Group Blog
All Blog
### ผงฟู มีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด ###




ประโยชน์หลากหลายของผงฟู









ประโยชน์เยอะนะ....ผงฟู หรือ เบกกิ้งโซดา (Baking Soda)

ผงฟูมีชื่อทางเคมีว่า โซเดียมไบคาร์บอเนต

มีประโยชน์มากมายตามที่หามาให้ เชิญอ่านค่ะ

1.ซักผ้า ไม่ว่าจะซักมือหรือซักเครื่อง ก็แค่ใส่ผงฟู แทน ผงซักฟอก

น่ะแหละ ข้อดีคือ ซักเสื้อผ้าสะอาด หมดกลิ่นเหม็นอับ

อ่อนโยนต่อผิวบอบบาง แพ้ง่าย แม้แต่ผิวเด็ก

น้ำที่ซักแล้วก็ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ด้วย

แถมราคาก็ประหยัดกว่าผงซักฟอกทั่วๆ ไป

สำหรับคราบ อาจใช้ผงฟูผสมน้ำป้ายๆ แล้วขยี้ค่ะ

2.ล้างจาน นอกจากซักผ้าแล้ว ใช้ล้างจานก็ได้

เพราะผงฟู ขจัดคราบมันและกลิ่นได้ดี

เอาผงฟูเทแล้วใช้ฟองน้ำขัดล้าง หรือผสมผงฟูกับน้ำ

 แล้วเอาฟองน้ำจุ่มล้างจาน ก็ได้ แล้วแต่สะดวก

แต่ถ้าจานมันมากๆ คงต้องใช้ตัวช่วย

เช่น เอาทิชชูเช็ดปากแล้วปาดคราบมันออกก่อนล้าง

 ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ยังได้

3. ล้างห้องน้ำ ใช้ผงฟูเป็นผงขัด-ล้าง

แทนการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำกรดกัดกร่อนรุนแรง

ถนอมสุขภาพคนล้างค่ะ ถึงห้องน้ำจะไม่ขาวจั๊วะใสปิ๊ง

แบบน้ำยาล้างห้องน้ำทั่วไปให้คุณได้ แต่คุณได้ช่วยสิ่งแวดล้อม

 อนุรักษ์น้ำค่ะ ถ้าอยากใช้ขัดหัวก๊อกน้ำ หรือวัสดุที่ต้องการความแวววาว

อาจบีบน้ำมะนาว หรือใช้น้ำส้มสายชูผสมกับผงฟู

แล้วขัดๆ ค่ะ วาว แน่นอน

4. ล้างผัก เป็นวิธีที่สะอาดและปลอดภัยที่สุด ง่ายๆ

แค่ผสมผงฟู ซัก 2 ช้อนโต๊ะหรือมากกว่า น้ำเยอะใช้เยอะหน่อย

 ละลายน้ำธรรมดา หรือน้ำอุ่นนิดๆ ใช้แช่ผัก ผลไม้

ขจัดสิ่งสกปรกและสารพิษได้ดีมาก ปลอดภัย เพราะผงฟูกินได้

5. ขจัดกลิ่นอับ กลิ่นเหม็น เช่น ตู้เย็น ตู้รองเท้า ในรองเท้า

ห้องที่ทาสีใหม่ ฯลฯ ก็เอาผงฟู เทใส่จาน ถาด กระป๋อง

หรือโปรยๆ ลงไป ณ บริเวณที่อับ เหม็น

แต่ต้องปิดตู้ ปิดห้อง ให้มิดชิดนะคะ ทิ้งให้มันดูด ซักวัน สองวัน

 หรือวางไว้ตลอด ช่วยดูดกลิ่นเหม็นได้ดี พอๆกับใช้คาร์บอน(ถ่าน)เลยค่ะ

6.แปรงฟัน ลดหินปูน กลิ่นปาก และช่วยให้ฟันขาวได้น่าทึ่ง

7.ช่วยเรอ ผงฟูผสมน้ำดื่ม ช่วยให้เรอแก้อาการท้องอืดได้ค่ะ

เนื่องจากผงฟูมีอนุภาคเล็กเป็นรูปทรงผลึกที่อ่อนนุ่ม

จึงช่วยในการขัดถู ยังมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นเหม็น ดูดความชื้น

ปรับค่าความเป็นกรดด่าง ฆ่าเชื้อโรค ไม่กัดกร่อนผิวภาชนะ

จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตามตำรับและสูตรต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. ขจัดคราบสกปรกบนขอบและบานหน้าต่าง ด้วยฟองน้ำเปียกๆ

ที่โรยด้วยผงฟูเล็กน้อยใช้ล้างด้วยฟองน้ำและเช็ดแห้ง

2. ล้างหน้าต่างบานเกล็ดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมผงฟู3/4 ถ้วยตวง

ราดน้ำให้เปียกทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง ก่อนใช้แปลงขัดออก

3. ล้างหน้าต่างอลูมิเนียมและ Door Sereens

โดยใช้แปลงเปียกๆ จิ้มผงฟูขัดออกใช้ฟองน้ำหรือผ้านุ่มๆ

ล้างให้สะอาดทำความสะอาดงานไม้

4. ทำความสะอาดงานจากไม้ฝาผนังหรืออุปกรณ์เครื่องใช้

โดยการผสม น้ำส้มสายชู ? ถ้วยตวง ผงฟู ? ถ้วยตวง น้ำอุ่น 4.5 ลิตร

5. ถ้าพื้นผิวผนังสกปรกมีคราบเหนียวเหนะหนะ

ให้ใช้แอมโมเนีย 1 ถ้วยตวง นำไปเช็ดให้ทั่วฝาผนังด้วยฟองน้ำหมาดๆ

อย่าใช้ผ้าขนหนูเปียก ทิ้งไว้สัก 2-3 นาที ก่อนที่จะเช็ดคราบสกปรกออก

(ควรจำไว้เสมอว่าเครื่องเรือนไม้มีลักษณะแตกต่างกัน

ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจให้ทดลองเฉพาะพื้นที่เล็กๆ ก่อน)

6. รอยด่างเป็นวงหรือรอยจุดบนเฟอร์นิเจอร์ไม้

หากเกิดความร้อนบางครั้งก็อาจขัดออกได้ด้วยการผสมยาสีฟัน และผงฟู

ในสัดส่วนเท่าๆ กันใช้ผ้านุ่มเช็ดออกเบาๆ

ใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาด้วยก็ได้หากจำเป็น

7. ขจัดคราบหยดน้ำบนพื้นไม้โดยการใช้ผงฟูกับผ้าขี้ริ้วหมาดๆ

เช็ดออกจำไว้ว่าเครื่องเรือนที่ทำจากไม้ไม่ควรทำให้เปียก

ความสะอาดพื้นผิว

1. ใช้ฟองน้ำเปียกๆ เช็ดผงฟูเพื่อเช็ดคราบสีเทียนที่ติดบนผนัง

ชนิดล้างๆด้วยเช็ดถูเบาๆ วิธีนี้จะช่วยทำความสะอาดคราบสกปรก

ส่วนใหญ่อื่นๆ รวมทั้ง คราบน้ำมัน ดินสอ และปากกา มาร์คเกอร์ได้ด้วย

2. ใช้ผงฟูผสมน้ำเปียกๆ ข้นๆ เพื่อเช็ดถูคราบสกปรก

ที่เกิดจากการรอยลากไปมาบนพื้นเสื่อน้ำมัน

3. ขจัดคราบหรือหยดน้ำหมึกออกจากพื้น เสื่อน้ำมัน

โดยการใช้ผงฟูข้นๆ ป้ายบริเวณสกปรกทิ้งไว้จนแห้งสักครู่

ก่อนจะเช็ดออกและใช้ผงฟูใหม่ๆ ขัดออกอีกครั้ง

เบ็ดเตล็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเกี่ยวกับการดูแลรักษา

1. ล้างผงฟูสัก 1 ถ้วยตวงลงในโถส้วมหรือท่อน้ำทิ้งเป็นประจำ

สัปดาห์ละครั้งจะช่วยคงสภาพความเป็นกรด-ด่างระบบของถังบำบัด

ของเสีย สภาพความเป็นกรดด่างในระดับที่เหมาะสม

จะช่วยให้แบคทีเรียแตกตัวทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 ซึ่งจะช่วยป้องกันการอุดตันและตกค้างในแทงค์และท่อน้ำทิ้ง

การใช้ผงฟูสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันไม่ให้แทงค์คอนกรีต

หรือแทงค์ที่ทำจากโลหะผุกร่อนง่าย โดยเฉพาะบริเวณฝาแทงค์

ที่ต้องสัมผัสกับไอระเหยที่ทำให้ผุกร่อนง่าย

2. ผสมผงฟูกับน้ำเล็กน้อยให้เปียกๆ ข้นๆ เพื่ออุดรูตามผนัง

ที่มีรอยปูนแตกร้าว เพื่อซ่อมแซมเป็นการชั่วคราว

เมื่อมันแห้งแล้วจะดูกลมกลืนเข้ากับฝาผนังปูนพลาสเตอร์ขาว

เมื่อต้องการซ่อมแซมอย่างถาวรให้ผสมผงฟูกับกาว (ลาเท็กซ์)

ซ่อมแซมสีขาวที่ใช้ตามบ้านเรือน

3. ทำความสะอาดผนังที่มีคราบดำของเขม่าควัน

ด้วยการใช้เศษผ้าชื้นๆ และผงฟูละลายเข้มข้น

4. ทำความสะอาดอุปกรณ์ตกแต่งเครื่องเรือน

โดยการโรยผงฟูให้ทั่วเครื่องตกแต่ง ทิ้งไว้สักครู่

จากนั้นจึงดูดออก กลิ่นเขม่าควันจะถูกกำจัดออกจนหมดจด

5. ใช้ผงฟูทำความสะอาดเครื่องประดับลวดลายลูกไม้ประเภทต่างๆ

6. ทำความสะอาดแป้นพิมพ์ดีด ด้วยแปรงสีฟันขนอ่อนๆ

ขัดโดยใช้ผงฟู 4 ช้อนโต๊ะละลายกับน้ำ 1 ถ้วยตวง

จากนั้นใช้กระดาษชำระเช็ดออก

7. แช่ไม้ถูพื้นหรือไม้กวาดในน้ำ 1ถัง ละลายผงฟู 4 ช้อนชา

แต่ให้แช่หลังจากที่ชำระสิ่งสกปรกออกไปแล้ว

วิธีนี้จะเป็นการกำจัดกลิ่นเหม็นอับตกค้างบนไม้ถูพื้นตากให้แห้ง

บ้านสุขภาพ

1. ป้องกันไม่ให้ภาชนะกระเป๋าเดินทางของคุณมีกลิ่นเหม็นอับ

เหม็นชื้นจากเชื้อรา โดยการโรยผงฟูลงบนภาชนะข้าวของเครื่องใช้

ก่อนที่จะเก็บเข้าที่เข้าทางอย่างมิดชิด

2. โรยผงฟูในโถส้วม อ่างน้ำทิ้ง ใน อ่างล้างหน้า อ่างล้างจานชาม

อ่างอาบน้ำ หรือโรยลงบนฝักบัวทิ้งไว้ ก่อนที่คุณจะหยุดใช้ชั่วคราว

เพื่อไปพักร้อน วิธีนี้จะช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นอับ กลิ่นเก่าเก็บตกค้าง

3. ขจัดกลิ่นเหม็นอับออกจากผ้านวม ผ้าห่มหลังจากที่คุณเก็บไว้นานๆ

โรยผงฟูลงบนผ้านั้น ม้วนเก็บไว้สัก 2 ชั่วโมง จากนั้นสะบัดออก

และตบให้ฟูหรือใช้ไดร์เป่าลมให้ฟูโดยไม่ใช้ความร้อนเป่า

4. นำผงปิดฝากล่องตั้งทิ้งไว้ในห้องที่โรงงาน เพื่อขจัดกลิ่นสี

หรือกลิ่นสารระเหย หรือกลิ่นน้ำยาขัดเคลือบวัสดุต่างๆ

5. ช่วยลดกลิ่นตกค้างก้นของบุหรี่

โดยการโรยผงฟูสักเล็กน้อยลงบนถาดเขี่ยบุรี่

6. ขจัดกลิ่นตกค้างบนผ้าปูโต๊ะโดยการแช่ผ้าในน้ำสารละลายผงฟู

กำจัดกลิ่นรองเท้าด้วยผงฟู

1. วางถุงหรือซองผงฟู ไว้ในรองเท้าผ้าใบหุ้มส้น

เพื่อไม่ให้รองเท้ามีกลิ่นอับเหม็นหลังการใส่

และมีกลิ่นเหม็นตกค้างอยู่ในตู้รองเท้า

วิธีนี้คุณอาจจะใช้ผงฟูผสมกับแป้งหอมกลิ่นที่คุณชอบ

ผสมรวมกันไว้ในซองตามที่ต้องการ

2. โรยผงฟูในรองเท้าผงฟูจะช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไป

 ทิ้งไว้ข้ามคืน รุ่งขึ้นคุณแค่เคาะผงฟูออก

ประโยชน์ของ กับร่างกายเรามีดังนี้

1. บรรเทาอาการผิวไหม้แดด ผสมเบคกิ้งโซดาลงในน้ำอุ่นสำหรับอาบ

จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดจากผิวไหม้จากแดดได้

2. แก้เจ็บคอ ผสมเบคกิ้งโซดาครึ่งช้อนชาลงในน้ำเปล่าใช้กลั้วคอ

ทุก ๆ 4 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการเจ็บคออันเกิดจากกรด

รวมทั้งยังช่วยรักษาแผลในช่องปากได้ดีอีกด้วย

3. น้ำยาดับกลิ่นปาก

- ผสมเบคกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว

สามารถดับกลิ่นหอม ,กระเทียม ได้

ถ้าใช้เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 แก้ว

และผสมเกลือใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

- ผสมเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 ถ้วย

ใช้บ้วนปากจะช่วยดับกลิ่นปากได้

4. ขัดฟันให้ขาว นำเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

ผสมกับน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ใช้แปรงสีฟันจุ่ม

แล้วขัดฟันเบา ๆ บ้วนน้ำเปล่าจนสะอาดคราบชา กาแฟ จะหายไป

(ห้ามทำเวลาป่วยเพราะมะนาวมีกรดสูงอาจทำลายเคลือบฟันได้)

5. ทำสครับขัดหน้า

- นำเบคกิ้งโซดา 3 ส่วน น้ำเปล่า 1 ส่วน ผสมกันให้พอเปียก ๆ

 แล้วขัดหน้าเบา ๆ จนรู้สึกว่าหน้าสะอาดแล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า

- นำเบคกิ้งโซดา 2 ช้อนโต๊ะ ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ

 น้ำ 2 ช้อนตวง นำมาผสมให้เข้ากันแล้วนำมาขัดหน้าเบา ๆ

เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นจะรู้สึกว่าหน้าสะอาดและนุ่ม

6. ทำสครับขัดผิว นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือ 1/2 ถ้วย

มะนาว 1 ลูก น้ำมันทาผิว 2 ช้อนโต๊ะ นำมาผสมกันก่อนจะใช้

แล้วนำมาขัดผิวกายระหว่างอาบน้ำ

7. สปาเท้า นำเบคกิ้งโซดา 1/2 ถ้วย เกลือทะเล 2 ช้อนโต๊ะ

 น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมินต์ และนำน้ำอุ่นใส่ในกะละมังแช่เท้า

 จะช่วยฆ่าเชื้อโรค ดับกลิ่นเท้า รวมทั้งความร้อน

จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อเท้าได้

8. เส้นผม >> เพียงแค่นำผงฟูหนึ่งช้อนชามาผสมแชมพู

แล้วนำไปสระผมตามปกติ สูตรนี้จะช่วยขจัดสารตกค้าง

จากผลิตภัณฑ์แต่งผม และขอบอกอีกสักนิดว่า

สูตรนี้เหมาะสมกับผมเส้นเล็กนะจ๊ะ

9.ขัดหน้า >> ผสมผงฟูครึ่งช้อนชากับ cleanser ที่น้องๆ ใช้อยู่

 เมื่อหน้าเปียกหมาดๆ ให้นำส่วนผสมที่เตรียมไว้

แล้วมานวดให้ทั่วใบหน้า และล้างออกด้วยน้ำสะอาด

 แต่ถ้าน้องๆ มีปัญหาสิว ให้เพิ่มยาแอสไพรินหนึ่งเม็ด

ที่บดเรียบร้อยแล้วเข้าไปด้วย

เพราะในยาชนิดนี้มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก

ที่จะเป็นตัวช่วยกำราบแบคทีเรียได้

10.หวีและแปรง >> เทน้ำอุ่นลงในภาชนะที่เตรียมไว้

 แล้วเติมผงฟูลงไป 2-3 ช้อนโต๊ะ แช่หวีและแปรงทิ้งไว้

ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้นนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด

 และผึ่งแดดให้แห้ง ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการขจัดสารที่ตกค้างอยู่ให้ออกไป

11.ผิว >> ผิวจะนุ่มน่าสัมผัสมากขึ้น

ถ้าน้องๆ ลองนำผงฟูประมาณหนึ่งหยิบมือเติมลงในน้ำอุ่น

แล้วแช่มือไว้ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้นล้างมือด้วยน้ำสะอาด

ความรู้เกี่ยวกับผงฟู

ในการใช้ผงฟูแต่ละครั้งมักจะใช้ไม่หมด

ผงฟูที่เหลือควรเก็บใส่กระป๋องปิดฝาให้สนิท

วิธีทดสอบว่าผงฟูนั้นยังมีคุณภาพดีหรือไม่

ให้เอาน้ำใส่ถ้วยแก้วไว้เล็กน้อย แล้วตักผงฟูเทลงไปนิดหน่อยในน้ำ

 ถ้าน้ำเดือดเป็นฟองก็แสดงว่าคุณภาพของผงฟูนั้นยังดีอยู่

ผงฟูเมื่อใช้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรปิดกระป๋องให้สนิท

 ถ้าปิดไม่สนิทความชื้นภายนอกจะเข้าไปทำปฏิกิริยา

ทำให้ผงฟูชื้นและเสื่อมคุณภาพ

ขอบคุณที่มา fb.โดย ทางแพทย์สายพุทธ







Create Date : 28 เมษายน 2557
Last Update : 28 เมษายน 2557 12:02:32 น.
Counter : 6265 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ