สารบัญ บล็อค ธรรมภูต ภูตแห่งธรรม
ธรรมภูต ภูตแห่งธรรม นำพามา ซึ่งพระธรรม
น้อมนำไป ปฏิบัติได้ เพื่อรู้เห็น ตามเป็นจริง




ธรรมภูต ๒๕๖๐
วันมาฆะบูชามาละชั่วที่ทำได้ยากยิ่งกว่าการทำความดีในจิตของตน
"สมถะ" และ "วิปัสสนา" เป็นองค์ธรรมที่ต้องคู่กัน
"สัมมาสมาธิฌาน" เป็นทางเดินของจิตไปสู่ความเป็น "อริยะ"
การเจริญ กระทำให้มากซึ่งฌาน ๔ ในสัมมาสมาธิ ย่อมเข้าใกล้พระนิพพาน
พระพุทธองค์ทั้งเป็นผู้เพ่งฌานและเป็นผู้มีฌานเป็นปรกติ
พวกเธอจงเพียรเพ่งฌาน
ผู้เข้าถึงฌาน มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ
สมาธิเป็นเหตุให้เกิดปัญญา
จิตไม่เกิดดับ อารมณ์สิเกิด-ดับ
ผู้มีฌานเป็นปรกติ ย่อมมีจิตสงบตั่งมั่นไม่หวั่นไหว
ปัญญาที่แฝงด้วยสัญญา
พุทโธ พุทธานุสติ เพื่อความหลุดพ้น
ผู้ที่อบรมจิตจนสงบตั้งมั่นไม่หวั่นไหว จึงจักพ้นจากทุกข์ได้
ต้อง สมถะและวิปัสสนา ไม่ใช่ สมถะหรือวิปัสสนา
สติ สมาธิ ปัญญา เป็นธรรมที่ต้องอาศัยซึ่งกันและกันให้เกิดสืบเนื่องกัน
ปัจฉิมโอวาท


ธรรมภูต ๒๕๕๙
สติ สมาธิ ปัญญา เป็นอัญญะมัญญะปัจจัย
คำว่า วิปัสสนานุบาล ไม่เคยมีปรากฎเป็นพุทธบัญญัติ
รู้กาย รู้ใจ ใครๆ ก็รู้ได้
พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป
สติสัมปชัญญะเป็นสันตติธรรมนำไปสู่ปัญญา
สักแต่ว่า ฟังดูดี แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด
"ทิฏฐิ" ที่เป็น "สัมมา" ไม่ใช่ได้มาด้วยความรู้สึกนึกคิด
ศีลรักษาเราหรือเรารักษาศีล
ธรรมทั้งหลายล้วนรวมลงที่จิต
กรรมฐานในอริยมรรค ไม่ใช่หินทับหญ้า
วิสาขบูชาพาหลุดพ้น
การฟังธรรมแล้วบรรลุธรรมโดยฉับพลัน จริงหรือ???
จิต คือ ตน
ดูกายดูใจแบบไหนที่ถือว่า "ผิด"
สัมมาทิฏฐิ มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาเท่านั้น


ธรรมภูต ๒๕๕๘
สติ-สัมปชัญญะ เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก หาใช่เจตสิกธรรมไม่
"สัมมาวิปัสสนา" ไม่มีปรากฎในอริยมรรค ๘
เธอทั้งหลายจงเพ่งฌาน อย่าได้ประมาท
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
การชำระจิตของตนให้ผ่องใส นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระนิพพานเป็นธรรม ณ ภายใน
ความแตกต่างของสัมมาสมาธิกับฌานสมาบัติ ๘
ความสำคัญของวันวิสาขบูชา


youtube สนทนาธรรมกับธรรมภูต
ธรรมภูต บรรยายธรรมครั้งแรก ณ ศูนย์พุทธศรัทธา
สัมมาสติต้องเจริญให้เกิดขึ้น เกิดขึ้นเองไม่ได้
จงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
เธอทั้งหลายจงเพ่งฌาน อย่าได้ประมาท
การชำระจิตให้ผ่องใส นี้คือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
สัมมาสมาธิกับฌานสมาบัติ ๘
ความเพียรมีผล ความพยายามมีผล
คำว่า วิปัสสนานุบาล ไม่เคยมีปรากฎเป็นพุทธบัญญัติ
กรรมฐานในอริยมรรค ๘ ไม่ใช่หินทับหญ้า
พระนิพพานเป็นธรรม ณ ภายใน



พระบาลี-พุทธพจน์
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
ความเวียนว่ายของเรา เข้าไปในชาติน้อยใหญ่อันยาวนานนับไม่ถ้วน เพราะไม่เห็นอริยสัจ ๔ ตามความเป็นจริง
จงยังสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด ผู้ที่มีจิตตั้งมั่นแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง
จิตประภัสสรผ่องใส แต่เศร้าหมองไปเพราะมีอุปกิเลสเป็นแขกจร
เอกจรํ จิตดวงเดียวเที่ยวไป
เราไม่พัก ไม่เพียร ข้ามโอฆะได้แล้วอย่างนี้แลฯ


พระพุทธพจน์กิเลสอ้าง
พระพุทธพจน์กิเลสอ้าง [1]


ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล ธรรมที่งามในเบื้องต้น


จากใจธรรมภูต
บล็อกนี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมา เพื่อโต้แย้งพระเพียงองค์เดียว


ธรรมภูตไขปัญหาธรรม
พระพุทธศาสนาสอนเรื่องจิตกับอารมณ์เท่านั้น
การรู้จักจิตผิดๆ ทำให้การศึกษาพระพุทธศาสนาผิดตลอดแนว
กรรมฐาน คือ ฐานที่ตั้งแห่งการงานทางจิต
การภาวนาแบบสุกขวิปัสสโก คือทำฌานให้แห้งแล้ง หรือ?
ฟังธรรมแล้วบรรลุธรรมเลยได้มั๊ย ?
เมื่อจิตยังไม่เคยสงบตั้งมั่น จะใช้เจริญสติได้มั้ย ?


ธรรมภูตไขข้อธรรม
จิตเป็นต้นนั้น ล้วนเป็นจิตสังขารทั้งสิ้น
สัพเพ ธัมมา อนิจจา ทุกขา อนัตตา ถูกต้องจริงล่ะหรือ ???
สังขตธรรม-อสังขตธรรม เป็นอนัตตาจริงล่ะหรือ ?


ธรรมภูตตอบปัญหาดูจิต
ดูจิตติดที่รู้เฉยๆ เพราะคิดเองเออเอง เป็นวิปัสสนาจอมปลอม
การดูจิต จะรู้ได้ยังไงว่า กำลังดูจิต เพื่อให้รู้จักจิตหรือกำลังติดอาการของจิต
การดูกาย ก็คือ การดูจิตดีๆนี่เอง
ดูจิตยังไง ถึงจะไม่ติดอาการของจิต?
จิตเห็นจิต ในจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน


ดูจิตแบบธรรมภูต
ดูจิตด้วยฌานในสัมมาสมาธิ ไม่ติดในฌานสมาบัติ ๘
การดูจิตต้องผ่านธรรมข้อหนึ่งคือกายคตาสติมาได้ก่อน จึงจะรู้จักจิตที่แท้จริง
การดูจิตในสัมมาสมาธิ(อธิจิตสิกขา)นั้น ต้องเพียรเพ่งพิจารณาจิตอย่างต่อเนื่อง
การดูจิตโดยปฏิบัติสัมมาสมาธิ ย่อมไม่คิดไปเองว่าจิตเป็นอนัตตา
การดูจิตให้รู้เห็นตามความเป็นจริงนั้น เป็นอย่างไร?
การดูจิตที่ทำให้เกิดสัมมาสติได้นั้น ต้องกระทำหรือเจริญให้เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง


ดูจิตด้วยศีล สติ สมาธิ ปัญญา
สติเป็นมรรค ทางเดินของจิต เป็นธรรมที่มีอุปการะมาก ไม่ใช่เจตสิก
อริยมรรค ๘ ทางเดินของ"จิต" สู่ความเป็นอริยะ(อมตธรรม)
เมื่อเข้าถึงจิตที่แท้จริง ย่อมรู้จักสติ สมาธิ ปัญญาได้ถูกต้องตามไปด้วย
สติ สมาธิ ปัญญาเป็นอริยมรรค ฝ่ายโลกุตตรธรรม
อันนักบวช ไม่มีศีล ก็สิ้นดี
ดูจิตให้ดูความพอดีเพื่อปรารภความเพียรละกิเลส (มัชฌิมาปฏิปทา)
ดูจิตให้รู้จักจิตด้วย "สัมมาทิฐิ"
ดูจิตต้องรู้จักจิตด้วยศีล สมาธิ ปัญญา


ดูจิตแบบครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน
ดูจิตตามแบบฉบับครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน ๑ (หลวงปู่ดูลย์)
ดูจิตตามแบบฉบับครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน ๒ (หลวงปู่ขาว)
ดูจิตตามแบบฉบับครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน ๓ (หลวงปู่สิม)
ดูจิตตามแบบฉบับครูบาอาจารย์แต่เก่าก่อน ๔ (หลวงปู่ฝั้น อาจาโร)


ดูจิตแบบรู้ผิดจากความเป็นจริง
ดูจิตโดยไม่รู้จักจิตที่แท้จริง ย่อมเข้าใจผิดคิดว่าจิตเป็นเหมือนปูเสฉวน
ดูจิตโดยไม่ผ่านสติสมาธิ ย่อมไม่เกิดปัญญารู้เห็นตามความเป็นจริง
การดูจิต ที่รู้เห็นผิดจากความเป็นจริงไป เพราะรู้จักจิตผิดๆ


ดูจิตแบบรู้ถูกตามความเป็นจริง
ดูจิตให้เข้าถึงจิตตามพระโอวาทปาฏิโมกข์
การดูจิตตามแบบอริยมรรคมีองค์๘นั้น แตกต่างกับการดูจิตที่ปล่อยไปตามยถากรรม
ดูจิตแบบอบรมบังคับบัญชาได้ แบบพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ
ทำไมต้องดูจิต การดูจิตนั้นสำคัญไฉน???
ดูจิตแบบ สมาธินำปัญญา หรือปัญญานำสมาธิ


ดูจิตติดเฉยโง่
ดูจิตติดเฉยโง่ อัญญาณุเบกขา


ดูจิตติดวิญญาณขันธ์
ดูจิตติดวิญญาณขันธ์ เพราะเข้าใจผิดว่าจิตคือวิญญาณ
รู้หยุดอยู่ที่รู้ คือรู้หยุดอยู่ที่จิตตั้งมั่นชอบ ไม่ใช่รู้หยุดอยู่ที่วิญญาณขันธ์รู้
พวกดื้อรั้นจะให้จิตเป็นวิญญาณขันธ์ให้ได้



ดูจิตติดอาการของจิต
ดูจิตต้องเข้าให้ถึงอธิจิต ไม่ใช่ดูจิตติดกับดักอาการของจิต
การดูจิตโดยขาดพื้นฐานที่ถูกต้อง(ปัจจุบันธรรม) ก็คือ การตามดูอาการของจิตดีๆนี่เอง
ดูจิตที่รู้เห็นผิดจากความเป็นจริง เพราะดูแต่จิตสังขาร


ดูจิตติดกองทุกข์
ดูจิตกันยังไง จึงเห็นว่าจิตเป็นกองทุกข์ไปได้
ดูจิตที่รู้ผิดจากความเป็นจริง ย่อมเห็นจิตเป็นกองทุกข์


ดูจิตติดถิรสัญญา
การดูจิตติดถิรสัญญา แต่หลงเข้าใจไปว่า ทำให้เกิดปัญญาได้
ดูจิตให้ดูที่สมถะและวิปัสสนาเป็นเบื้องต้น


ดูจิตผิดๆเห็นจิตเกิดดับ
ดูจิตติดเกิด-ดับ จนพลาดจากความเป็นจริง
จิตไม่เกิดดับ เพราะจิตไม่ใช่ขันธ์ ๕ จิตจึงไม่ใช่กองทุกข์
ดูจิตกันยังไง? เห็นไปได้ว่าจิตเกิดดับ
การสอนดูจิตที่เข้าใจผิดไปจากความเป็นจริงว่าจิตเกิดดับ
เมื่อจิตเกิด-ดับ การดูจิตจะเป็นไปตามความเป็นจริงได้อย่างไร???


จิตคือหัวใจพระพุทธศาสนา
มาค้นหาเพื่อให้บรรลุถึงมรรคผลนิพพาน ให้ถูกที่ถูกทางกันเถอะ
มาค้นหาเพื่อให้บรรลุถึงมรรคผลนิพพาน ให้ถูกที่ถูกทางกันเถอะ (ต่อ)
มาค้นหาเพื่อให้บรรลุถึงมรรคผลนิพพาน ให้ถูกที่ถูกทางกันเถอะ (จบ)
จิตเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อไม่รู้จักจิตที่แท้จริง ย่อมเข้าไม่ถึงหัวใจพระพุทธศาสนา


จิตคือพุทธะ
จิตคือพุทธะ ฉบับแพร่หลายทุกวันนี้ ไม่ใช่คำสอนของหลวงปู่ดูลย์ทั้งหมด


เปรียบดูจิตกับท่านสัญชัย

การสอนดูจิตในปัจจุบัน เลวร้ายยิ่งกว่าท่านสัญชัยปริพาชกเสียอีก
การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล


ดำเนินตามรอยพระบาท

การทำจิตให้ผ่องแผ้วในหัวใจพระพุทธศาสนานั้น คือองค์แห่งสมาธิในอริยมรรค ๘ นั่นเอง
เดินตามรอยพระบาท (โอวาท) ในวันวิสาขบูชา
พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จะยังคงอยู่กับเราตลอดไป ตราบเท่าที่ยังมีการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา
มาสร้างสติให้เกิดขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวันแม่กันเถิด
ความสำคัญของหัวใจพระพุทธศาสนา
เดินตามรอยพระบาทสู่ความเป็นอริยะ


ธรรมะสู่การปฏิบัติ
ธรรมะสู่การปฏิบัติ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๔
ธรรมะสู่การปฏิบัติ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๔
ธรรมะสู่การปฏิบัติ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๔




Create Date : 21 ธันวาคม 2552
Last Update : 28 พฤษภาคม 2560 13:32:11 น.
Counter : 3240 Pageviews.

33 comment

ในความฝันของใครสักคน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]



สารบัญ Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์



หน้าแรก Blog ธรรมภูต - พระภัทรสิทธิ์