ Medicinal Mushrooms
ที่สามารถนำมาใช้เป็นสารแอนติออกซิแดนต์
ป้องกันเซลล์ต่าง ๆ ไม่ให้ถูกทำลายหรือเสื่อมง่าย
นอกจากนี้ยังมีสารบางตัวที่เพิ่มภูมิต้านทาน
ของร่างกายซึ่งปัจจุบัน จึงถูกนำมาสกัด
เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในรูปเห็ดสกัดเข้มข้น
เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือแปรรูปเห็ดแห้ง
มาบริโภคในรูปชาหรือซุป หรือในรูปแคปซูล
เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้รักสุขภาพ
สามารถเลือกนำมาบริโภคได้สะดวก
และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
ในช่วงถือศีลกินเจ เช่น เห็ดไมตาเกะ
เห็ดยามาบูชิตาเกะ (เห็ดปุยฝ้าย)
เห็ดมาเน็นตาเกะ เห็ดเรอิชิ (เห็ดหลินจือ)
และเห็ดชิตาเกะ (เห็ดหอมญี่ปุ่น) เป็นต้น
ผักนานาชนิด
เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการกินเจ
แต่ถ้าจะกินให้ได้ประโยชน์สูงสุด ควรกินเป็นผักสด
หรือลวก มากกว่านำมาผัดที่ใช้น้ำมันราดจนสุก
แครอท ช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน
ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ สีดำ-น้ำเงิน-ม่วง
จากถั่วดำ เผือก มะเขือม่วง ช่วยในการบำรุงไต
สีเหลือง จากฟักทอง ถั่วเหลือง มะม่วงสุก ข้าวโพด
มีประโยชน์ในการบำรุงม้าม สีเขียว เช่น ผักคะน้า
ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงตับ
และ สีขาว จากลูกเดือย ผักกาดขาว ช่วยในการบำรุงปอด
ควรกินสลับกันไปในแต่ละวัน
เพื่อให้ได้คุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน
และต้องงดเว้น กระเทียม หัวหอม กุยช่าย
หรือผักที่มีกลิ่นฉุน
ธัญพืชไม่ขัดสีและผลไม้
มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย
เช่น วิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ
สารพฤกษเคมี สารเฟลโวนอยด์และใยอาหาร
ซึ่งผู้กินเจควรเลือกกินผลไม้ให้หลากหลาย
เช่น ส้ม กล้วย แอปเปิ้ล ช่วยบำรุงสุขภาพผิวให้สดชื่น
และเส้นใยอาหารจากผลไม้ ช่วยให้ระบบย่อย
และการขับถ่ายเป็นปกติ
ซึ่งผลไม้ที่สารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด ได้แก่ พรุน
นอกจากนี้มีใยอาหารช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
และมะเร็งเต้านม ที่มีทั้งใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล
และระดับน้ำตาลได้ดี ป้องกันท้องผูก
ส่วนบิลเบอรี่ช่วยบำรุงสายตา
ป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา เป็นต้น
เทศกาลถือศีลกินเจ ถือเป็นช่วงเวลาดี ๆ
ที่ทุกคนจะได้มีโอกาสทำบุญ ชำระจิตใจให้สะอาด
ฉะนั้น อย่าให้ช่วงเวลาดี ๆ นี้ ทำให้คุณเสียสุขภาพ
เลือกรับประทานอาหารเจ
ที่ได้จากอาหารจากธรรมชาติต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นธัญพืช ผัก ผลไม้ และเห็ดต่าง ๆ
ที่มีส่วนช่วยในการล้างพิษในร่างกาย
และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค ก็จะช่วยให้คุณอิ่มบุญ
และอร่อยกับเมนูอาหารเจได้อย่างไม่เสียสุขภาพ
ขอบคุณข้อมูลจาก
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชนิดา ปโชติการ
นายกสมาคมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย
#RamaChannel