Group Blog
 
All Blogs
 
บันทึกของผู้เฒ่า (๔๒) ประวัติ พระยาศรีสุนทรโวหาร

บันทึกของผู้เฒ่า (๔๒)

ประวัติของพระยาศรีสุนทรโวหาร โดยสังเขป มีดังนี้

พระยาศรีสุนทรโวหาร ญาณปรีชามาตย์ บรมนารถนิตยภักดีพิริพาหะ เจ้ากรมพระอาลักษณ์ แลองค์มนตรีในรัชกาลปัตยุบันนี้ (รัชกาลที่ ๕) ท่านชื่อ น้อย อุปบัติเกิดที่บ้านในคลองโสธร แขวงเมืองฉเชิงเทรา เมื่อ ณ วัน ๖ เดือน ๘ แรม ๒ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๑๘๔ ตรงกับวันที่ ๕ กรกฎาคม รัตนโกสินทร์ศก ๔๑ (พ.ศ.๒๓๖๕ รัชกาลที่ ๒ ) บิดาท่านชื่อ ทองดี มารดาท่านชื่อ บัว ท่านเป็นบุตรคนที่ ๖ ของบรรพบุรุศ

เมื่อท่านมีอายุได้ ๖ ปี ๗ ปีนั้น ท่านได้เล่าเรียนหนังสือไทยกับ หลวงบันเทาทุกขราษฎ์ ไทย) กรมการเมืองฉเชิงเทรา ซึ่งเป็นพี่ชายใหญ่ของท่าน แต่เมื่ออหลวงบรรเทาทุกขราฎร์ ยังบวชเป็นภิกษุอยู่ที่วัดโสธรนั้น

เมื่ออายุท่านได้ ๑๓ ปี พี่ชายใหญ่ของท่านจึงได้พากันเข้ามาพัก อยู่กับท่านสามเณร (ทัด) ซึ่งเป็นน้าชายของท่าน ที๋ได้เข้ามาบวชอยู่วัดสเกษนั้น ท่านสามเณรทัดองค์นี้ ได้ชักนำให้ท่านเล่าเรียนวิชาหนังสือไทยกับท่านกรรมวาจา จัน เรียนหนังสือขอมกับท่านพระครูวิหารกิจานุการ (กรรมวาจา จีน) แล้วได้เรียนสารสงเคราะ ในสำนักสมเด็จพระสังฆราช (ต่อน) เรียนมงคลทิปนีในสำนักพระอุปทยาจาริยศุข เรียนมูลกัจจายนในสำนักสมเด็จพระพุทธาจาริย (สน) เรียนกังขาวิตะระณีในสำนักพระอาจาริย(เกิด วัดแหลม) เรียนมหาวงศ์ในสำนักพระครูด้วง แลได้เล่าเรียนพระคัมภีร์อื่น ๆ ในสำนักพระครูปาน พระใบฎีกาแก้ว พระอาจาริยคง พระอาจาริยด้วง ฝ่ายอาจาริยคฤหัสถ์นั้น ท่านได้ร่ำเรียนวิภัตติ กะถาคัณฐาภรณ์สัตถสาร วะชิระสาร ในสำนักท่านอาจาริยแสง เรียนวุตโตไทยในสำนักหม่อมเจ้าอ้น บ้านถนนโรงครก เสาะหาอาจาริยศึกษาวิชาหนังสือขอม หนังสือไทย ในสำนักพระอาจาริยต่าง ๆ ดังนี้มาตั้งแต่อายุท่านได้ ๑๔ ปี แล้ว
ท่านจึงได้เข้าบวชเป็นสามเณรอีก ๘ ปี รวมเวลาที่ท่านเล่าเรียนอยู่ถึง ๑๑ ปี

ครั้นเมื่อปีขาล จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๐๔ อายุท่านได้ ๒๑ ปี ครบอุปสมบทแล้ว ท่านจึงได้เข้าอุปสมบทเป็นภิกษุอยู่ในวัดสเกษ ได้ศึกษาปริญัติธรรมเรียนคัมภีร์วิสุทธิมัคกับพระวิเชียรปรีชา (กลิ่น) เจ้ากรมราชบัณฑิตย์ ที่พระที่นั่งดุสิทธิมหาปราสาท ต่อมาได้ ๓ พรรษาจึงได้เข้าแปลปริญัติธรรมในที่ประชุมพระราชาคณะ ที่วัดราชบูรณ กรมไกรษรวิชิตเป็นผู้กำกับเป็นครั้งที่ ๑ ได้เป็นเปรียญเอก ๕ ประโยค มีนิตยภัตรเดือนละ ๘ บาท

แล้วท่านยังได้เล่าเรียนในสำนักพระอาจาริยอื่น ๆ ต่อมาอีก ๓ พรรษารวมเป็น ๖ พรรษา จึงได้เข้าแปลพระปริญัติธรรม ในที่ประชุมพระราชาคณะ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงพระผนวชแลได้ทรงกำกับแปลพระปริญัติธรรม กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงษเธอ กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส ศรีสุคตขัติยวงษ์ ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อีกครั้งหนึ่ง ได้ขึ้นอีก ๒ ประโยค รวมเป็น ๗ ประโยคครั้นภายหลังท่านได้ศึกษาพระปริญัติธรรมในสำนักพระอาจาริยต่าง ๆ อีก ๓ พรรษา รวมที่ท่านได้ดำรงสะมะณะเพศ อยู่ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ๙ พรรษา และในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ๒ พรรษา รวมเป็น ๑๑ พรรษา และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาสิกขาบท เมื่อ ณ วัน ๒ เดือน ๒ แรม ๓ ค่ำ ปีฉลู เบญจศก ศักราช ๑๒ ๑๕ (พ.ศ. ๒๓๙๖)

เมื่อท่านได้ลาสิกขาบทแล้ว ก็เข้ารับราชการอยู่ในกรมมหาดเล็กเวรศักดิ จนครบรอบปี จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นที่ ขุนประสิทธิอักษรสารท ผู้ช่วยกรมพระอาลักษณ์ และให้ว่าที่เจ้ากรมพิมพการอีกตำแหน่งหนึ่ง

เมื่อจวนสิ้นรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตามเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสุริยุปราคา ที่ตำบลหว้ากอ ด้วย ครั้นมาในรัชกาลประจุบันนี้ (รัชกาลที่ ๕)ได้โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตำแหน่งยศเป็นที่ ขุนสารประเสริฐ ปลัดทูลฉลองกรมพระอาลักษณ์

ครั้นเมื่อ ณ วัน ๔ เดือน ๑ แรม ๒ ค่ำ ปีมะแม ตรีศก จุลศักราช ๑๒๓๓ (พ.ศ.๒๔๑๔ ) ท่านได้คิดแบบสอนหนังสือไทย คือ มูลบทบรรพกิจ เล่ม ๑วาหะนิตินิกร เล่ม ๑ อักษรประโยค เล่ม ๑ สังโยคพิธาน เล่ม ๑ พิศาลการันต์ เล่ม ๑ ทูลเกล้าฯ ถวาย ให้เอาต้นฉบับแบบหนังสือไทยทั้ง ๕ เรื่องนั้น ลงพิมพ์ที่โรงพิมพ์หลวง และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตำแหน่งยศขึ้นเป็น หลวงสารประเสริฐ

ภายหลังท่านได้คิดแบบหนังสือไทยเพิ่มขึ้นอีกหลายฉบับ รวมทั้ง ไวยพจนพิจาร เล่ม ๑ ครั้นต่อมาภายหลัง พระยาศรีสุนทรโวหาร (ฟัก) เจ้ากรมอาลักษณ์ถึงแก่กรรมลง จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ท่านเป็นที่ พระศรีสุนทรโวหาร เจ้ากรมพระอาลักษณ์ ตั้งแต่ ณ วัน ๖ เดือน ๙ ขึ้น ๕ ค่ำ ปีกุน สัปตศก จุลศักราช ๑๒๓๗ (พ.ศ. ๒๔๑๘)

ครั้นเมื่อ ณ วัน ๗ เดือน ๖ ขึ้น ๙ ค่ำ ปีกุน นพศก จุลศักราช ๑๒๓๙ (พ.ศ.๒๔๒๐) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ท่านเป็นองคมนตรีที่ปฤกษาราชการ แลรับราชการตำแหน่งเลขานุการ สภาเลขานุการ ในที่ประชุมที่ปฤกษาราชการแผ่นดินด้วย

ครั้นเมื่อ ณวัน ๒ เดือน ๕ แรม ๑๔ ค่ำ ปีมะเมีย จัตวาศก จุลศักราช ๑๒๔๔ (พ.ศ.๒๔๒๕)จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนตำแหน่งยศขึ้นเป็น พระยาศรีสุนทรโวหาร ญาณปรีชามาตย์ บรมนารถนิตยภักดี พิพาหะ

ครั้นเมื่อ ณ วัน เดือน ๑๐ ปีเถาะ ตรีศก จุลศักราช ๑๒๕๓ ตรงกับวันที่ ๒๑ กันยายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๐ (พ.ศ.๒๔๓๔) ท่านป่วยมีอาการเป็นไข้เส้นให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานหมอหลวงมารักษา ครั้นถึง ณ วัน๖ เดือน ๑๑ ขึ้น ๑๔ ค่ำ ปีเถาะ ตรีศก จุลศักราช ๑๒๕๓ ตรงกับวันที่ ๑๖ เดือนตุลาคม รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๐ (พ.ศ. ๒๔๓๔ ) ท่านได้สั่งให้ข้าพเจ้านำดอกไม้ธูปเทียนมาทูลเกล้าฯ ถวายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กราบถวายบังคมลา เวลาบ่าย ๕ โมงเศษ ก็ถึงแก่อนิตยกรรม์

หลวงสารประเสริฐน้อย นามเดิม
คิดจัดจำแนกเติม ต่อตั้ง
ใดพร่องปราชเชิญเสริม แซมใส่ เทอญพ่อ
ต้นแต่นโมทั้ง หมู่ไม้เอกโท

ระบิลระบอบนี้ นามสฤษดิ์
มูลบทบรรพกิจ ประกอบถ้อย
สำหรับฝึกสอนศิษย์ แรกเริ่ม เรียนฤๅ
จงพ่อหนูน้อยน้อย เล่าอ้ออ่านจำฯ

ประวัติของท่าน พระยาศรีสุนทรโวหาร ผู้แต่งแบบเรียนหลวง โดย น.ห.หลวงมหาสิทธิโวหาร ปลัดนั่งศาลกรมพระอาลักษณ์ แลผู้ช่วยราชการใน กรมไปรสนีย์ เป็นผู้แต่ง จึงยุติลงแต่เพียงนี้.

##########


Create Date : 17 มิถุนายน 2558
Last Update : 17 มิถุนายน 2558 17:03:52 น. 0 comments
Counter : 375 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.