ไปเที่ยว ไปกินกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเพื่อนๆทุกท่านที่แวะชมค่ะ
 
ป้าซิ่งพาไปเที่ยวสุสานญี่ปุ่นที่วัดคาวากุจิ (Kawaguchi Temple) ที่มีพระพุทธรูปไทยอยู่ด้วยค่ะ

ป้าซิ่งอยู่ที่ญี่ปุ่นอำเภอ Kawaguchi จากบ้านเดินไปสถานีรถไฟแค่ 7-10 นาที



ที่บ้านป้าซิ่งจะใกล้ศาลเจ้าคาวากุจิ และ วัดคาวากุจิ ที่อยู่ริมแม่น้ำ
ส่วนศาลเจ้านั้นอยู่ติดถนนและอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านป้าซิ่งมากค่ะ
บ้านป้าซิ่งอยู่ติดกับร้าน Hasegawa เป็นร้านให้เช่าชุดกิโมโน ถ่ายรูป
มีชุดตั้งแต่แต่งงาน, ชุดมงคลสำหรับพิธีต่างๆ, ชุดเด็ก 7-5-3 ขวบ,
เลยไม่ต้องแปลกใจว่าทำไม...ป้าซิ่งมีรูปถ่ายกิโมโน มากพอสมควร

วันนี้จะพาไปเที่ยววัดคาวากุจิ
ที่ป้าซิ่งระลึกพระไทยที่เป็นพระพุทธรูปทองเหลือง ไว้กราบไหว้บูชา
ยามที่เราคิดถึงเมืองไทย ซึ่งเมื่อก่อนป้าซิ่งจะซื้อดอกไม้กำในญี่ปุ่น
ธูปเทียนไป ถวาย มีดอกดาวเรืองยาว 7 ศอก ไปคล้องคอและห่มสไบ
ณ.ตอนนี้ป้าซิ่งมาอยู่เมืองไทยนานถึง 4-6 เดือนคงไม่มีใครดูแล
ปรกติป้าซิ่งจะเปลี่ยนเครื่องถวายทุกๆปี

เจ้าอาวาสวัด ท่านก็ไม่เคยว่าป้าซิ่งเลย ไม่เคยถอดเครื่องถวายทั้งหลายเหล่านั้น
เวลาป้าซิ่งไปบริเวณนั้น ท่านก็จะมาเดินดูแบบสุขุม เงียบ
เราก็ยกมือไหว้ และ สวัสดียามเช้าพูดภาษาญี่ปุ่นกับท่าน
แต่ตอนนี้รู้สึกเจ้าอาวาสเปลี่ยนคนไปแล้ว

เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว เห็นทีคราวนี้เราต้องถอดเครื่ององค์
เพราะเราไม่ได้ปัดกวาดสถานที่เหมือนเมื่อก่อน
คือตอนอยู่ญี่ปุ่นทุกๆเดือนจะไปไหว้ ไปดูแลบริเวณพระพุทธรูปไทย

แต่ตอนนี้เราอยู่เมืองไทยนาน เลยไม่มีใครดูแล
สไบที่ไหล่พระ โดนลมพัดก็หลุดลง มองเห็นแล้วสะเทิ้น
เลยตัดสินใจอธิษฐานขอบอกพระท่านว่า
เราไปอยู่เมืองไทยนานกว่าอยู่ในญี่ปุ่นแล้ว
ลูกขอถอดเครื่องถวายนี้ออกจากองค์ท่าน เพื่อเห็นทองเหลืองล้วนๆแบบที่เคยมีมาตั้งแต่แรก แล้วกันค่ะ
หนูขอโทษด้วยที่ไม่ได้ปฏิบัติเหมือนแต่ก่อน

รูปนี้ก่อนปลดเครื่ององค์ออก



รูปนี้ถอดเครื่ององค์ออกแล้วค่ะ



รูปพระนอนก่อนปลดเครื่ององค์ออก





ภาพวัดคาวากุจิ ปัจจุบันนี้เป็นแบบแนวทันสมัย
เมื่อก่อนจะเป็นวัดสีทองตัดสีแดงของจั่วหลังคา สวยงามสไตร์ญี่ปุ่น
หลังจากที่รื้อและทำใหม่ ตลอดจนสุสานต้องย้ายที่จากด้านล่างขึ้นมาด้านบน ดูดีขึ้นกว่าเดิม
หากถามว่าสุสานเก่าดีกว่าไหม? เราก็คิดว่าดีนะเป็นธรรมชาติ
แต่ที่เขารื้อเพราะระดับพื้นที่อยู่ระดับน้ำ
ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาถึงอนุญาติให้ทำใหม่
เพราะไม่งั้นหากเกิดภาวะน้ำท่วม จะแย่แน่
เลยย้ายที่ทำใหม่ เดี๋ยวนี้ดูไม่น่ากลัวกว่าเมื่อก่อน



ภาพล่างนี้เป็นภาพสุสานที่ถูกย้ายที่ไปด้านบนแล้ว
แต่ยังเหลือเค้าเดิมอยู่ มองลงไปแล้วน้ำตาไหล





ภาพสุสานเดิม ยังมีลูกๆทายาทมาเคารพหลุมฝังศพอยู่
แต่มีส่วนของสุสานที่ไม่มีญาติจะกองรวมด้วยกัน มาอยู่อีกส่วนแต่ไม่ไกล
เมือสมัย 18 ปีก่อนโน้น ป้าซิ่งเคยไปเล่นหิมะใกล้ๆ ซึ่งห่างกันประมาณพอสมควร
แบบที่เรียกว่าสามารถมองเห็นสุสานเบื้องล่างได้
ป้าซิ่งเคยเห็นคุณป้าแก่ๆใส่ชุดกิโมโนยืนอยู่กลุ่มสุสานที่ไม่มีญาติด้วย
แล้วช่วงนั้นก็มีกลิ่นธูปลอยมาบริเวณจมูกพอดี
เราก็มองไปแบบชะงักจังงังเหมือนโดนสะกด
ว๊าย ใครจะยืนในกลุ่มกอสุสานได้แบบนั้น นอกจากผีแล้ว
และก็หนาวด้วย ใครจะไปมีเวลายืนเหม่อลอยได้ คิดแล้วก็ขนลุก

ตอนนี้เปลี่ยนมาอยู่ด้านบน ดูทันสมัยขึ้น ไม่น่ากลัว
แต่ก็เงียบ จนชักปอดแหก แต่ก็เดินแบบเงียบๆ
มองดุไปยอดเสาก็มีกล้องวงจรปิดด้วย












ไม้ยาวๆนี้ชื่อว่าอะไรนะ จำไม่ได้แล้ว แต่ป้าซิ่งเคยไปตอบคำถามของกระทู้เกี่ยวกับโคมไฟญี่ปุ่น
ก็เลยไปเสิร์ชหา แล้วก๊อปปี้มาเข้าบล๊อคป้าซิ่งเลยดีกว่า มันยาวดี
===========================
ปัจจุบันประเพณียังมีอยู่จริงนะคะ มีทุกปี คือการถือโคมไปรับดวงวิญญาณมาเยี่ยมบ้าน และจะมีวันที่ไปส่งวิญญาณกลับคืนสู่สุสาน
รูปร่างหน้าตาโคมตอนไปสุสาน จะเป็นโคมกระดาษชนิดย่อส่วนตามโครงสร้างของไม้ไผ่วงกลม เวลาเก็บก็จะเรียบแบน
เวลาใช้งานก็ดึงขึ้นมาจะเป็นรูปโคม ส่วนฐานจะมีช่องเพื่อนำเทียนรับวิญญาณเข้ามาในโคม
มีก้านยาวไว้ถือโคม โคมบางอันออกแบบเพื่อหิ้วได้

เวลารับเทียนเข้าเนื้อที่โคมที่เรียบแบนแล้ว ต้องรีบหน่อยเดี๋ยวลมพัดเทียนดับ ต้องเริ่มอธิษฐานให้บรรพบุรุษกลับบ้านอีกครั้ง
เพราะฉะนั้นพอรับไฟหรือเทียน ก็ต้องรีบดึงโคมจากเรียบแบบให้เป็นรูปโคมให้ทันถ่วงทีค่ะ
พอมาถึงบ้าน ก็รูดโคมกระดาษลง เพื่อนำเทียนเข้าไปไว้ในอีกโคม รูปทรงเหมือนโคมกระเบื้องที่อยู่หน้าแทนบูชาบรรพบุรุษ
โคม 2 เซ็ทนี้จะมีอยู่ตลอด สามารถเก็บมาใช้ได้ทุกปี

เวลาถือโคมที่เทียนติดไฟเพื่อเดินทางนำดวงวิญญาณกลับมาเยี่ยมบ้าน
เราก็ต้องจำทางด้วยว่า ตอนที่นำวิญญาณมานั้นเดินมาเส้นทางไหน เวลาเอาดวงวิญญาณกลับคืนสู่สุสานอย่าเดินเส้นทางเดิม
คนญี่ปุ่นกลัวว่าดวงวิญญาณจะจำเส้นทางกลับบ้านได้
สมมุติตอนรับดวงวิญญาณเส้นทางออกจากบ้านไปทางซ้าย ขาส่งกลับให้เดินทางไปทางขวา
คนญี่ปุ่นกลัวว่าดวงวิญญาณจะจำเส้นทางกลับบ้านได้
สมมุติตอนรับดวงวิญญาณเส้นทางออกจากบ้านไปทางซ้าย ขาส่งกลับให้เดินทางไปทางขวา
คือทำไงก็ได้ให้ดวงวิญญาณหลงเส้นทาง กลับบ้านไม่ถูกนั่นเองค่ะ

สำหรับเรื่องโคมกระดาษที่ลอยตามน้ำเป็นรูปกระทงนั้น สำหรับคนญี่ปุ่นที่มีภูมิลำเนาอยู่ใกล้ทะเลมากกว่า
หรืออาจจะเป็นว่า ไม่ได้ทำสุสาน หรือ มีสุสานแล้วลูกหลานรุ่นต่อมาไม่มีใครสนใจบรรพบุรุษ
บางทีบรรพบุรุษตายไปนานแล้ว ลูกหลานไม่ไปสุสานของบรรพบุรุษ ด้วยจากสาเหตุนาฯนับประการ
โคมลอยน้ำตามความเชื่อ คือ สิ่งทดแทนของลูกหลาน ที่อยากจะบอกกล่าวแทนการที่จะไปสุสาน

เช่น หากไม่ได้สนใจเป็นเวลาหลายปี ไม่เคยมาไหว้ที่สุสาน
เพราะปรกติเมื่อมีสุสานที่วัด ลูกหลานก็ต้องมากราบไหว้ วันสิ้นปีหรือปีใหม่ก็ต้องมา ,วันอุบ้ง เดือนสิงหาคม กับ วันที่ 13 กรกฏาคม
ปล่อยให้บริเวณแท่งหินตระกูลตนเองรกร้าง สภาพแจกัน ฐานใส่ธูป ไม่มีการขัดถู
อีกเรื่องคือทางวัดมีการส่งจดหมายให้มาทำบุญ ซื้อไม้ที่เสียบอยู่ด้านหลัง คือไม้ยาวๆประมาณเมตรเศษๆ ราคาประมาณ 5,000 yen
บนไม้มีเขียนตัวหนังสือ ประจำปีมั๊ง??? เมื่อทางวัดไม่เห็นมีใครมา พอได้เวลาไม่มีญาติมาไหว้สุสานจริงๆแน่แท้แล้ว (คงหลายปี)
ทางวัดจะรื้อถอนแท่งหินนี้ออกไป ไปอยู่รวมกับกลุ่มผีไม่มีญาติ เพื่อให้บุคคลอื่นได้มาซื้อที่ดินหรือเช่าที่ว่างนี้ตั้งสุสานขึ้นใหม่







ภาพสุดท้ายนี้ เป็นถังรองน้ำจากก๊อก และมีตะบวยตักน้ำ
แล้วหิ้วไปที่สุสานบรรพบุรุษ
เพื่อทำการชำระทำความสะอาดบริเวณ
ตะบวยก็ตักน้ำจากถัง ไปรดแท่งหินอ่อน
เอาน้ำใส่แจกัน และใส่ดอกไม้
อาหาร ,เครื่องดื่ม, ของหวาน แล้วแต่จะไหว้
บางคนก็เขาก็ไหว้เบียร์ก็มีนะคะ
และ ของเล่นสำหรับเด็ก เพราะเสาหินสุสานบรรพบุรุษก็มีเด็กตายร่วมอยู่ด้วย










Create Date : 25 มีนาคม 2557
Last Update : 25 มีนาคม 2557 10:46:22 น. 0 comments
Counter : 2304 Pageviews.
 
 

ป้าซิ่ง Naomichan
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 70 คน [?]




........หลังไมค์ถึงป้าซิ่งค่ะ.........
[Add ป้าซิ่ง Naomichan's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com