วันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2560 สักการะพระบรมโกศ ร.9 ครั้งที่ 4
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560 ได้ไปสักการะพระบรมโกศ ร. 9 เป็นครั้งที่ 4ได้รูปโพสการ์ด รูปใหม่มาด้วยไปกับเพื่อนหญิง อีก 2 คนจอดรถไว้แถวพาหุรัดพลาซ่ามาก่อนเวลานัด บ่ายโมง เลยนั่งรอเวลาที่สตาร์บัค พาหุรัดเพราะฝนตกด้วยค่ะ วันนี้ ฝนตกพายุเข้าจุดนัดพบของเราที่พระแม่บีบมวยผม ใกล้โรงแรมรัตนโกสินทร์เป็นจุดคัดกรองประชาชน ผ่านประตูเซ็นเซอร์วันนี้คนเยอะเหมือนเช่นเคย แถมฝนตกไป 2 รอบกว่าจะกราบสักการะเสร็จ ก็สามทุ่มพอดีค่ะร่วมซื้อสมุดภาพไดอารี่ เล่มละ 200 บาทปกหน้าปกหลังภายในเล่มขอส่งเสด็จองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพล อดุลยเดช สู่สวรรคลัยน้อมด้วยเกล้า......
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 " สักการะพระบรมโกศ ครั้งที่ 3 "
วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน 2559 ไปสักการะพระบรมโกศ ครั้งที่ 3 กับเพื่อนสมัยเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายวันนี้ต้องตื่นตีสามครึ่ง อาบน้ำแต่งตัวขับรถออกจากบ้านตีสี่นัดเจอะเพื่อนตอนตีห้า หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดิ่งตรงไปจอดรถใหม่ชื่อ " ตลาดพาหุรัด " อยู่ตรงข้าม โรงเรียนเพาะช่างที่จอดรถนี้ 24 ชั่วโมง ค่าจอดชั่วโมงละ 30 บาทป้าซิ่งเดินข้ามถนนไปที่โรงเรียนเพาะช่าง ฟ้ายังมืดอยู่เลยเวลาเกือบๆตีห้านั่งแท๊กซี่ไป 60 บาท ให้ไปจอดลงที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพราะนัดเพือนไว้ใกล้ๆจุดคั่นกรองสัมภาระตรงประตูที่มีทหารเฝ้าวันนี้ผู้คนเยอะแยะมากมายกว่าเก่าค่ะแต่ระบบเริ่มดีขึ้น จากที่เรามาสักการะครั้งที่ 2 ต้องปูเสื่อมาคราวนี้มีเก้าอี้นั่งเป็นคิว เป็นแถวมีระเบียบขึ้นมากเลยค่ะมีที่นั่งเป็นพยัญชนะ ก ข ค ง จ ช เป็นแถวล๊อคยาวมากแต่ละล๊อคก็จะแบ่งเป็นตัวเลขย่อยในล๊อคนั้นอีกเช่น ก 1 ,ก 2........................ ก 15 จบไปหนึ่งแถวเริ่มแถว ข อีกแถว ก็จะเป็น ข 1 , ข 2......................ข 15 ง่ายต่อการเรียกคิวเดินไปสักการะดีมากเลยค่ะอีกทั้งใครที่จะเข้าห้องน้ำ ก็ควรจดจำล๊อคตัวเองไว้ให้ดีเพราะจะได้เดินกลับเข้าแถว เข้ามาที่ล๊อคตัวเองได้ถูกโดยสังเกตุตรงพยํญชนะ ก ข ค ง จ ช นั่นแหละรับบัตรคิวอย่างรูปบน เวลาต้องการไปห้องน้ำที่หัวแถวไปทำธุระห้องน้ำเสร็จ ก็สามารถเดินกลับเข้าแถวแล้วยื่นบัตรกลับคืนเจ้าหน้าที่เขาไปมีอาหารมาบริจาคส่งถึงที่มีเคาน์เตอร์น้ำให้เดินไปเข้าคิวและอาจจะมีน้ำมาเสิร์ฟถึงที่เลยค่ะถุงขยะก็มีแม่บ้านหรืออาสาสมัครเดินมารับไปเรียกแถวมานั่งเต็นท์จุดรอคอยเกือบถึงประตูวังแล้วค่ะวันนี้เข้าวัง ก็ผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังเหมือนมาสักการะครั้งแรกสรุปวันนี้มาเข้าตอนตีห้าครึ่ง สำเร็จการสักการะตอนบ่ายสองโมงขาออกมาตรงประตูเทวาภิรมย์ ก็ได้รูปภาพพระบรมโกศในหลวง ร.9และข้าวเปลือก พอเพียง ลายฝีพระหัตถ์พระเจ้าอยู่หัว ร.9
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 " สักการะพระบรมโกศ " ครั้งที่ 2
วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559 มีโอกาสได้ไปสักการะพระบรมโกศคราวนี้ ป้าหน่อย และ น้องอั้ม เพื่อนในพันทิป อยากไปกับป้าซิ่งด้วยเราเลยนัดกัน ให้ทุกคนมาบ้านป้าซิ่งให้หมดเลยแล้วป้าซิ่งก็ขับรถไปจอดที่ ลานจอดรถใกล้การไฟฟ้าวัดเลียบที่ลานจอดรถนี้ติดใกล้กับวัดแขกและห้างฯอินเดียจอดได้ถึงสองทุ่มเท่านั้นค่ะขับรถไปประมาณหนึ่งชั่วโมงจากบ้านแถวมีนบุรีไปจอดที่พาหุรัดจากนั้นก็นั่งแท๊กซี่ไปท้องสนามหลวง 60 บาทได้ค่ะลงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คราวนี้ป้าซิ่งมาไม่เหมือนครั้งแรกที่มาสักการะแล้วทุกอย่างดูแล้วคนจะยิ่งเยอะมากขึ้น ต้องไปเข้าคิวที่จุดบอลลูนลอยอยู่บนฟ้า "จุดท้ายคิว" เป็นที่สังเกตุตอนที่มายังต้องนั่งพื้นปูเสื่อในคิวกัน หาเสื่อมาปูกันมาเองในปัจจุบันนี้ มีเก้าอี้แล้วนะคะ และก็มีเขียนโซน ก ข ค ง จ ชและมีตัวเลขล๊อคพยัญชนะไว้ เช่น ก 1,ก2 , ก 3.......ก 15 เรียงไปแนวยาวส่วนครั้งที่ 2 ของเรายาวเป็นงูขดไปเรื่อยๆค่ะมีอาหารและน้ำ นำมาบริจาคให้ถึงที่เลยแต่บางทีก็ต้องช่วยเหลือตัวเองบ้างนะคะพวกขยะก็นำไปทิ้งให้เป็นที่ๆเขาจัดให้บางทีก็มีคนถือถุงขยะใบใหญ่ มาให้เราทิ้งถึงที่เลยก็มีจากประสบการณ์คราวก่อนที่มา ใส่รองเท้ามีส้นและหุ้มส้นมา เมื่อยมากค่ะคราวนี้ต้องพกรองเท้าแบบผ้าพับได้มาใส่ รัดเท้าดี ไม่มีส้นรองเท้าแล้วเพราะตอนเดินไปถึงพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต้องถอดรองเท้าออกอยู่แล้วค่ะทางเจ้าหน้าที่ในวังเขาไม่เน้นเรื่องรองเท้า เขาเน้นที่ชุดแต่งกายต้องสุภาพใครไม่สุภาพก็มีเคาน์เตอร์ให้เปลี่ยนชุด โดยแลกกับบัตรประชาชนถ้าสักการะเสร็จก็เอาผ้าที่ยืมมาคืน แล้วเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์เขาจะคืนบัตรประชาชนให้อาหารและของหวาน มีมาเรื่อยๆค่ะ ได้เลื่อนต่อไปถึงกลางทาง มีเก้าอี้ให้นั่งแล้วค่ะพอดีวันนี้ท่าน ว.วชิรเมธี มาแถมเดินแจกหนังสือธรรมะของท่าน ว ด้วยมือท่านเองด้วยค่ะซาบซึ้งท่านแจกให้คนละเล่มค่ะพอได้เวลาเกือบห้าโมงเย็นได้เคลื่อนมาอยู่คิวตรงกระทรวงกลาโหมเลยต้องบอกเพื่อนให้เฝ้าที่ไว้ เราจะกลับไปที่ลานจอดรถ กลัวรถปิดไม้กั้นไม่ให้รถออก เพราะปิดลานจอดตอนสองทุ่มเพราะไม่นึกว่าวันนี้ จะมีพิธีภายในวังมากมายรวมด้วยวันนี้เป็นวันที่ พระบรมโอรสาธิราช เสด็จมาเปลี่ยนเครื่องทรงพระแก้วมรกต บอกเพื่อนเดี๋ยวจะกลับมาที่แถวอีกขอไปหาที่จอดรถใหม่ก่อน ป้าซิ่งก็เดินมาแถวใกล้ๆท่าน้ำเจ้าพระยา จะมีมอเตอร์ไซร์รับจ้างเพราะชั่วโมงเย็นๆแบบนี้รถติดมาก พี่แมงกะไซร์ เร็วสุดค่ะพี่มอเตอร์ไซร์ คิด 50 บาท ไปส่งถึงลานจอดรถเลยเลยไปได้ที่จอดรถใหม่ตรงข้าม วิทยาลัย เพาะช่างใหม่เอี่ยมจอดได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ค่าจอด 30 บาทต่อชั่วโมงกลับมาที่จุดรอคิวอีกที โทรหาเพื่อนว่าคิวเลื่อนไปอยู่ตรงไหนแล้วเพื่อนบอกใกล้ๆจุดเต็นท์หน้าประตูวิเศษไชยศรีแล้วค่ะได้เวลาเลื่อนคิวไปถึงในพระบรมมหาราชวังแล้วยามค่ำคืน บรรยากาศก็แตกต่างจากเวลากลางวันก็เย็น เงียบ สงบ มืด มีไฟสีอำพันส่องสว่างตามยอดหลังคาสักการะเสร็จเรียบร้อย ออกมาก็จะได้รูปภาพพระบรมโกศและข้าวเปลือกพอเพียงพวกเรามาตั้งแต่ตอน 11:00 น. สักการะเสร็จตอน 21:00 น.วันนี้นานมากหลายชั่วโมงเลย แต่ไม่รู้สึกเหน็บเหนื่อยเพราะมีเวลานั่ง เดิน กิน ไปเรื่อยๆ แต่กลับถึงบ้านนอนหลับสบายเลยค่ะขอเก็บภาพเป็นที่ระลึกในบล๊อค ณ.ดิโอล สยาม พลาซ่า ค่ะ
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 " สักการะพระบรมโกศ " ครั้งที่ 1
ป้าซิ่งเข้าไปสักการะพระบรมโกศ ณ.เวลานี้ได้ 3 ครั้งแล้วเลยถือโอกาสทำบล๊อค เพราะแต่ละครั้งไปกับเพื่อนไม่ซ้ำกันค่ะวันแรกที่มานี้ ถือว่าโชคดีมากๆเลย เข้าคิวไม่นาน คนก็ไม่เยอะอีกทั้งนักท่องเที่ยวก็เริ่มเข้าชมวัดพระแก้วได้ตามปรกติจึงเป็นวันที่เจ้าหน้าที่ต้องวุ่นวายกับการปฏิบัติอีกทั้งทางต่างจังหวัดที่นั่งรถบัสฟรีจากต่างตำบลและอำเภอยังไม่มีการเตรียม นั่งรถเข้ากรุงเทพฯกันเป็นทิวแถวบนท้องถนนเพราะก่อนมาสักการะ คนทางต่างจังหวัดเขาก็ต้องลงทะเบียนคนที่จะไปสักการะและเตรียมรถกันก่อน เราที่ 1 พย.2559 พวกเราใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่ง ก็เข้าสักการะสำเร็จได้เริ่มอยู่ตรงจุดเต็นท์รอคอยตอน 11:00 น.สักการะเสร็จ ออกมาตอนเที่ยงครึ่ง===========================วันนี้มาอีกเส้นทาง โดยทางรถไฟ ขึ้นที่ลาดกระบังเป็นขบวนรถให้คนไทยนั่งฟรีมานานนมแล้ววันนี้ผู้หญิงห้ามใส่กางเกงสีดำ ต้องกระโปรงคลุมเข่าหรือผ้าถุงสีดำและเสื้อปกปิด และแขนยาว ห้ามแขนกุดขึ้นรถไฟมากลางทางนี่ พวกเราไม่ได้นั่งเลยค่ะเพราะคนเต็มบนรถไฟที่นั่งเต็มหมดแล้วยืนนานมาก ดีที่ในรถไฟมีพัดลม ไม่งั้นต้องเป็นลมแน่ๆมาลงที่่สถานีหัวลำโพง เดินออกมาทางถนนหลัก จะมีรถบัส รถตู้ บริการไปยังท้องสนามหลวงฟรีรถมาจอดตรงจุดป้าย พิพิทธภัณฑ์สถานแห่งชาติแล้วพวกเราทั้ง 4 คน ก็เดินไปตรงจุดรอคอยใกล้หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผ่านประตูคัดกรองประชาชน และ เซ็นเซอร์สัมภาระที่ติดมากับตัวพร้อมโชว์บัตรประชาชนช่วงเวลาราชการ สำหรับวันนี้ นักท่องเที่ยวเข้าทางประตูวิเศษชัยศรีส่วนเราปวงประชาชนทั้งหลาย เข้าทางประตูมณีนพรัตน์ถ้าบ่ายสามโมงหมดเวลาราชการ นักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าแล้ว จบการเข้าชมประชาชนได้ใช้ประตูวิเศษชัยศรีตามเดิม ซึ่งจะลดระยะเส้นทางเดินไปสักการะพระบรมโกศเมื่อเดินเข้าประตูมณีนพรัตน์ การเดินก็ต้องผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังแล้วเดินเรื่อยๆไปจนถึงหน้าพระบรมมหาราชวังมาถึงตรงนี้ วันนี้ยืนคอยนานหน่อยค่ะ เลยมีโอกาสถ่ายรูปในวังกับเขาบ้างยืนนาน เจ้าหน้าที่ก็บอกให้นั่งกับพื้นคอยไปก่อน ข้างในมีพิธีคนชั้นผู้ใหญ่ที่มาในพิธีกำลังเดินทางออกอยู่นั่งกับพื้นกันแล้วกันทุกคน เพราะต้องคอยอีกสักระยะเตรียมลุกขึ้นยืน เดินทางเข้าไปสักการะไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทก่อนที่สักการะ ต้องถอดรองเท้าใส่ถุงและหิ้วไปด้วยเพราะเวลาไปสักการะพระบรมโกศ ขึ้นบันไดอีกทางและลงอีกทางทางไม่เหมือนกัน สักการะเสร็จเดินลงมาจะมีตู้บริจาคเงินตามน้ำใจค่ะจากนั้นก็ไปคืนถุงที่เจ้าหน้าที่ แล้วเดินออกมาอีกประตูเทวาภิรมย์เดินออกมาประตูแรกแต่ยังเป็นประตูชั้นใน ได้รับรูปพระบรมโกศต่อจากนั้นก็ได้น้ำดื่มสะอาดขวดเล็กและ พัดพลาสติกมีเลข ๙ และข้าวเปลือก บรรจุผ้าแก้วมีเขียนคำว่า " พอเพียง " ลายมือของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสร็จพอดีตอนเที่ยงครึ่ง ได้เวลาหาของกินที่คนเข้านำบริจาคประชาชนจากนั้นเราก็ขึ้นรถบัสกลับบ้านสู่รามคำแหงของพวกเราค่ะ
วันที่่ 26 ตุลาคม 2559 " วันลงนามถวายความอาลัย " ไปคนเดียว
วันก่อนไปเป็น จิตอาสา ที่ท้องสนามหลวงเรายังไม่ได้ลงนามถวายความอาลัย แด่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เลยเหตุเพราะยังแต่งตัวไม่สุภาพค่ะ และรองเท้าด้วยวันนี้เลยมาคนเดียวแล้ว เพราะจวนวันที่จะไม่มีให้ลงนามถวายวันหน้าจะมีการสักการะพระบรมโกศ เริ่ม 29 ตุลาคมการแต่งตัวเข้าพระบรมมหาราชวังเพื่อลงนามถวาย ต้องแต่งตัวแบบสุภาพกระโปรงคลุมเข่า เสื้อต้องแขนยาวเรียบร้อยรองเท้าแตะไม่ได้ ต้องรองเท้าคัชชูหุ้มส้นวันนี้เดินทางคนเดียว ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถใกล้ๆการไฟฟ้าวัดเลียบ ถนน จักรเพชรทางฝั่งห้างสรรพสินค้าอินเดีย และ วัดแขกแล้วนั่งรถตุ๊กๆบอกไปสนามหลวง ลงหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นจุดเข้าคิว แต่ไม่ต้องรับบัตร เป็นเต็นท์สีขาว เก้าอี้ขาววันนี้ลงนาม ไม่ต้องมีคิวอะไร เดินลิ่วๆผ่านประตูวิเศษไชยศรี ได้เลยช่วงเข้าคิวตรงทางเดิน ไม่มีไรทำ ก็ถ่ายรูปตรงสนามหญ้าสีเขียวขจีพอถึงเวลาเดินต้องปิดเสียงมือถือกันแล้วค่ะมองไปยังที่พระเจ้าอยู่หัวประทับตรงฝั่งพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทแล้วยกมือพนมไหว้สักการะ ระลึกถึงคุณงามความดี ที่พระองค์มีให้กับประชาชนชาวไทยได้เวลาเกือบถึงอีกไม่กี่นาที มีเสียงเจ้าหน้าที่ให้คุณป้าๆคุณลุงๆหรือแม้แต่ใครบางคนที่ใส่รองเท้าแตะมา ให้ไปถอดริมฟุตบาธข้างทางแต่พวกคนที่ใส่รองเท้าถูกระเบียบก็สามารถใส่ขึ้นไปได้เลยเจ้าหน้าที่ เรียกทุกคนเข้าไปพอได้จำนวนประมาณว่าเต็มห้องแล้วให้คนข้างหลังคนหน้าแตะไหล่คนอยู่ข้างหน้าประมาณหนึ่งแขนแล้วนั่งลงผู้หญิงนั่งพับเพียบ ปลายเท้าชี้ไปข้างขวาทั้งสองข้าง แล้วก้มลงกราบ 1 ครั้งซึ่งมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ บานใหญ่และมีการตกแต่งดอกไม้สด สวยงามจากนั้นเดินไปห้องซ้ายมือ มีเจ้าหน้าที่สวมชุดแต่งกายทหารหญิงสีขาวมีปลอกแขนสีดำข้างซ้าย นั่งบริการอยู่ที่ชุดโต๊ํะเก้าอี้ ตรงหน้ามีสมุดลงนามรอให้ประชาชนได้เขียนชื่อลงนามถวายความอาลัยแต่องค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะที่เราเขียนอยู่ไม่รู้น้ำตามาจากไหนอาบเต็มแก้มอยากจะหยุดร้องก็หยุดไม่ได้นะ เขียนชื่อไปร้องไห้ไปเราเขียนเยอะด้วย เพราะเขียนชื่อทุกคนในครอบครัว ส่วนนามสกุลนั้นทำเป็นปีกกาไว้เวลาคนเดินออกมา เราก็ยังเดินออกไม่ได้ ขอเวลาหลบตรงประตูมุมนึงก่อน เพียงเพราะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แต่ทุกคนได้เดินออกไปกันหมดในกลุ่มคนที่เข้าห้องมาสักการะสักพักก็ต้องออก เด๊ว เจ้าหน้าที่อาจจะไล่เราได้การลงนามก็เสร็จภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นค่ะนับตั้งแต่เดินเข้ามาที่เต็นท์หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ถึงเสร็จการลงนามถวายความอาลัยเดินออกมา ก็มาเจอะกับผู้ชายคนหนึ่งมีกระดาษม้วนๆอยู่หลายแผ่น กระดาษทั้งหลายเหล่านั้นเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาล ๙ ฉายพระองค์อยู่องค์เดียว เราเลยขอยืมผู้ชายคนนั้นว่าอยากขอชูพระองค์ขึ้นเหนือหัวหน่อยนะคะอยากมีภาพเป็นที่ระลึกด้วย คุณช่วยถ่ายให้ด้วยได้ไหมคะผู้ชายคนนั้น ยินดีเป็นอย่างยิ่งค่ะเราขอขอบคุณ คุณผู้ชายคนนั้น มา ณ.ที่นี่ด้วยค่ะเดินออกมากระทรวงกลาโหม เซลฟลี่คนเดียวเห็นท้องฟ้าครึ้มๆอยู่ น่ากลัวฝนจะตกอีกแล้วค่ะเดินหารถตุ๊กๆกลับ โดยออกมาทางหลังกระทรวงกลาโหมผ่านบ้านหม้อแหล่งขายเพชรและอัญมณี ตัดมาทางพาหุรัด มาลงที่จอดรถใกล้การไฟฟ้าวัดเลียบจ่ายค่าตุ๊กๆไป 60 บาท ราคาเดียวกับขามา คราวหน้าจะมาถวายสักการะพระบรมโกศอีกค่ะ